การโจรกรรม Ethereum ครั้งใหญ่บน Bybit เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2025 ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรงในวงการคริปโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Lazarus Group ซึ่งเป็นกลุ่มแฮ็กเกอร์จากเกาหลีเหนือได้เร่งมือในการฟอกเงินที่ได้จากการโจรกรรมครั้งนี้
ตามรายงานจาก Crypto.news กาเคลื่อนย้ายเงินล่าสุดทำให้ยอดรวมของ Ethereum ที่ถูกฟอกไปแล้วอยู่ที่ประมาณ 343,000 ETH ซึ่งคิดเป็นเกือบ 68.7% ของ 499,000 ETH ที่ถูกขโมยไปทั้งหมด
จากการประเมินของ EmberCN คาดการณ์ว่าแฮ็กเกอร์จะสามารถฟอกเงินที่เหลือทั้งหมดได้ภายใน 3 วันข้างหน้า
FBI ยืนยันเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลัง
Federal Bureau of Investigation (FBI) ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2025 โดยระบุว่าเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการโจรกรรมมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลารจาก Bybit และเรียกปฏิบัติการทางไซเบอร์นี้ว่า “TraderTraitor”
FBI ระบุว่า TraderTraitor เร่งรีบเคลื่อนย้ายทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยแปลงทรัพย์สินส่วนหนึ่งเป็น Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ จากนั้นกระจายไปยังที่อยู่ต่าง ๆ บนบล็อกเชนจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ FBI คาดการณ์ว่าทรัพย์สินเหล่านี้จะถูกฟอกต่อไปและในที่สุดจะถูกแปลงเป็นเงิน Fiat
FBI กำลังขอความช่วยเหลือจากภาคเอกชนโดยขอให้ผู้ให้บริการ RPC Node, กระดานเทรด, Bridge, บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน, ผู้ให้บริการ DeFi และผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ช่วยกีดกันการธุรกรรมที่เชื่อมโยงกับที่อยู่ที่ TraderTraitor ใช้ในการฟอกเงิน
นอกจากนี้ FBI ยังได้แบ่งปันที่อยู่ที่เชื่อมโยงกับแฮ็กเกอร์ ในขณะที่ Elliptic ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนได้ขยายการตรวจสอบโดยการหมายที่อยู่กระเป๋าคริปโตกว่า 11,000 ใบที่อาจเชื่อมโยงกับปฏิบัติการนี้
ความเชื่อมั่นที่สั่นคลอน
การโจรกรรมครั้งใหญ่ครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อ Bybit ทั้งในด้านการเงินและความน่าเชื่อถือ
ความเสียหาย 1,500 ล้านดอลลาร์ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม และอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ Bybit และตลาดคริปโตโดยรวม
การที่ FBI ได้เข้ามามีส่วนร่วมได้แสดงให้เห็นถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ และความจำเป็นในการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโต
Bybit ต้องเผชิญกับความท้าทายในการกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต
การทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและการเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใสจะเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความไว้วางใจกลับคืนมา
เร่งเครื่องตามล่าและปิดช่องโหว่ฟอกเงิน
FBI กำลังทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิดเพื่อติดตามและยึดคืนเงินที่ถูกขโมยไป การขอความร่วมมือจากผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการติดตามความเคลื่อนไหวของเงินที่ถูกขโมยไปอย่างใกล้ชิด
การบังคับใช้กฎหมาย KYC และ AML (Anti-Money Laundering) ที่เข้มงวดขึ้นจะช่วยป้องกันการฟอกเงินผ่านแพลตฟอร์มคริปโต
การทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และภาคเอกชนเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างระบบนิเวศคริปโตที่ปลอดภัยและโปร่งใส
กำลังมองหากระเป๋าคริปโตสำหรับการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณให้ปลอดภัยอยู่หรือไม่? แนะนำ BestWallet อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง รองรับเหรียญจากบล็อกเชนหลายเครือข่าย และระบบนิเวศที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน