คู่มือวิธีใช้กระเป๋าคริปโต MetaMask | ฟังก์ชัน วิธีเปิดบัญชี และวิธีเริ่มต้นการใช้งาน

ทำไมถึงเราจึงน่าเชื่อถือ?
ทำไมถึงเราจึงน่าเชื่อถือ?

MetaMask คือกระเป๋าคริปโตอเนกประสงค์ที่ช่วยจัดการคริปโตเคอร์เรนซีต่าง ๆ โดยเฉพาะ Ethereum และสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) ได้

สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยอาจรู้สึกว่า MetaMask มีวิธีการใช้งานค่อนข้างซับซ้อน แต่เมื่อเข้าใจฟังก์ชันพื้นฐานแล้ว ทุกคนสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับ MetaMask ซึ่งเป็นกระเป๋าคริปโตที่มีความโดดเด่น เราจะอธิบายถึงคุณลักษณะ ฟังก์ชัน วิธีการเริ่มต้นใช้งาน และวิธีการใช้งานอย่างละเอียดในรูปแบบที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น นอกจากนี้ เรายังจะอธิบายความเสี่ยงและแนะนำข้อควรระวังในการใช้งาน

MetaMask คืออะไร?

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ MetaMask

MetaMask คือ Ethereum Wallet ที่ใช้จัดการคริปโตเคอร์เรนซีต่าง ๆ เช่น Ethereum และโทเค็นมาตรฐาน ERC-20 เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากในการจัดการ Altcoins และ NFT และถือเป็นเครื่องมือที่จำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้บริการ DeFi (การเงินแบบกระจายศูนย์) และตลาด NFT

มีความแตกต่างจาก Rakuten Wallet และกระดานเทรดคริปโตที่จัดการ Private Key ให้กับผู้ใช้ เพราะในการใช้ MetaMask ผู้ใช้จะต้องจัดการ Private Key ด้วยตนเอง

คุณลักษณะเด่นของ MetaMask

MetaMask เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้ที่สนใจคริปโตเคอร์เรนซีและเหรียญมีมคุณลักษณะของ MetaMask มีดังนี้

  • กระเป๋าคริปโตอเนกประสงค์: MetaMask ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับการจัดเก็บคริปโตเคอร์เรนซีเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันที่หลากหลาย นอกจากการรับและส่งคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Ethereum และ Stablecoin แล้วยังรองรับการ Swap โทเค็น การจัดการ NFT การเชื่อมต่อกับ DApps และการสลับเครือข่ายบล็อกเชนต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีบทบาทเป็น Polygon Wallet ที่รองรับเหรียญ Layer 2 อย่าง POL
  • รองรับหลายแพลตฟอร์ม: MetaMask มีให้บริการในรูปแบบส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันมือถือ ทำให้สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์และแพลตฟอร์มหลากหลายรูปแบบ แม้จะอยู่บนเครือข่าย Ethereum เป็นหลักแต่ก็รองรับบล็อกเชนเครือข่ายอื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยความยืดหยุ่นนี้ ผู้ใช้สามารถใช้กระเป๋าคริปโตใบเดียวกันผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ และเข้าถึงคริปโตเคอร์เรนซีและ DApps ที่หลากหลายได้ อย่างไรก็ตาม กระเป๋าคริปโตอาจไม่รองรับบางสิ่งบางอย่าง เช่น เกม NFT อย่าง STEPN
  • อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้: MetaMask ถูกออกแบบมาให้ผู้เริ่มต้นที่มีความรู้ทางเทคนิคเพียงเล็กน้อยสามารถเริ่มต้นการใช้งานได้ในทันที ด้วยการออกแบบที่ดูเรียบง่าย ทำให้การจัดการและการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีเป็นเรื่องสะดวกสบายแม้จะมีเทคโนโลยีที่ซับซ้อนอยู่เบื้องหลัง แต่ผู้ใช้สามารถใช้งานกระเป๋าคริปโตได้ราวกับแอปพลิเคชันทางการเงินทั่วไป

ความปลอดภัยของ MetaMask

MetaMask มาพร้อมกับฟังก์ชันความปลอดภัยพื้นฐานในฐานะกระเป๋าเงินคริปโต แต่ความปลอดภัยส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานของผู้ใช้ ดังนั้น ผู้ใช้จึงควรใช้งานอย่างระมัดระวัง

MetaMask เก็บ Private Key ของผู้ใช้ในรูปแบบการเข้ารหัสบนอุปกรณ์ โดย Private Key จะไม่ถูกเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ของ MetaMask ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการแฮ็กบนศูนย์ข้อมูล นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์สำรองข้อมูลด้วย Secret Recovery Phrase หรือ Seed Phrase ที่ใช้สำหรับการกู้คืนกระเป๋าคริปโตในกรณีที่อุปกรณ์สูญหาย

Secret Recovery Phrase และ Private Key มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสิ่งเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วทั้ง 2 สิ่งแตกต่างกัน โดย Secret Recovery Phrase เปรียบเสมือนแม่กุญแจที่ใช้สำรองข้อมูลของกระเป๋าคริปโตทั้งหมด ส่วน Private Key จะถูกสร้างขึ้นจาก Secret Recovery Phrase

หากมี Secret Recovery Phrase คุณจะสามารถกู้คืนบัญชีและ Private Key ทั้งหมดในกระเป๋าคริปโตได้ ในขณะที่ Private Key จะใช้ได้กับบัญชีเฉพาะเท่านั้น และจะถูกใช้เมื่อต้องการโอนย้ายหรือเข้าถึงบัญชีในกระเป๋าคริปโตใบอื่น ซึ่งทั้ง 2 สิ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญมากและผู้ใช้ควรเก็บรักษาอย่างระมัดระวัง

คุณลักษณะ Secret Recovery Phrase Private Key
รูปแบบ คำภาษาอังกฤษ 12 คำ (หรือ 24 คำ) ตัวอักษรเลขฐานสิบหก 64 ตัว
การสร้าง สร้างอัตโนมัติเมื่อสร้างกระเป๋าเงิน สร้างจาก Recovery Phrase
การใช้งาน การกู้คืนกระเป๋าเงิน การสร้างที่อยู่หลายที่อยู่ การเข้าถึงและการลงนามสำหรับที่อยู่เฉพาะ
การจัดการ หนึ่ง Phrase สามารถจัดการได้หลายที่อยู่ มี Private Key ที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละที่อยู่
ความปลอดภัย สูงมาก (จำง่ายและลดข้อผิดพลาดในการป้อน) สูง (แต่ยากในการจัดการเพราะมีความยาว)
ความง่ายในการสำรอง ค่อนข้างง่าย (เพียงจดบันทึกคำ) ค่อนข้างยาก (ต้องบันทึกตัวอักษรยาวอย่างถูกต้อง)
การใช้เมื่อกู้คืน ใช้ได้โดยตรงเมื่อกู้คืน MetaMask โดยปกติผู้ใช้จะไม่ได้จัดการเองได้โดยตรง

MetaMask มีการพัฒนาและเสริมความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากเป็น Hot Wallet (กระเป๋าคริปโตที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา) จึงมีความปลอดภัยน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Cold Wallet (กระเป๋าคริปโตรูปแบบออฟไลน์) โดยอาจเสี่ยงต่อการโจมตีแบบฟิชชิ่ง เว็บไซต์ที่มีเจตนาร้าย หรือมัลแวร์ต่าง ๆ

คุณสมบัติ Hot Wallet Cold Wallet
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เชื่อมต่อตลอดเวลา ออฟไลน์
ความสะดวก สูง (ทำธุรกรรมได้ทันที) ค่อนข้างต่ำ (มีขั้นตอนเพิ่มเติมในการทำธุรกรรม)
ความปลอดภัย ค่อนข้างต่ำ สูง
วัตถุประสงค์ในการใช้งาน ธุรกรรมประจำวันและเก็บเงินจำนวนน้อย เก็บระยะยาวและเก็บเงินจำนวนมาก
ตัวอย่าง MetaMask และกระเป๋าคริปโตบนกระดานเทรด Ledger Nano และ Trezor
การเก็บ Private Keys บนอุปกรณ์ (เข้ารหัส) ฮาร์ดแวร์เฉพาะหรือกระดาษ
ความเสี่ยงจากมัลแวร์ มี แทบไม่มี
ความเร็วในการทำธุรกรรม เร็ว ค่อนข้างช้า
ค่าใช้จ่าย ส่วนใหญ่ฟรี ต้องซื้ออุปกรณ์เฉพาะ
การสำรองข้อมูล Secret Recovery Phrase Secret Recovery Phrase และการสำรองข้อมูลทางกายภาพ

เมื่อใช้ MetaMask ผู้ใช้ควรระมัดระวังและตระหนักถึงความปลอดภัยอยู่เสมอ เพราะแม้ตลาดคริปโตจะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นจากการอนุมัติ Bitcoin ETF แต่ในช่วงขาขึ้นมักจะมีการฉ้อโกงและความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย MetaMask มีการพัฒนาความปลอดภัยอยู่เสมอ แต่ความรับผิดชอบสุดท้ายอยู่ที่ผู้ใช้เอง

สกุลเงินที่รองรับใน MetaMask

MetaMask เป็นกระเป๋าคริปโตที่ใช้ Ethereum เป็นเครือข่ายหลัก แต่สามารถใช้กับคริปโตเคอร์เรนซีสกุลอื่น ๆ ได้อีกมากมาย เหรียญที่ MetaMask รองรับมีดังนี้

  • Ethereum (ETH): เป็นสกุลเงินหลักของ MetaMask ใช้สำหรับการชำระค่าแก๊สหรือค่าธรรมเนียมการธุรกรรมฃและการใช้ Smart Contract
  • โทเค็น ERC-20: โทเค็นมาตรฐานที่ถูกสร้างบนบล็อกเชน Ethereum รองรับ Stablecoin อย่าง USDT (Tether), USDC (USD Coin), DAI, LINK (Chainlink), UNI (Uniswap) และอื่น ๆ
  • โทเค็น ERC-721: รู้จักกันในชื่อ Non-Fungible Token (NFT) ใช้แสดงความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น ศิลปะดิจิทัลและไอเท็มในเกม
  • เครือข่ายบล็อกเชนที่รองรับ EVM: รองรับบล็อกเชนอื่น ๆ ที่ใช้งานร่วมกับ Ethereum ได้ เช่น BNB Chain (เดิมคือ Binance Smart Chain), Polygon และ Avalanche
  • เครือข่าย L2: เครือข่าย Layer 2 ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถในการขยายตัวของ Ethereum เช่น Arbitrum และ Optimism

เครือข่ายที่ MetaMask รองรับมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน MetaMask ยังไม่รองรับ Bitcoin (BTC) แต่มีแผนที่จะรองรับในอนาคต

MetaMask มีการอัปเดตรายชื่อเหรียญใหม่ ๆ ที่รองรับอยู่เสมอ เราขอแนะนำให้ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุด รวมไปถึงหากต้องการเพิ่มเหรียญมาใหม่ที่เป็นเหรียญคริปโตพรีเซล ผู้ใช้ควรระมัดระวังความปลอดภัย เช่น การใช้ Contract Address ที่ถูกต้อง

ฟีเจอร์ของ MetaMask

ภาพกระเป๋าคริปโต MetaMask

นอกเหนือไปจากการเป็นกระเป๋าคริปโต MetaMask ยังมีฟีเจอร์ที่หลากหลายและมีฟังก์ชันเฉพาะ ดังนี้

  • ฟังก์ชันกระเป๋าคริปโต
  • การเชื่อมต่อกับ DApps
  • การจัดการ NFT
  • การซื้อคริปโต (เช่น Ethereum)
  • การโอนคริปโต
  • ฟังก์ชันการ Swap โทเค็น
  • ฟังก์ชัน Bridge
  • การจัดการค่าแก๊ส
  • ฟังก์ชันการ Stake

ฟังก์ชันกระเป๋าคริปโต

MetaMask เป็นกระเป๋าคริปโตที่ใช้เครือข่าย Ethereum เป็นหลัก สามารถเก็บและส่งโทเค็น ERC-20 และ ERC-721 ได้อย่างปลอดภัย ผู้ใช้สามารถจัดการ Private Keys และเข้าถึงสินทรัพย์ของตนเองได้

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถตรวจสอบยอดคงเหลือและติดตามประวัติการทำธุรกรรมในกระเป๋าคริปโต จัดการบัญชีหลายบัญชี และสลับการใช้งานระหว่างบัญชีได้อย่างง่ายดาย เช่น การแยกบัญชีระหว่างบัญชีซื้อขายประจำกับบัญชีสำหรับการถือครองคริปโตระยะยาว

การเชื่อมต่อกับ DApps

MetaMask เป็น DeFi Wallet ที่มีฟีเจอร์การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DApps) แบบไร้รอยต่อ ผู้ใช้สามารถลงชื่อเข้าใช้บน DApps ผ่าน MetaMask และเรียกใช้ Smart Contract ได้ โดย Smart Contract คือสัญญาหรือข้อตกลงที่ถูกเขียนโปรแกรมไว้ล่วงหน้าและทำงานบนบล็อกเชนโดยอัตโนมัติ

ด้วยระบบนี้ ผู้ใช้สามารถใช้บริการทางการเงิน เกม ตลาดซื้อขาย และ DApps อื่น ๆ ได้อย่างหลากหลายโดยไม่ต้องให้ข้อมูลส่วนตัวและเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้ใน Metaverse และเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่น ๆ ในอนาคตอีกด้วย

การจัดการ NFT

MetaMask รองรับการจัดการ NFT ผู้ใช้สามารถเก็บและซื้อขาย NFT ผ่าน MetaMask ได้ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะดิจิทัล ไอเท็มในเกม หรือของสะสมต่าง ๆ MetaMask ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องมือยืนยันความเป็นเจ้าของ NFT และช่วยให้ผู้ใช้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลของตนได้อย่างปลอดภัย

ฟีเจอร์การจัดการ NFT ของ MetaMask

การซื้อคริปโต (เช่น Ethereum)

MetaMask มีฟังก์ชันการซื้อคริปโต เช่น Ethereum ผ่านผู้ให้บริการบุคคลที่สาม โดยผู้ใช้สามารถซื้อคริปโตและชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและการโอนเงินผ่านธนาคารได้

ข้อดีคือผู้ใช้สามารถซื้อคริปโตและเพิ่มเหรียญเข้าสู่กระเป๋าคริปโตได้โดยไม่ต้องผ่านกระดานเทรดได้อย่างสะดวกสบาย อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชันนี้อาจมีข้อแตกต่างบางประการในแต่ละภูมิภาค ผู้ใช้จึงควรตรวจสอบก่อนใช้งาน

การโอนคริปโต

ผู้ใช้สามารถส่งคริปโตไปยังที่อยู่กระเป๋าคริปโตใบอื่น ๆ ได้โดยใช้ฟังก์ชันการโอนของ MetaMask เมื่อโอนเหรียญจาก MetaMask ผู้ใช้จำเป็นต้องระบุที่อยู่ของผู้รับ ระบุจำนวนเหรียญที่ส่ง และปรับค่าแก๊ส (ค่าธรรมเนียมธุรกรรม)

ฟังก์ชันการ Swap โทเค็น

ฟังก์ชันการ Swap โทเค็นของ MetaMask ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีสกุลต่าง ๆ ได้ในกระเป๋าคริปโตได้โดยตรงได้อย่างง่ายดาย นับเป็นฟังก์ชันที่สะดวกสบายสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการแลกเปลี่ยนเหรียญโดยไม่ต้องผ่านกระดานเทรด

ฟังก์ชัน Bridge

ฟังก์ชัน Bridge ของ MetaMask ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายโทเค็นระหว่างบล็อกเชนได้อย่างง่ายดาย เช่น ผู้ใช้สามารถย้ายโทเค็นจาก Ethereum ไปยังเครือข่ายอื่น

ฟังก์ชัน Bridge ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการสินทรัพย์บนบล็อกเชนหลายเครือข่ายและใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่แตกต่างกัน ทำให้การบริหารสินทรัพย์มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

การจัดการค่าแก๊ส

ใน MetaMask ผู้ใช้สามารถปรับค่าแก๊ส (ค่าธรรมเนียมธุรกรรม) ได้อย่างอิสระเมื่อทำธุรกรรม โดยค่าแก๊สมีผลต่อความเร็วและต้นทุนของการทำธุรกรรม

การปรับค่าแก๊สสูงจะทำให้ธุรกรรมถูกประมวลผลอย่างรวดเร็ว ส่วนการปรับค่าแก๊สต่ำจะช่วยประหยัดต้นทุนและ MetaMask จะแนะนำค่าแก๊สที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้

ฟังก์ชันการ Stake

MetaMask รองรับการ Stake ของ Ethereum ด้วย

ฟีเจอร์การ Stake ของ MetaMask

ผู้ใช้สามารถทำการ Stake ได้ตั้งแต่เงินจำนวนน้อยโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อนและใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารสินทรัพย์ ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญสำหรับผู้ใช้งาน

กระเป๋าคริปโตทางเลือกที่ทดแทนข้อเสียของ MetaMask

MetaMask ได้รับความนิยมทั่วโลก แต่สำหรับผู้เริ่มต้นอาจพบว่ามองว่าเป็นกระเป๋าคริปโตที่มีวิธีการใช้งานที่ซับซ้อนและมีข้อเสียบางประการโดยเฉพาะข้อเสียต่อไปนี้

ข้อจำกัดของ MetaMask

  • รองรับบล็อกเชนไม่มากนัก: รองรับเฉพาะ Ethereum และบล็อกเชนที่ใช้งานร่วมกับ EVM เท่านั้น ไม่รองรับคริปโตเคอร์เรนซีหลักอื่น ๆ เช่น Bitcoin
  • อินเตอร์เฟซดูใช้งานยากสำหรับผู้เริ่มต้น: ต้องการความรู้ทางเทคนิค โดยเฉพาะการตั้งค่าค่าแก๊สและการสลับเครือข่าย แม้แต่การใช้งานพื้นฐานก็อาจทำให้ผู้ใช้สับสนได้
  • เป็นเป้าหมายในการโจมตี: เนื่องจากเป็นกระเป๋าคริปโตที่มีชื่อเสียง ทำให้ผู้ใช้มักตกเป็นเป้าหมายการโจมตีทางเครือข่ายบ่อยครั้ง

เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ปัจจุบัน Best Wallet กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก

Best Wallet กระเป๋าคริปโตทางเลือกแทน MetaMask

Best Wallet เป็นกระเป๋าคริปโตแบบ Non-custodial รุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติดังนี้

  • รองรับบล็อกเชนมากกว่า 60 เครือข่าย: สามารถจัดการคริปโตเคอร์เรนซีหลักทั้ง Ethereum, Bitcoin, Polygon, BNB Chain และอื่น ๆ ได้จุดเดียว
  • การออกแบบ UI/UX ที่ใช้งานง่าย: การตั้งค่าที่ซับซ้อนทั้งหมดถูกทำให้เป็นระบบอัตโนมัติ แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น มีฟังก์ชันการปรับค่าแก๊สอัตโนมัติ
  • ฟีเจอร์คริปโตเคอร์เรนซีที่กำลังจะมาถึง: รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญใหม่ ๆ ที่น่าสนใจได้อย่างรวดเร็ว และสามารถสร้างรายชื่อโครงการที่ต้องการติดตามได้

นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัยระดับสูงด้วยเทคโนโลยี MPC-CMP จาก Fireblocks ระบบยืนยันตัวตนที่แข็งแกร่งจาก Web3Auth และการยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลทางชีวภาพ

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีหรือผู้ที่ต้องการจัดการสกุลเงินหลากหลายสกุลเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เราขอแนะนำให้ใช้ Best Wallet มากกว่า MetaMask สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่บทความรีวิว Best Wallet

วิธีเริ่มต้นและลงทะเบียน MetaMask

MetaMask สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน สำหรับการใช้งานบนคอมพิวเตอร์นั้นจะมาในรูปแบบส่วนขยายของเบราว์เซอร์ ส่วนการใช้งานบนสมาร์ทโฟนจะมาในรูปแบบแอปพลิเคชัน ผู้ใช้ทุกคนสามารถใช้งานได้ฟรีและขั้นตอนการลงทะเบียน MetaMask มีดังนี้

วิธีเริ่มต้นการใช้งานบนคอมพิวเตอร์

ขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งาน MetaMask บนคอมพิวเตอร์มีดังนี้

หน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ MetaMask

  1. เข้าสู่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ MetaMask: ก่อนอื่นไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ MetaMask โปรดตรวจสอบว่า URL ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง
  2. ติดตั้งส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์: คลิกที่ “ดาวน์โหลด” บนหน้าแรกของเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ระบบจะนำพาคุณไปยังหน้าติดตั้งส่วนขยายบนเว็บเบราว์เซอร์ จากนั้นคลิกปุ่ม “เพิ่มใน Google Chrome” หรือปุ่มอื่น ๆ ตามเว็บเบราว์เซอร์ที่ถูกเรียกใช้เพื่อติดตั้ง
  3. สร้างกระเป๋าคริปโตใหม่: หลังจากติดตั้งสำเร็จแล้ว เปิด MetaMask จากไอคอนส่วนขยายในเว็บเบราว์เซอร์ คลิก “เริ่มต้น” แล้วเลือก “สร้างกระเป๋าคริปโต” ยอมรับข้อตกลงในการใช้งานและตั้งค่ารหัสผ่านที่ปลอดภัย
  4. บันทึก Secret Recovery Phrase: ในขั้นตอนสุดท้ายของการสร้างกระเป๋าคริปโต ระบบจะแสดง Secret Recovery Phrase ที่มีความยาว 12 คำ โปรดจดบันทึกและเก็บไว้ในที่ปลอดภัยเพราะจำเป็นต้องใช้ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการกู้คืน

วิธีเริ่มต้นการใช้งานบนสมาร์ทโฟน

ขั้นตอนการเริ่มต้นการใช้งาน MetaMask บนสมาร์ทโฟนมีดังนี้

  1. เข้าสู่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ MetaMask: เปิดเว็บเบราว์เซอร์บนสมาร์ทโฟนและเข้าไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ MetaMask คุณสามารถไปที่ลิงก์ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ โปรดตรวจสอบว่า URL ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง
  2. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: จากลิงก์ดาวน์โหลด ระบบจะนำคุณไปยัง App Store สำหรับ iOS หรือ Google Play Store สำหรับ Android ดาวน์โหลดแอป MetaMask และเมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วให้ทำการเปิดแอป
  3. สร้างกระเป๋าคริปโตใหม่: เมื่อเปิดแอปแล้วให้เลือก “สร้างกระเป๋าคริปโต” ยอมรับข้อตกลงการใช้งานและตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย
  4. บันทึก Secret Recovery Phrase : ในระหว่างขั้นตอนการสร้างกระเป๋าเงิน ระบบจะแสดง Secret Recovery Phrase ที่มีความยาว 12 คำ จดบันทึกไว้ในที่ปลอดภัยและอย่าเปิดเผยให้ผู้อื่นทราบ หลังจากบันทึกแล้ว คุณจะต้องป้อนกลับเข้าไปตามลำดับอย่างถูกต้องเพื่อทำการยืนยัน

วิธีใช้งาน MetaMask

ภาพกระเป๋าเงิน MetaMask

หลังจากติดตั้ง MetaMask เรียบร้อยแล้วมาลองใช้งานจริงกัน เราจะอธิบายวิธีการใช้งาน MetaMask แต่ละขั้นตอน ดังนี้

  • การตรวจสอบ Secret Recovery Phrase
  • การตรวจสอบ Private Key
  • วิธีการฝากเงิน
  • วิธีการส่งเงิน
  • การซื้อคริปโตเคอร์เรนซี (เช่น Ethereum)
  • การ Swap (แลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีบนเครือข่ายเดียวกัน)
  • การ Bridge (ย้ายคริปโตเคอร์เรนซีระหว่างเครือข่ายที่แตกต่างกัน)
  • การเปลี่ยนเครือข่าย
  • การเพิ่มโทเค็น
  • การนำเข้าบัญชี
  • การกู้คืนบัญชี

การตรวจสอบ Secret Recovery Phrase

ขั้นตอนการตรวจสอบ Secret Recovery Phrase มีดังนี้

  1. เข้าสู่ระบบ MetaMask: เปิด MetaMask ในเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนแล้วป้อนรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ
  2. เข้าถึงการตั้งค่า: เลือกไอคอน (ไอคอนวงกลมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือไอคอนการตั้งค่าบนสมาร์ทโฟน) เพื่อเปิดเมนู “การตั้งค่า”
  3. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: เลือกตัวเลือก “ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว”
  4. ตรวจสอบ Secret Recovery Phrase: ป้อนรหัสผ่านอีกครั้งเพื่อตรวจสอบ Secret Recovery Phrase

Secret Recovery Phrase เป็นข้อมูลที่สำคัญมาก หากสูญหายไปจะไม่สามารถกู้คืนกระเป๋าคริปโตได้ ดังนั้น ผู้ใช้จึงควรเก็บมันไว้แบบออฟไลน์เพื่อความปลอดภัย เมื่อต้องการตรวจสอบ Secret Recovery Phrase โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณใกล้เคียง

การตรวจสอบ Private Key

ขั้นตอนการตรวจสอบ Private Key ใน MetaMask มีดังนี้

  1. เข้าสู่ระบบ MetaMask: เปิด MetaMask ในเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนแล้วป้อนรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ
  2. เข้าถึงการตั้งค่า: เปิดเมนู “การตั้งค่า”
  3. เปิดรายละเอียดบัญชี: สำหรับคอมพิวเตอร์ให้เลือก “รายละเอียดบัญชี” สำหรับสมาร์ทโฟนให้เลือก “ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว”
  4. ตรวจสอบ Private Key: เลือก Private Key แล้วป้อนรหัสผ่านเพื่อตรวจสอบ จากนั้นเก็บไว้ในที่ปลอดภัย

เช่นเดียวกับ Secret Recovery Phrase ข้อมูล Private Key มีความสำคัญมากและผู้ใช้ควรเก็บไว้แบบออฟไลน์เพื่อความปลอดภัย

วิธีการฝากเงิน

เมื่อฝากเงินเข้า MetaMask ผู้ใช้จะต้องส่งเงินจากแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี เช่น Coincheck มายัง MetaMask โดยขั้นตอนการฝากคริปโตเคอร์เรนซีเข้า MetaMask มีดังนี้

  1. เข้าสู่ระบบ MetaMask: เข้าสู่ระบบผ่านส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
  2. คัดลอกที่อยู่: คลิกหรือแตะที่ส่วนชื่อบัญชีเพื่อคัดลอกที่อยู่
  3. ดำเนินการส่งเงินจากแพลตฟอร์มซื้อขาย: เข้าสู่ระบบบนแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีและดำเนินการส่งเงิน คัดลอกและระบุที่อยู่ MetaMask เป็นที่อยู่ปลายทาง เลือกจำนวนเงิน และสกุลเงินที่ต้องการส่งแล้วทำการส่ง

เมื่อส่งเงินจากแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี เช่น Coincheck ไปยัง MetaMask โปรดตรวจสอบที่อยู่ให้ถูกต้องก่อนส่ง หากป้อนที่อยู่ผิด ผู้ใช้จะสูญเสียสินทรัพย์และไม่สามารถกู้คืนได้ หากกังวล เราขอแนะนำให้ผู้ใช้ทดลองส่งเงินในจำนวนเล็กน้อยก่อน

วิธีการส่งเงิน

วิธีการส่งเงินโดยใช้ MetaMask มีดังนี้

  1. เข้าสู่ระบบ MetaMask: เข้าสู่ระบบผ่านส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
  2. เข้าถึงหน้าการส่ง: เลือก “ส่ง” หรือ “Send” บนหน้าแรก
  3. ตรวจสอบเครือข่าย: ตรวจสอบว่าเครือข่ายที่แสดงอยู่ด้านบนของหน้าจอเป็นเครือข่ายที่คุณต้องการใช้งาน (เช่น เครือข่าย Ethereum)
  4. ป้อนที่อยู่กระเป๋าคริปโตปลายทาง: ป้อนที่อยู่กระเป๋าคริปโตที่ต้องการส่งเงินไป เราขอแนะนำให้คัดลอกและวางที่อยู่เพื่อป้องกันการป้อนผิดพลาด
  5. ป้อนจำนวนเงินที่ต้องการส่ง: เลือกสกุลเงินและป้อนจำนวนเงินที่ต้องการส่ง
  6. ตรวจสอบค่าแก๊ส: ตรวจสอบค่าแก๊ส (ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม) และปรับตามความจำเป็น
  7. ดำเนินการส่ง: ตรวจสอบรายละเอียดการส่งครั้งสุดท้าย หากข้อมูลถูกต้อง ให้เลือก “ยืนยัน” หรือ “ส่ง” เพื่อดำเนินการส่งเงิน

ฟังก์ชันการส่งเงินของ MetaMask

เมื่อส่งเงินจาก MetaMask ควรตรวจสอบที่อยู่ปลายทางอย่างละเอียด หากป้อนข้อมูลผิดจะทำให้สูญเสียสินทรัพย์และไม่สามารถกู้คืนได้ หากมีการนำคริปโตเคอร์เรนซีเข้าสู่ MetaMask แล้ว คุณจะสามารถส่งเหรียญ เช่น USDT ได้เช่นกัน

การซื้อคริปโตเคอร์เรนซี (เช่น Ethereum)

ใน MetaMask คุณสามารถซื้อคริปโตเคอร์เรนซี เช่น Ethereum ได้โดยตรง แม้ว่าจะมีวิธีการโอนเงินจากตลาดซื้อขายเข้าสู่ MetaMask แต่หากคุณต้องการประหยัดเวลา คุณอาจพิจารณาการซื้อภายใน MetaMask โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. เข้าสู่ระบบ MetaMask: เข้าสู่ระบบผ่านส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
  2. เข้าถึงหน้าซื้อ: เลือก “ซื้อ” หรือ “Buy” บนหน้าหลัก
  3. เลือกวิธีการชำระเงิน: เลือกจากตัวเลือกการชำระเงินที่มีให้ (เช่น บัตรเครดิตหรือบริการของบุคคลที่สาม เช่น ApplePay)
  4. เลือกสกุลเงินและป้อนจำนวนที่ต้องการซื้อ: เลือกคริปโตเคอร์เรนซีที่ต้องการซื้อ (เช่น Ethereum) และป้อนจำนวนเหรียญ
  5. ยืนยันและดำเนินการซื้อ: ตรวจสอบข้อมูลการซื้อ และหากข้อมูลถูกต้อง ให้ดำเนินการซื้อเพื่อทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์

ฟังก์ชันการซื้อของ MetaMask

การซื้อภายใน MetaMask อาจมีบริการที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค และการใช้บริการของบุคคลที่สามอาจมีค่าธรรมเนียม ผู้ใช้ควรตรวจสอบก่อนดำเนินการ

Swap (แลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีบนเครือข่ายเดียวกัน)

Swap เป็นฟังก์ชันที่ใช้แลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีหนึ่งเป็นเหรียญอีกสกุลหนึ่ง ด้วยฟังก์ชัน Swap ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนเหรียญได้อย่างง่ายดายภายใน MetaMask โดยขั้นตอนการทำ Swap มีดังนี้

  1. เข้าสู่ระบบ MetaMask: เข้าสู่ระบบผ่านส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
  2. เข้าถึงหน้า Swap: เลือก “Swap” บนหน้าแรก
  3. เลือกเหรียญ: เลือกเหรียญต้นทางในช่อง “จาก” และเหรียญปลายทางในช่อง “สู่”
  4. ป้อนจำนวนเหรียญที่ต้องการแลกเปลี่ยน: ป้อนจำนวนเหรียญที่ต้องการแลกเปลี่ยนและอัตราแลกเปลี่ยนจะแสดงโดยอัตโนมัติ
  5. ตรวจสอบการแลกเปลี่ยน: ตรวจสอบอัตราการแลกเปลี่ยนและค่าแก๊ส (ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม) ที่แสดง
  6. ดำเนินการแลกเปลี่ยน: ตรวจสอบข้อมูลและหากข้อมูลถูกต้องให้คลิกปุ่ม “Swap” เพื่อดำเนินการทำธุรกรรม

ฟังก์ชัน Swap ของ MetaMask

ก่อนทำการ Swap ควรตรวจสอบค่าใช้จ่ายการทำธุรกรรมซึ่งรวมถึงค่าแก๊ส หากมีการทำธุรกรรมในปริมาณมาก ผู้ใช้ควรระวังเรื่องความคลาดเคลื่อนของราคา (ความแตกต่างระหว่างราคาที่คาดการณ์กับราคาจริง) สำหรับผู้ที่ใช้ Swap เป็นครั้งแรก เราขอแนะนำให้ทดลองทำด้วยจำนวนเงินเล็กน้อยก่อน

อย่างไรก็ตาม ใน MetaMask ไม่สามารถแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีเป็นเงินบาทไทยหรือ Fiat ได้ หากต้องการแลกเป็นเงินบาทไทย ให้โอนเงินจาก MetaMask ไปยังตลาดซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี เช่น Coincheck เพื่อแลกเป็น Fiat

Bridge (เคลื่อนย้ายคริปโตเคอร์เรนซีระหว่างเครือข่ายที่แตกต่างกัน)

