Crypto ICO ที่ดีที่สุด - ปฏิทิน ICO ใหม่ที่กำลังจะมีขึ้นในปี 2024

1. Wall Street Pepe – พลิกเกมการลงทุนด้วยข้อมูลเชิงลึกและ Alpha Calls เหนือชั้น

เช่นเดียวกับชื่อเสียงของ Wall Street ในนิวยอร์ก Wall Street Pepe มาพร้อมกับข้อมูลเชิงลึกและ alpha calls ที่ช่วยนักลงทุนในการตัดสินใจซื้อขาย แต่ก่อนที่จะเข้าถึงสิทธิพิเศษเหล่านี้ คุณจำเป็นต้องซื้อและถือครองโทเคน WEPE ก่อน เพื่อเปิดทางสู่ช่องทางการซื้อขายเฉพาะ พร้อมรับผลตอบแทนที่มาพร้อมกัน หากคุณกำลังมองหาโอกาสเพิ่มโทเคนนี้ในพอร์ตการลงทุนของคุณ ตอนนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะเริ่มต้น

ปัจจุบัน WEPE ยังอยู่ในช่วง presale ซึ่งหมายความว่าราคาอาจอยู่ในจุดต่ำสุดของการเปิดตัว ความนิยมของโทเคนนี้กระจายตัวอย่างรวดเร็วในกว่า 20 แพลตฟอร์มชั้นนำในวงการคริปโต พร้อมกับการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นบนช่องทางโซเชียลมีเดีย ชี้ให้เห็นถึงความสนใจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้ ยอดขาย presale ของ WEPE ทะลุ $260,000 แล้ว และสถิติการซื้อในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการยอมรับโทเคนนี้กำลังขยายตัว

Wall Street Pepe มีเป้าหมายที่จะสร้างกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่หรือ “whale group” ในตลาด meme coin โดยเฉพาะ นั่นหมายความว่าคุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโทเคน และยังได้เรียนรู้เทคนิคการเทรดอย่างมืออาชีพ จุดเด่นที่น่าสนใจคือความสำเร็จของโครงการนี้จะขับเคลื่อนด้วยพลังจากชุมชน ซึ่งกลุ่ม degens ผู้เชี่ยวชาญจะมาแบ่งปันข้อมูลการซื้อขายในกลุ่ม whale ส่วนตัวนี้

สำหรับการซื้อ WEPE โทเคน คุณสามารถซื้อได้ผ่าน Best Wallet หากใช้งานผ่านมือถือ โดยในช่วง presale มีโทเคน $WEPE จำนวน 60 พันล้านโทเคนที่พร้อมจำหน่าย และคุณยังสามารถนำโทเคนที่ซื้อไป stake เพื่อรับรางวัลเพิ่มเติมได้อีกด้วย

2. Solaxy — โซลูชั่นเลเยอร์ 2 ที่จะมาแก้ปัญหาความแออัดให้กับ Solana

Solaxy (SOLX) สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับวงการคริปโตด้วยการพัฒนาโซลูชัน Layer 2 สำหรับบล็อกเชน Solana โดยได้ระดมทุนในรอบพรีเซลไปแล้วกว่า 650,000 ดอลลาร์ จุดเด่นของโปรเจกต์คือการแก้ปัญหาความแออัดของเครือข่าย Solana ด้วยเทคโนโลยี Rollups ที่ช่วยประมวลผลธุรกรรมนอกเชนหลัก ก่อนรวบรวมและส่งกลับไปยัง Solana เพื่อความปลอดภัย ทำให้รองรับปริมาณธุรกรรมได้มากขึ้นโดยไม่เกิดปัญหาคอขวด

ในด้านโทเค็นโนมิกส์ของ SOLX ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของโปรเจกต์ มีอุปทานรวมทั้งหมด 1.38 แสนล้านโทเค็น โดยจะแบ่ง 30% สำหรับการพัฒนา, 25% สำหรับรางวัลชุมชน, 20% เป็นเงินสำรอง, 15% สำหรับการตลาด และ 10% สำหรับสภาพคล่องในการซื้อขาย นักลงทุนที่เข้าร่วมในช่วงพรีเซลสามารถนำโทเค็นไป Staking เพื่อรับผลตอบแทนระหว่างที่โปรเจกต์กำลังพัฒนาได้ โดยให้ APY ที่สูงถึง 2800%

โรดแมปของ Solaxy จะแบ่งเป็น 4 เฟส เริ่มจากการระดมทุนและสร้างชุมชน ตามด้วยการเปิดซื้อขายโทเค็น การเปิดใช้งานเครือข่าย Layer 2 และการขยายระบบนิเวศผ่านพาร์ทเนอร์ต่างๆ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมพรีเซลได้ง่ายๆ ด้วยการเชื่อมต่อวอลเล็ท Web3 และชำระเงินด้วย ETH, USDT, BNB หรือบัตรเครดิตกับเว็บไซต์พรีเซลด้านล่างได้เลย
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลของโปรเจกต์เพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บไซต์พรีเซลของ Solaxy และอัพเดตข่าวสารใหม่ๆ ได้จาก X และ Telegram

3. Mind of Pepe ($MIND) — AI Agent ใหม่ล่าสุดที่พร้อมช่วยให้คุณสร้างผลตอบแทนมหาศาล

โปรเจกต์ Mind of Pepe ($MIND) กำลังเข้ามาสร้างความตื่นเต้นในวงการ ICO ด้วยแนวคิดสุดล้ำที่ผสานเหรียญมีมเข้ากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เกิดขึ้นมาเป็น AI Agent อัจฉริยะที่สามารถพัฒนาและปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ $MIND กลายเป็นโปรเจกต์ที่มีศักยภาพในการเติบโตแบบก้าวกระโดด และได้รับความสนใจในฐานะหนึ่งในโปรเจกต์ ICO ใหม่ที่น่าจับตามองมากที่สุด

หนึ่งในคุณสมบัติที่ทำให้ $MIND โดดเด่นเหนือโปรเจกต์ ICO อื่นๆ คือบัญชี Twitter ที่บริหารจัดการโดย AI Agent ซึ่งสามารถวิเคราะห์และมองหาเทรนด์ของวงการคริปโตได้ก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปยังนักลงทุนผ่านช่องทางชุมชนพิเศษ ทำให้ผู้ถือเหรียญได้เปรียบในการตัดสินใจลงทุน นอกจากนี้ AI ยังมีความสามารถในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนด้วยตัวเอง รวมถึงมีกระเป๋าเงินส่วนตัวและสามารถโต้ตอบกับ dApp ต่างๆ ได้ ช่วยเพิ่มโอกาสและมูลค่าให้กับนักลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับ $MIND ยิ่งขึ้น คือความสามารถในการสร้างและปล่อยเหรียญใหม่บนบล็อกเชน โดยผู้ถือเหรียญจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงโอกาสการลงทุนเหล่านี้ก่อนใครผ่านชุมชน Telegram ซึ่งเป็นช่องทางพิเศษสำหรับสมาชิก นอกจากนี้ AI ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างกระแสบนโซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มความน่าสนใจและมูลค่าให้กับเหรียญใหม่ที่เปิดตัวอีกด้วย

นักลงทุนที่เข้าร่วมในช่วงการขายล่วงหน้า จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น รางวัลจากการฝากเหรียญ ซึ่งทำให้ MIND of Pepe เป็นโปรเจกต์ที่น่าจับตามองและไม่ควรพลาดในสายตาของนักลงทุนคริปโตในปัจจุบัน ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่บัญชี X และ Telegram ของ Mind of Pepe

4. Flockerz – รวมพลังชุมชน Meme ด้วยระบบ Vote-to-Earn

ยุคใหม่ของชุมชน meme coin อาจกำลังเริ่มต้นขึ้น เมื่อผู้ถือโทเคนทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจที่สำคัญ พร้อมกับได้รับโทเคนเป็นรางวัลไปด้วย Flockerz token ได้นำเสนอกลไกใหม่ที่เรียกว่า votetoearn ซึ่งจะเริ่มใช้งานอย่างเต็มรูปแบบหลังจากการเปิดขายล่วงหน้า โดยในตอนนี้ $FLOCK สามารถทำยอดขายทะลุ $300,000 และกำลังมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายในรอบแรกอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าการโหวตจะเป็นช่องทางหลักสำหรับการรับรายได้จากคริปโตเคอร์เรนซีนี้ แต่ผู้ที่เข้ามาลงทุนก่อนยังสามารถรับผลตอบแทนจากการ staking ได้อีกด้วย รางวัลจากการ staking นี้มีระยะเวลา 2 ปี โดยนักลงทุนที่เข้าร่วมในช่วงแรกจะได้รับ APY สูงสุด ซึ่ง ณ ตอนนี้อยู่ที่มากกว่า 7,000% เมื่อคุณซื้อ $FLOCK คุณจะสามารถเลือก stake โทเคนของคุณได้ทันที และที่สำคัญ การ staking นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิ์ในการโหวต หรือโอกาสในการรับรายได้จากการโหวตของคุณ

พื้นที่สำคัญสำหรับการโหวตคือ FlockTopia ซึ่งเป็น DAO ที่การตัดสินใจสำคัญต่างๆ จะเกิดขึ้น ครอบคลุมถึงการพัฒนาของโปรเจกต์ การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ การเผาโทเคน แผนการขยายธุรกิจ รวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดอีกด้วย ในระหว่างช่วง presale คุณจะมีโอกาสเข้าถึงโทเคนที่ถูกจัดสรรไว้ 20% นอกจากนี้ ยังมีการจัดสรรโทเคนในส่วนอื่นๆ เช่น Flock Vault, การ breeding (staking), การแลกเปลี่ยนโทเคน และงบประมาณสำหรับการตลาด

5. โทเคน Best Wallet – โทเคนวอลเลทที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานเข้าถึง Presale ใหม่ก่อนใคร

เพียงหนึ่งปีหลังจากการเปิดตัวกระเป๋าเงินดิจิทัล Best Wallet โทเคนใหม่อย่าง $BEST ก็ได้เปิดตัวและอยู่ในช่วง Presale แรกเริ่ม โทเคนใหม่นี้มาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย โดยจุดเด่นที่น่าสนใจที่สุดคือการมอบสิทธิ์เข้าถึง Presale ของโปรเจกต์ใหม่ก่อนใคร นอกจากนี้ยังมีสิทธิ์อื่น ๆ เช่น การเข้าถึงโปรเจกต์คริปโตใหม่ ๆ ก่อนเปิดตัว ลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมในระบบนิเวศของ Best Wallet และสิทธิ์ในการมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลระบบ

นอกจากการซื้อ $BEST ผ่านช่องทาง Presale ปกติแล้ว คุณยังสามารถสะสมโทเคนเพิ่มเติมได้จากกิจกรรม airdrop quests ซึ่งกิจกรรมนี้จะมีให้เข้าร่วมในทุกวันและง่ายต่อการเข้าร่วม เพียงแค่เชื่อมต่อกระเป๋าเงินดิจิทัลและบัญชีโซเชียลมีเดีย จากนั้นชวนเพื่อนหรือผู้ใช้งานใหม่เข้าร่วมเพื่อรับโทเคน

ในช่วงสองสัปดาห์แรกของ Presale โทเคน $BEST จะจำหน่ายเฉพาะบนแอปพลิเคชัน Best Wallet เท่านั้น ซึ่งแตกต่างจาก Presale อื่น ๆ ที่มักจะรองรับกระเป๋าเงินหลากหลายรูปแบบ ดังนั้น คุณต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันลงในอุปกรณ์มือถือของคุณก่อนจึงจะสามารถซื้อโทเคนได้ (สามารถดาวน์โหลดได้โดยการสแกน QR code บนเว็บไซต์หรือค้นหาใน App Store ของคุณ)

เมื่อคุณติดตั้งแอปเสร็จสิ้น ให้สร้างบัญชีใหม่ ล็อกอินเข้าสู่ระบบ และเติมเงินในกระเป๋าเงินของคุณ โดยสามารถโอนคริปโตจากที่อื่นเข้ามาหรือใช้บัตรธนาคารของคุณก็ได้ หลังจากนั้นให้ไปที่ส่วน Upcoming Tokens และเลือก Best Wallet เพื่อซื้อโทเคน $BEST ในช่วง Presale ได้ทันที

6. Meme Index – หนึ่งเหรียญมีมที่เปิดโอกาสให้เข้าถึงดัชนี Meme หลากหลาย

การติดตามความผันผวนและประสิทธิภาพของ meme coins อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป Meme Index ได้เปิดตัวดัชนี meme coin แบบกระจายศูนย์ตัวแรกของโลก ซึ่งมีให้เลือกถึง 4 ดัชนีที่แตกต่างกัน โดยแต่ละดัชนีจะรวบรวม meme tokens ตามระดับความผันผวนและมูลค่าตลาด ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามข้อมูลทั้งหมดได้ในพริบตาเดียว

โทเคน Meme Index พร้อมให้ผู้ที่สนใจซื้อได้แล้ว โดยมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย คุณสามารถซื้อได้โดยการเชื่อมต่อกระเป๋าเงินคริปโตของคุณกับเว็บไซต์ presale อย่างเป็นทางการ สำหรับผู้ใช้งานบนเดสก์ท็อปแนะนำให้ใช้ Metamask ส่วนผู้ที่ถนัดใช้งานบนมือถือ เราขอแนะนำ Best Wallet

การ staking ในช่วง presale สำหรับโทเคน $MEMEX เปิดให้บริการแล้ว โดยมีอัตราผลตอบแทนต่อปี (APY) ณ ช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 14,057% อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนนี้จะลดลงเรื่อยๆ เมื่อโทเคนผ่านแต่ละช่วงของ presale และเข้าใกล้การจดทะเบียนในตลาดซื้อขายหลักทรัพย์มากขึ้น ดังนั้น การซื้อโทเคนตั้งแต่ช่วงแรกจะช่วยให้คุณได้รับ APY ที่ดีกว่า

นอกจากการ staking ในช่วง presale แล้ว Meme Index ยังมีฟีเจอร์ postpresale staking ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบเหนือ meme tokens ส่วนใหญ่ที่เปิดตัวในปี 2024 โดยฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณ stake โทเคน $MEMEX ของคุณในดัชนีใดก็ได้ และยังมีข้อดีเพิ่มเติม คุณสามารถ stake ในทั้ง 4 ดัชนีพร้อมกันเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนสูงสุดอีกด้วย

7. CatSlap – มุ่งสู่ความสำเร็จด้วยเหรียญมีมธีมแมว เหรียญมีมใหม่ที่ไม่ง้อ presale

แพลตฟอร์มกระเป๋าเงินดิจิทัลยอดฮิตอย่าง Best Wallet รวมถึงกระเป๋าเงินคริปโตอื่น ๆ ต้องทำงานหนักตั้งแต่ CatSlap เปิดตัวโทเคนใหม่ โดยโทเคนนี้สามารถสร้างยอดขายทะลุ 1 ล้านดอลลาร์ได้ในเวลาไม่ถึง 5 วันหลังจากเปิดตัว นอกจากนี้ ผู้ถือโทเคนจำนวนมากยังเลือกนำโทเคนไปสเตกในพูลเพื่อรับผลตอบแทนประจำปีที่สูงถึง 40%

โทเคน CatSlap เปิดตัวโดยตรงบน DEX และขณะนี้คุณสามารถซื้อได้ผ่านแอป Best Wallet หากคุณใช้กระเป๋าเงินคริปโตอย่าง Metamask หรือ Coinbase Wallet ก็สามารถเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเพื่อทำการแลกเปลี่ยนได้ เพียงแค่คุณมี ETH หรือ USDT ในกระเป๋าก็สามารถเริ่มต้นซื้อโทเคนได้ทันที

$SLAP โทเคนของ CatSlap มีเป้าหมายในการมอบผลตอบแทนให้กับผู้ถือ โดยแบ่งอุปทานทั้งหมด 30% สำหรับการสเตกและรางวัลชุมชน อีก 50% ถูกจัดสรรเพื่อสภาพคล่อง ส่วนที่เหลืออีก 20% ถูกแบ่งอย่างเท่าเทียมกันระหว่างกองทุนพัฒนาและทีมงาน ทั้งหมดนี้ทำให้โทเคน $SLAP มีอุปทานรวมทั้งสิ้น 9 พันล้านโทเคน

ความร้อนแรงของยอดขายที่ทะยานขึ้นของ CatSlap ทำให้โทเคนนี้มีศักยภาพที่จะก้าวข้ามโทเคนมีมธีมแมวอื่น ๆ อย่าง MOG และ POPCAT อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงทุน ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อการคาดการณ์ราคาของโทเคนนี้ด้วย

8. ShepskyAI – ยุคใหม่แห่งการเทรดด้วยเทคโนโลยี AI และ Language Model

ShepskyAI เริ่มต้นจากการเป็นมีมที่สร้างความสนุกสนาน แต่ในปัจจุบันได้พัฒนาไปสู่ระบบนิเวศที่ใช้เทคโนโลยี AI และ Language Model เพื่อการเทรดคริปโต ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มนี้ไม่เพียงมีคุณค่าเฉพาะกับนักลงทุน แต่ยังรวมถึงนักพัฒนาและนักเทรดด้วยเช่นกัน ผู้ใช้งานจะได้รับประโยชน์จากการตัดสินใจโดยอิงข้อมูล นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษ เช่น รางวัลจากการ Staking สิทธิ์ในการโหวตในระบบนิเวศ และฟีเจอร์พิเศษที่สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชันได้

หากสนใจ คุณสามารถซื้อ ShepskyAI ได้ผ่านเว็บไซต์ Presale อย่างเป็นทางการ โดยราคาช่วงเริ่มแรกอยู่ที่ $0.0007 ต่อ 1 $SEKY และราคาน่าจะเพิ่มขึ้นในแต่ละช่วงของ Presale เมื่อโทเคนเข้าสู่การลิสต์บน DEX และ CEX ผู้ใช้งานจะสามารถแลกเปลี่ยน $SEKY กับโทเคนอื่น ๆ ได้ แต่ในขณะนี้สามารถซื้อได้ด้วย ETH, USDT หรือ BNB เท่านั้น

แผนงานที่ครอบคลุมของ ShepskyAI จะปิดท้ายด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชัน ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้ใช้งานได้ในไตรมาสที่สามของปี 2025 เพื่อให้โทเคนยังคงมีความน่าสนใจ ทางโปรเจกต์จึงเสนอรางวัล Staking 10% ในปีแรกและ 5% ในปีที่สอง เพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนถือครองโทเคนต่อไป วิธีการนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ซื้อกลุ่มแรก โดยในขณะนี้มีการ Staking โทเคนไปแล้วกว่า 30 ล้านโทเคน

9. Doge Squared – มุ่งพัฒนาความสามารถในการขยายตัวและการเขียนโปรแกรมผ่าน Dogecoin Layer 2

Doge Squared ตั้งเป้าที่จะยกระดับประสบการณ์การใช้งาน Dogecoin ด้วยการนำโซลูชัน Layer 2 ของ Ethereum มาใช้ โดยโครงการนี้จะเริ่มต้นในฐานะ Layer 2 บน Ethereum พร้อมด้วยเทคโนโลยี rollups และ 2K rollup เพื่อช่วยปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม จากนั้น Doge Squared จะขยายไปสู่ Dogecoin Layer 2 ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการรองรับการใช้งานสำหรับผู้ถือ Dogecoin กว่า 6.9 ล้านราย

นอกจาก Doge Squared จะพัฒนาและใช้งานบน Dogecoin Layer 2 แล้ว ยังมีการสร้างสะพานเชื่อมระหว่าง Ethereum และ Dogecoin เพื่อให้การใช้งานของทั้งสองเครือข่ายเชื่อมต่อกันได้อย่างราบรื่น ผลลัพธ์ที่ได้คือ $DOGE² จะดึงประโยชน์ด้านความปลอดภัยของ Ethereum มาใช้ ขณะเดียวกันยังคงรักษาจุดเด่นของ Dogecoin ที่เป็นที่นิยมในฐานะเหรียญมีมเอาไว้ ผู้ใช้งานจะสามารถใช้ฟีเจอร์ที่ดีที่สุดจากทั้งสองเครือข่ายได้ในเวลาเดียวกัน

ในขณะนี้ $DOGE² กำลังอยู่ในช่วง Presale โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $0.008 นักลงทุนที่สนใจสามารถซื้อโทเคนได้ด้วย ETH, USDT หรือ BNB แต่การซื้อด้วย ETH และ USDT จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงผลตอบแทนที่คาดการณ์ไว้สูงถึงกว่า 20,000% เมื่อทำการ stake โทเคนดังกล่าว

จากจำนวนโทเคน $DOGE² ทั้งหมด 50% จะถูกจัดสรรสำหรับการ Presale โดยผู้ที่เข้าร่วมในช่วงเริ่มต้นจะได้รับสิทธิพิเศษ เช่น การแจก NFT ผ่าน airdrops และการเข้าถึงสิทธิ์ในการกำกับดูแลโครงการก่อนใคร

10. DogLibre – เหรียญ Meme สุนัขที่มาพร้อมภารกิจอันยิ่งใหญ่

ในขณะที่มีเหรียญ Meme มากมายบนโลกคริปโตที่พยายามจะเดินตามรอยความสำเร็จของ Dogecoin หรือ Slothana แต่ความจริงก็คือไม่ใช่ทุกเหรียญจะสามารถไปถึงจุดนั้นได้ การมุ่งลงทุนในเหรียญที่ไร้เป้าหมายอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ทำไมไม่ลองพิจารณาเหรียญ Meme ที่มีเป้าหมายชัดเจนแทนล่ะ?

DogLibre ถือเป็นเหรียญ Meme สุนัขที่มีแนวคิดที่แตกต่างอย่างแท้จริง เพราะภารกิจของมันคือการช่วยเหลือ “เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์” ผ่านการใช้เทคโนโลยี Web3 โดย DogLibre มุ่งมั่นที่จะสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทั้งสัตว์เลี้ยงและสุนัขจรจัดทั่วโลก

นอกจากพันธกิจด้านการกุศลที่โดดเด่นแล้ว DogLibre ยังมาพร้อมกับการใช้งานที่หลากหลายของเหรียญ (token utility) และโรดแมประยะยาวที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อดึงดูดนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง

แพลตฟอร์มนี้มีฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย เช่น การนำ AI มาใช้ในบริการดูแลสัตว์เลี้ยง การเดินเพื่อรับรายได้ (walktoearn) การเล่นเกมแบบ P2E (playtoearn) การสะสม NFTs การเล่นเกมผ่านมือถือ และการบริหารจัดการในรูปแบบ DAO โดยทั้งหมดนี้จะขับเคลื่อนด้วยโทเคน DOGL ซึ่งถูกพัฒนาบนเครือข่าย Ethereum

การลงทุนใน DogLibre ไม่เพียงแต่เป็นการสนับสนุนการดูแลสุนัขทั่วโลก แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสสู่อุตสาหกรรมคริปโต playtoearn ที่กำลังร้อนแรง นักลงทุนนอกจากจะได้ถือครองโทเคนที่มีศักยภาพสูงแล้ว ยังสามารถใช้โทเคนเหล่านี้เพื่อรับรางวัลเพิ่มเติม และเพิ่มมูลค่าการลงทุนเริ่มต้นของพวกเขาได้อีกด้วย

การเปิดขายล่วงหน้า (presale) ของ DogLibre ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนและจะสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม ยิ่งคุณตัดสินใจลงทุนเร็วเท่าไหร่ โอกาสในการรับผลตอบแทนก็ยิ่งสูงมากขึ้น โดยคุณสามารถซื้อโทเคน DOGL ได้ด้วย ETH หรือ USDT

11. StarChain – แพลตฟอร์มนวัตกรรมที่ทำให้การวิจัยทางวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องเข้าถึงได้

หนึ่งใน ICO ที่น่าจับตามองในปี 2024 คือ StarChain ($STRC) ซึ่งเป็นเครือข่ายจัดเก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์แบบกระจายศูนย์และการตรวจสอบข้อมูลแบบแรกของโลก โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่โทเคน ERC20 ชื่อ $STRC

เป้าหมายหลักของ StarChain คือการกระตุ้นให้นักวิจัยและสถาบันต่าง ๆ อัปโหลดข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์บนแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ของตน โดยตั้งเป้าสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมข้อมูลดาราศาสตร์ทั้งหมด ปัจจุบันได้รวบรวมข้อมูลไปแล้วกว่า 500+ TB

ในกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่อัปโหลด StarChain ใช้เครื่องมือ AI เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ยังมีการให้รางวัลเป็นโทเคน $STRC แก่ผู้ใช้งานที่แชร์หรืออัปโหลดข้อมูล เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับชุมชน

จากจำนวนโทเคนทั้งหมด 500 ล้านเหรียญ StarChain ได้จัดสรร 175 ล้านเหรียญสำหรับการ ICO โดยราคาปัจจุบันของ $STRC อยู่ที่ $0.5 ต่อโทเคน และจะเพิ่มขึ้นเป็น $0.63 ในช่วงขั้นตอนสุดท้ายของการขายล่วงหน้าทั้ง 14 รอบ

หลังจากเปิดตัว ICO ได้เพียงไม่กี่วัน StarChain สามารถระดมทุนได้เกือบ $30K ติดตามข่าวสารและอัปเดตเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้ได้ผ่านทางช่อง Telegram ของ StarChain และหน้า X ของพวกเขา

ICO คืออะไร?

ก่อนอื่นเลย เรามาทำความเข้าใจกันว่า ICO คืออะไร? ICO ย่อมาจาก “Initial Coin Offering” ซึ่งเป็นวิธีการระดมทุนที่คล้ายกับการระดมทุนแบบ crowdfunding โดยส่วนใหญ่ถูกใช้ในกลุ่มสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับ cryptocurrency หรือที่บางครั้งเรียกกันว่า crypto presales โครงการที่เปิดตัว ICO มักจะสร้างรายได้โดยการเสนอขายโทเคนดิจิทัลของตนให้แก่นักลงทุน โดยนักลงทุนสามารถซื้อโทเคนเหล่านี้ด้วยสกุลเงินดิจิทัลที่มีอยู่แล้ว เช่น Ethereum (ETH) หรือ Tether (USDT)

เมื่อซื้อโทเคนเหล่านี้ นักลงทุนจะได้รับสิ่งที่เปรียบเสมือน “หุ้น” ในโครงการนั้นๆ อย่างไรก็ตาม โทเคนใน ICO แตกต่างจากหุ้นแบบดั้งเดิม เพราะมันสามารถถูกใช้ในระบบนิเวศของโครงการได้ด้วย เช่น อาจใช้เป็นสกุลเงินในการทำธุรกรรม หรืออาจมีสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับการตัดสินใจของโครงการ

สิ่งที่ดึงดูดใจนักลงทุนมากที่สุดคือความหวังว่าโทเคนเหล่านี้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อโครงการที่เกี่ยวข้องได้รับการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบและเริ่มดำเนินการอย่างสมบูรณ์ ซึ่งในกรณีนี้ นักลงทุนอาจได้รับผลตอบแทนที่น่าสนใจจากการลงทุนของพวกเขา

ปัจจุบัน มี ICO Drops หลายแห่งที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อโทเคนในราคาที่ถูกกว่า ก่อนที่โทเคนเหล่านั้นจะถูกลิสต์บนแพลตฟอร์มซื้อขายแบบ centralized หรือ decentralized การเข้าสู่ตลาดในช่วงแรกนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับนักลงทุนที่ต้องการวางตำแหน่งตัวเองเพื่อรับผลกำไรที่อาจเกิดขึ้น หากมูลค่าของโทเคนเพิ่มสูงขึ้นหลังการลิสต์

อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ การศึกษาข้อมูลให้รอบด้านและทำความเข้าใจในพื้นฐานของโครงการเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งก่อนจะตัดสินใจลงทุนใน ICO โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงความผันผวนของตลาด cryptocurrency ที่มีความเสี่ยงสูง

ICO ทำงานอย่างไร?

กระบวนการของ ICO มักดำเนินไปในหลายขั้นตอน โดยในระยะแรกเริ่มต้นจากสิ่งที่เรียกว่า ‘PreICO’ ในช่วงนี้ โครงการจะถูกประกาศอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งมีการเผยแพร่เอกสาร Whitepaper เพื่ออธิบายรายละเอียดโปรเจกต์ และดำเนินกิจกรรมการตลาดเพื่อสร้างความน่าสนใจ ส่วนใหญ่จะใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น Twitter และ Instagram ในการโปรโมต

หลังจากนั้น ขั้นตอนการขายโทเคนอย่างเป็นทางการจะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งในช่วงนี้ นักลงทุนกลุ่มแรกจะได้รับโอกาสในการซื้อโทเคนของโครงการ โดยใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการยอมรับ ซึ่งมักจะสามารถซื้อได้จากแพลตฟอร์มซื้อขายหรือโบรกเกอร์ชั้นนำ ในระหว่างการขายโทเคนหรือกิจกรรม airdrop ของคริปโต จะมีการระบุรายละเอียดสำคัญอย่างชัดเจน เช่น เพดานการระดมทุน (Hard Cap) ราคาของโทเคน และรายชื่อสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถใช้ซื้อได้

เมื่อการขายโทเคนสิ้นสุดลง ซึ่งอาจเกิดขึ้นเมื่อเพดานการระดมทุนถูกเติมเต็ม หรือเมื่อทีมพัฒนาเลือกที่จะปิดการขายก่อนกำหนด ขั้นตอน ‘PostICO’ จะเริ่มขึ้น โดยในระยะนี้ นักลงทุนกลุ่มแรกจะได้รับสิทธิ์ในการอ้างสิทธิ์โทเคนที่พวกเขาซื้อไว้ จากนั้น โทเคนดังกล่าวจะถูกนำไปเปิดตัวในตลาดซื้อขายแบบรวมศูนย์ (Centralized Exchange) หรือแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Exchange) หรือในบางกรณีอาจเปิดตัวในทั้งสองรูปแบบ

เมื่อมองภาพรวมของกระบวนการ ICO จะเห็นว่ามีความคล้ายคลึงกับแนวคิดของการระดมทุนแบบ Crowdfunding เป็นอย่างมาก ซึ่งต้องอาศัยการทำงานอย่างหนักจากทีมพัฒนาโครงการ รวมถึงการสนับสนุนและมีส่วนร่วมจากชุมชนนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง

ติดตามข้อมูลล่าสุดด้วย ICO Calendar ของเรา

การเดินทางในโลกของ ICO ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอาจจะดูซับซ้อน โดยเฉพาะเมื่อมีโครงการใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดทุกสัปดาห์ ด้วยเหตุนี้ ICOBench จึงได้สร้าง ICO Calendar ที่ครอบคลุมสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นในตลาดและนักลงทุนที่มีประสบการณ์

ปฏิทินนี้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ ICOs ที่กำลังจะเปิดตัวและโครงการที่ดำเนินการอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้อ่านจะไม่พลาดโอกาสการลงทุนที่สำคัญ นอกเหนือจากวันที่เปิดตัว ปฏิทิน ICO ของเรายังรวบรวมรายละเอียดสำคัญของแต่ละโครงการ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินความน่าสนใจและศักยภาพของโครงการได้อย่างรวดเร็ว โครงการที่ระบุในปฏิทินมีตั้งแต่ meme coins, AI crypto coins, shitcoins และ cryptocurrencies ที่อาจสร้างมูลค่าเพิ่มมหาศาล ซึ่งทั้งหมดนี้มอบโอกาสการลงทุนที่หลากหลายสำหรับนักลงทุนทุกประเภท

การวิเคราะห์ ICOs และ IDOs ที่กำลังจะเปิดตัวและที่ดำเนินการอยู่

การแยกแยะระหว่าง ICOs ที่น่าเชื่อถือและที่ไม่น่าไว้วางใจถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ที่ ICOBench เรามีแนวทางการรีวิวและการจัดอันดับ ICOs และ IDOs ที่โปร่งใสและเข้มงวด เรามักเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ Whitepaper ของโปรเจกต์อย่างละเอียด ซึ่งเอกสารนี้จะบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมาย เทคโนโลยีที่ใช้ และปัญหาที่ทีมพัฒนาต้องการแก้ไข

อย่างไรก็ตาม การพิจารณา Whitepaper ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น การตรวจสอบทีมพัฒนาของโปรเจกต์ ICO ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ สมาชิกในทีมที่มีประสบการณ์จะช่วยเพิ่มโอกาสแห่งความสำเร็จ ขณะเดียวกัน หากทีมมีประสบการณ์น้อยหรือไม่น่าไว้วางใจ อาจเป็นสัญญาณเตือนที่ต้องระวัง

นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับเรื่อง Tokenomics ของ ICOs ที่กำลังจะเปิดตัว Tokenomics หมายถึงโครงสร้างและกลยุทธ์ในการจัดสรรโทเคน เช่น จำนวนโทเคนทั้งหมด เปอร์เซ็นต์ที่จัดสรรให้ทีมพัฒนา และการมีหรือไม่มีกลไกการ Burn โทเคน

การประเมินการมีส่วนร่วมของชุมชนกับโปรเจกต์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในกระบวนการรีวิวของเรา ชุมชนที่มีการมีส่วนร่วมอย่างจริงจังและกระตือรือร้นมักสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจและการสนับสนุนที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรสังเกตคือ การที่ทีมพัฒนามีปฏิสัมพันธ์กับชุมชน เช่น การตอบคำถามหรือข้อกังวลของนักลงทุนอย่างจริงใจและรวดเร็ว

การรวมปัจจัยเหล่านี้เข้าด้วยกันคือหัวใจสำคัญในการรีวิวและจัดอันดับ ICOs ของเรา ที่ ICOBench เราไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการระบุโปรเจกต์ที่มีศักยภาพในการทำกำไร แต่ยังให้ความสำคัญกับการนำเสนอข้อมูลที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงรากฐานของโปรเจกต์ที่มั่นคง

น่าเสียดายที่การหลอกลวงในวงการ ICO ยังคงเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น การแยกแยะระหว่าง ICOs ที่น่าเชื่อถือและการหลอกลวงจึงต้องอาศัยการวิจัยเชิงลึก แนวทางที่เป็นระบบของเรามุ่งหวังที่จะช่วยผู้อ่านในกระบวนการนี้ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ปลอดภัยและให้ความรู้มากขึ้นสำหรับทุกคน

ICO ถูกกฎหมายหรือไม่?

สถานะทางกฎหมายของ ICO Coins มีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ และมักจะมีความซับซ้อน ในบางประเทศ ICO ได้รับการกำกับดูแลภายใต้กรอบกฎหมายที่ชัดเจน แต่ในบางแห่ง การดำเนินการอาจอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่า “สีเทา”

ยกตัวอย่างเช่น ในบางรัฐของสหรัฐอเมริกา ICO จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด ในขณะที่อีกหลายประเทศ เช่น Switzerland อาจมีกระบวนการที่ผ่อนปรนกว่า ซึ่งโครงการ ICO ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตหรือจดทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแล

ในบางประเทศ การทำ ICO ถูกสั่งห้ามโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ China ซึ่งได้สั่งแบนการทำ ICO ทุกรูปแบบตั้งแต่ปี 2017 โดยให้เหตุผลที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงและความไม่เสถียรของตลาด

ความซับซ้อนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ ICO เกิดจากข้อกำหนดที่โครงการต้องปฏิบัติตาม เช่น การจดทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแล การปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน (AML) และการเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ นอกจากนี้ นักลงทุนเองก็ควรตระหนักถึงกฎหมายเหล่านี้ เพื่อให้มั่นใจว่าการเข้าร่วมใน ICO เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

โดยสรุป ความถูกต้องตามกฎหมายของ ICO ไม่ได้มีความชัดเจนในระดับสากล เนื่องจากกฎระเบียบในโลกคริปโตยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และกฎหมายในแต่ละประเทศก็แตกต่างกันไป นักลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนและปฏิบัติตามกฎที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อนที่จะเข้าร่วมใน ICO

วิธีการลงทุนใน ICO Coin อย่างปลอดภัย

การลงทุนใน ICO ที่กำลังจะเปิดตัวถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเข้าสู่วงการโครงการที่มีศักยภาพในช่วงเริ่มต้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระวังเช่นกัน การลงทุนอย่างปลอดภัยจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยสำคัญหลายด้านอย่างรอบคอบ

ลงทุนใน ICO คุ้มไหม ได้ผลตอบแทนอย่างไร?

การลงทุนใน ICO ใหม่ๆ นั้นเปรียบเสมือนดาบสองคม เพราะในขณะที่มันสามารถสร้างผลกำไรที่น่าทึ่งให้กับนักลงทุนได้ มันก็อาจทำให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ได้เช่นกัน อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ใน ICO มักจะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อความสำเร็จ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้รวมถึง:

• สภาวะตลาด: ความรู้สึกโดยรวมในตลาดคริปโต เช่น ตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง
• ปัจจัยพื้นฐานของโครงการ: เช่น ประสบการณ์ของทีมพัฒนา แผนงาน (roadmap) ของโครงการ และระดับการมีส่วนร่วมของชุมชน
• ช่วงเวลาที่ลงทุน: การลงทุนในระยะเริ่มต้นมักจะมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่แตกต่างจากการลงทุนในภายหลัง
• กลยุทธ์การลงทุน: เช่น การลงทุนครั้งเดียว (oneoff investment) หรือการทยอยลงทุน (staggered investing)
• กระแสนิยมและหมวดหมู่ของคริปโต: เช่น โครงการที่อยู่ในหมวด meme coins, crypto casino, bitcoin casino, เกมคริปโต หรือ metaverse

ในขณะที่ ICO บางโครงการสามารถสร้างผลตอบแทนในระดับ 10 เท่า 100 เท่า หรือแม้กระทั่ง 1,000 เท่าให้กับนักลงทุนในระยะแรกได้ แต่ก็มีหลายโครงการที่ล้มเหลวจนทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินทุนทั้งหมด ดังนั้น การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับโครงการ ทีมพัฒนา และความเป็นไปได้ในการใช้งานของโทเคน ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของ ICO ที่ประสบความสำเร็จคือ Ethereum (ETH) ในปี 2014 Ethereum ระดมทุนได้กว่า 17 ล้านดอลลาร์ในช่วง ICO โดยขายโทเคน ETH ในราคาประมาณ $0.30 ต่อโทเคน ปัจจุบันราคาของ ETH อยู่ที่มากกว่า $1,600 ต่อโทเคน หมายความว่านักลงทุนที่เข้าร่วมในระยะแรกเห็นผลตอบแทนสูงถึง 5,300 เท่าจากการลงทุนของพวกเขา

อีกตัวอย่างหนึ่งคือ NEO ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม “Ethereum ของจีน” โครงการนี้เริ่มต้นด้วยราคาขาย ICO อยู่ที่ $0.03 แต่ราคาของ NEO เคยพุ่งสูงถึง $180 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

นอกจากโครงการที่กล่าวไปแล้ว ยังมี ICO หลายโครงการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจได้ เช่น:

• Sui: โครงการนี้ระดมทุนได้กว่า $50 ล้านในช่วง ICO โดยขายโทเคนในรอบ presale ที่ราคา $0.1 และราคาพุ่งขึ้นถึง $1.5 หลังจากการลิสต์ แม้ว่าปัจจุบันจะมีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $0.5 แต่ก็ยังมากกว่าราคา ICO ถึง 5 เท่า
• Sei: หนึ่งในตัวอย่างล่าสุดที่น่าสนใจ โครงการนี้ขายโทเคนในช่วง ICO ที่ราคา $0.015 และราคาพุ่งสูงขึ้นกว่า 3,000% แตะที่ $0.26 ซึ่งได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากการลิสต์บน Binance
• BTC20: โทเคน staketoearn ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Bitcoin หลังจากเปิดตัวใน IEO ราคาของ BTC20 เพิ่มขึ้นถึง 600%

การลงทุนใน ICO: ความเสี่ยงและโอกาส

ท้ายที่สุดแล้ว การลงทุนใน ICO เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้และมีความเสี่ยงสูง การศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ การจัดการความเสี่ยงอย่างชาญฉลาด รวมถึงความเข้าใจในโครงการและสภาพตลาดในวงกว้าง เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักลงทุน นักลงทุนควรพิจารณาเสมอว่าตนเองยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน และตั้งเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจเข้าสู่โลกของ ICO

ICO ในโลกคริปโตเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน?

การเปิดตัว ICO ใหม่ในตลาดคริปโตเกิดขึ้นเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยบางโครงการอาจมีช่วงเวลาระดมทุนที่สั้น ในขณะที่บางโครงการอาจใช้เวลานานกว่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่ายังคงมีตัวเลือกมากมายให้คุณได้เลือกพิจารณา แต่ความท้าทายที่แท้จริงคือการค้นหาโครงการที่มีความน่าเชื่อถือและศักยภาพที่แท้จริง

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการศึกษาข้อมูลของโครงการให้ละเอียดจึงมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน whitepaper ของโครงการ การตรวจสอบทีมงาน การมีส่วนร่วมกับชุมชน รวมถึงการประเมินโครงสร้าง tokenomics ว่ามีความสมเหตุสมผลหรือไม่ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเริ่มต้นด้วยการดูรายการ ICO ที่ผ่านการคัดกรองจากเรา เพื่อค้นหาโครงการที่น่าสนใจอีกด้วย

คำถามที่พบบ่อย