Bridge เป็นการเคลื่อนย้ายคริปโตเคอร์เรนซีจากบล็อกเชนหนึ่งไปอีกเครือข่ายหนึ่ง โดยขั้นตอนการใช้ฟังก์ชัน Bridge ของ MetaMask มีดังนี้

  1. เข้าสู่ระบบ MetaMask: เข้าสู่ระบบผ่านส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
  2. เข้าถึงหน้า Bridge: เลือก “Bridge” บนหน้าแรก
  3. เลือกเครือข่าย: เลือกเครือข่ายต้นทางในช่อง “จากเครือข่ายนี้” และเครือข่ายปลายทางในช่อง “สู่เครือข่ายนี้”
  4. ป้อนจำนวนที่ต้องการแลกเปลี่ยน: ป้อนจำนวนเหรียญที่ต้องการแลกเปลี่ยน
  5. ตรวจสอบการ Bridge: ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนและค่าแก๊ส (ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม) ที่แสดง
  6. ดำเนินการ Bridge: ตรวจสอบข้อมูลและหากข้อมูลถูกต้อง ให้คลิกปุ่ม “Bridge” เพื่อดำเนินการทำธุรกรรม

ฟังก์ชัน Bridge ของ MetaMask

การทำการ Bridge อาจมีการกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการส่งและค่าแก๊ส ผู้ใช้ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนทำธุรกรรมทุกครั้ง

การเปลี่ยนเครือข่าย

ใน MetaMask คุณสามารถเปลี่ยนเครือข่ายที่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย ในบางกรณี เช่น การซื้อเหรียญ ICO อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนเครือข่ายและขั้นตอนมีดังนี้

  1. เข้าสู่ระบบ MetaMask: เข้าสู่ระบบผ่านส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
  2. เปิดเมนูเลือกเครือข่าย: เลือกเครือข่ายที่ด้านบนของหน้าจอหลักของ MetaMask (โดยปกติจะเป็น “Ethereum Mainnet”)
  3. เลือกเครือข่าย: เลือกเครือข่ายที่ต้องการใช้งาน

หากเครือข่ายที่ต้องการใช้งานไม่อยู่ในรายการ ผู้ใช้สามารถเพิ่มได้จากตัวเลือก “เพิ่มเครือข่าย” เมื่อเปลี่ยนเครือข่าย ผู้ใช้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกเครือข่ายที่ถูกต้อง

การเพิ่มคริปโตเคอร์เรนซี

ใน MetaMask คุณสามารถเพิ่มคริปโตเคอร์เรนซีเพื่อแสดงและจัดการเหรียญเฉพาะได้ ในบางกรณี เช่น การจัดการกับเหรียญคริปโตมาใหม่อาจจำเป็นต้องมีการเพิ่มเหรียญโดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. เข้าสู่ระบบ MetaMask: เข้าสู่ระบบผ่านส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
  2. เข้าถึงหน้าเพิ่มเหรียญ: เลือก “นำเข้าเหรียญ” หรือ “เพิ่มเหรียญ”
  3. ค้นหาเหรียญ: เลือกแท็บ “ค้นหา” และป้อนชื่อของเหรียญที่ต้องการเพิ่ม
  4. เลือกเหรียญ: เลือกเหรียญที่ต้องการจากผลการค้นหาและเลือก “ถัดไป”
  5. ยืนยันการเพิ่มเหรียญ: เลือก “นำเข้าเหรียญ” หรือ “เพิ่มเหรียญ” เพื่อยืนยัน

ก่อนเพิ่มเหรียญ ผู้ใช้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกเครือข่ายอย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ หากเหรียญที่ได้รับจาก Airdrop ไม่ปรากฏ คุณอาจต้องเพิ่มเหรียญด้วยตนเอง เมื่อเพิ่มเหรียญ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รับ Contract Address จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้

การนำเข้าบัญชี

คุณสามารถนำเข้า (หรือโอนย้าย) บัญชีเฉพาะหรือบัญชีจากกระเป๋าคริปโตภายนอกมายัง MetaMask ได้โดยใช้ Private Key เพื่อเพิ่มบัญชีใน MetaMask โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. เข้าสู่ระบบ MetaMask: เข้าสู่ระบบผ่านส่วนขยายของเว็บเบราว์เซอร์หรือบนแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
  2. เลือกนำเข้าบัญชี: เลือก “นำเข้าบัญชี” จากเมนู
  3. ป้อน Private Key: ป้อน Private Key ของบัญชีที่ต้องการนำเข้า
  4. เสร็จสิ้นการนำเข้า: หลังจากป้อน Private Key แล้วให้เลือก “นำเข้า” เพื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ

Private Key เป็นข้อมูลที่สำคัญมาก ดังนั้น ผู้ใช้ต้องจัดการด้วยความระมัดระวังอย่างมาก โปรดทราบว่าบัญชีที่นำเข้าจะไม่ถูกกู้คืนโดยอัตโนมัติเมื่อคุณติดตั้ง MetaMask ใหม่

การกู้คืนบัญชี

ขั้นตอนในการกู้คืนบัญชี MetaMask มีดังนี้

  1. ติดตั้ง MetaMask: ติดตั้ง MetaMask ใหม่หรือติดตั้งอีกครั้ง
  2. นำเข้ากระเป๋า: เลือก “นำเข้ากระเป๋าคริปโต”
  3. ตั้งค่ารหัสผ่าน: ป้อน Secret Recovery Phrase และตั้งรหัสผ่านใหม่
  4. ดำเนินการกู้คืน: เมื่อการกู้คืนเสร็จสมบูรณ์ บัญชีเดิมของคุณจะปรากฏขึ้น

บัญชีที่นำเข้า (บัญชีที่เพิ่มด้วย Private Key) จะไม่ถูกกู้คืนโดยอัตโนมัติ ดังนั้น คุณจำเป็นต้องนำเข้ากลับใน MetaMask อีกครั้งโดยใช้ Private Key โปรดทราบว่าหากคุณทำ Secret Recovery Phrase สูญหาย คุณจะไม่สามารถกู้คืนบัญชีได้

ข้อควรระวังเมื่อใช้ MetaMask

ภาพแสดงความปลอดภัยของ MetaMask

MetaMask เป็นเครื่องมือที่สะดวกมากสำหรับผู้ใช้คริปโตเคอร์เรนซี แต่หากผู้ใช้ใช้งานไม่ถูกวิธีอาจนำไปสู่การสูญเสียได้ ต่อไปนี้คือข้อควรระวังเมื่อใช้ MetaMask

  • การจัดการ Private Key และ Secret Recovery Phrase
  • การระวังการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง
  • ข้อควรระวังเมื่อใช้ Smart Contract

การจัดการ Private Key และ Secret Recovery Phrase

ควรจัดการ Private Key และ Secret Recovery Phrase สำหรับการเข้าถึงกระเป๋าคริปโต MetaMask อย่างเข้มงวด หากสูญหายหรือถูกขโมย คุณจะสูญเสียการเข้าถึงสินทรัพย์ในกระเป๋า

เก็บไว้ในที่ปลอดภัย ไม่ควรแบ่งปันกับผู้อื่น และควรเก็บไว้แบบออฟไลน์ เช่น เขียนลงบนกระดาษและเก็บไว้ในตู้เซฟหรือกระจายการเก็บไว้ในหลาย ๆ ที่

ระวังการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง

การระวังการหลอกลวงก็สำคัญเช่นกัน บุคคลที่สามที่มีเจตนาร้ายด้วยการสร้างเว็บไซต์ปลอมหรือหน้าเว็บไซต์ IEO ปลอมเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวหรือ Private Key ของผู้ใช้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สิ่งสำคัญคือผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ทางการเท่านั้นและตรวจสอบว่า URL หรือเว็บไซต์ถูกต้อง

การสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี แม้ว่าจะมีเหรียญที่มีโอกาสเติบโต 1,000 เท่าที่น่าสนใจมากมาย แต่เมื่อตลาดคึกคัก การหลอกลวงก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ผู้ใช้จึงควรระมัดระวังเสมอ บางครั้งมีการกล่าวว่า “ไม่ควรลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี” เนื่องจากมีความเสี่ยงจากการหลอกลวง สิ่งสำคัญคือผู้ใช้ควรตระหนักถึงความปลอดภัยอยู่เสมอ

ข้อควรระวังเมื่อใช้ Smart Contract

เมื่อใช้ dApps ต่าง ๆ ผ่าน MetaMask สิ่งสำคัญคือผู้ใช้ต้องเข้าใจในรายละเอียดอย่างถ่องแท้ก่อนจะทำการอนุมัติ หากอนุมัติ Smart Contract ที่มีเจตนาร้าย สินทรัพย์ในกระเป๋าคริปโตของคุณอาจตกอยู่ในความเสี่ยงได้

ควรตรวจสอบเนื้อหาของธุรกรรมและความน่าเชื่อถือของ dApps ที่คุณกำลังจะเชื่อมต่อเสมอ หากมีข้อสงสัย คุณไม่ควรทำธุรกรรมต่อไป เมื่อเข้าร่วมโครงการใหม่ เช่น IDO คุณก็ควรต้องตรวจสอบด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

สรุป

ภาพกระเป๋าคริปโต MetaMask

เราได้อธิบายเกี่ยวกับ MetaMask แล้ว ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีกำลังคึกคักหลังจากปรากฏการณ์ Bitcoin Halving MetaMask เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการใช้คริปโตเคอร์เรนซีหรือแม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ลองใช้งานดูได้เลย

อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้ MetaMask การจัดการ Private Key และ Secret Recovery Phrase รวมถึงการระมัดระวังเรื่องการหลอกลวงก็เป็นสิ่งสำคัญ ความปลอดภัยของ MetaMask ได้รับการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ แต่ความรับผิดชอบสุดท้ายอยู่ที่ผู้ใช้ ดังนั้น ควรใช้งานอย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ MetaMask

หากใช้ MetaMask จำเป็นต้องยื่นภาษีหรือไม่?

MetaMask บน Google Chrome อยู่ที่ไหน?

ข้อเสียหรือจุดด้อยของ MetaMask คืออะไร?

MetaMask รองรับ Bitcoin (BTC) หรือไม่?

สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทไทยด้วย MetaMask ได้หรือไม่?

By Wanida

ชื่อ: วนิดา จิตรประเสริฐ ตำแหน่ง: นักวิเคราะห์และนักเขียนการเงินดิจิทัล ความเชี่ยวชาญ: บล็อกเชน, DeFi, Web3, การเงินดิจิทัล, แนวโน้มคริปโตเคอเรนซี ประวัติ: วนิดาเป็นนักวิเคราะห์และนักเขียนด้านคริปโตที่ได้รับการยอมรับในวงการการเงินดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในการติดตามนวัตกรรมของบล็อกเชน โปรโตคอล DeFi และการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบด้านคริปโต เธอมุ่งมั่นถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้กลายเป็นมุมมองที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา ทั้งสำหรับนักลงทุนมือใหม่และผู้เชี่ยวชาญในวงการ วนิดาเป็นเสียงที่น่าเชื่อถือในวงการคริปโตที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจแนวโน้มและโอกาสในตลาดคริปโตเคอเรนซีอย่างลึกซึ้ง