Snorter Bot เปิดตัว Launchpad ใหม่ ท้าชน Pump.fun!

Snorter เตรียมท้าชน Pump.fun

LetsBonk แพลตฟอร์มเปิดตัวเหรียญมีมหน้าใหม่ เริ่มแซงหน้า Pump.fun แล้ว ด้วยจำนวนการเปิดเหรียญที่มากกว่าในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

แม้ Pump.fun จะเคยเป็นจุดเริ่มของกระแสเหรียญมีมปี 2024 แต่ตอนนี้เริ่มเสียความได้เปรียบแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับ Snorter Bot Token (SNORT) มันไม่สำคัญว่าเหรียญจะเปิดที่ไหน เพราะบอทถูกสร้างมาเพื่อตามหาเหรียญมีมที่มีแนวโน้มจะพุ่ง 10x อยู่แล้ว

นักลงทุนเริ่มตอบรับแนวทางนี้ ล่าสุด SNORT ระดมทุนไปแล้วกว่า $2.6 ล้าน เพื่อขยายระบบบอทเทรดอัตโนมัติบน Telegram โดยยังมีเงินไหลเข้าต่อเนื่องจากนักเทรดที่ต้องการใช้งานฟีเจอร์สายทำกำไรของบอท

หนึ่งในจุดเด่นคือค่าธรรมเนียมเทรดเพียง 0.85% ซึ่งต่ำที่สุดในกลุ่มบอท อีกทั้งการทำงานบน Solana ยังช่วยลดต้นทุนได้อีกขั้น

ตอนนี้โทเค็น SNORT ขายอยู่ที่ราคา $0.0999 และจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นในช่วงพรีเซล

ระดมทุน $500M ก็ไม่ช่วย! ส่วนแบ่งตลาดของ Pump.fun ถูกเบียดโดย LetsBonk

Pump.fun เปิดตัว ICO เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม และขายได้ถึง 33% จากโทเค็นทั้งหมด 1 ล้านล้านภายในไม่กี่นาที กวาดรายได้ไปกว่า $500 ล้าน

ความรวดเร็วในการขายหมดในครั้งนี้ไม่น่าประหลาดใจนัก เพราะ Pump.fun ได้สร้างชื่อเสียงไว้ตั้งแต่ยุคที่กระแส meme coin กำลังมาแรงในปี 2024 แล้ว ซึ่งรายได้ที่บริษัททำได้ในช่วงนั้นกลายเป็นจุดสนใจอย่างมากสำหรับนักลงทุนที่มองหาสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ราคาโทเค็น PUMP ที่เคยขึ้นไปแตะ $0.006812 ก็ร่วงลงต่อเนื่อง จนปัจจุบันซื้อขายกันที่ราว $0.002816 ในขณะที่ LetsBonk เริ่มแย่งส่วนแบ่งตลาดไปเรื่อยๆ

ราคาเหรียญ PUMP ร่วงลงต่อเนื่อง
ราคาเหรียญ PUMP ร่วงลงต่อเนื่อง ที่มา: CoinMarketCap

แม้ราคาจะยังไม่ถึงจุดจบของ Pump.fun แต่แนวโน้มก็ชัดเจนว่ากำลังเสียส่วนแบ่งตลาดให้คู่แข่งอย่าง LetsBonk แพลตฟอร์มสาย Solana ที่เพิ่งเปิดตัวเมษายนที่ผ่านมา

เฉพาะวันพุธวันเดียว LetsBonk มียอดเปิดตัวโทเค็นใหม่ถึง 20,712 รายการ เทียบกับ Pump.fun ที่ทำได้เพียง 4,486 รายการเท่านั้น

Daily Tokens Deployed ที่มา: Dune Analytics
ที่มา: Dune Analytics

ความแข็งแกร่งของ LetsBonk ส่วนหนึ่งมาจากฐานแฟน BONK ที่เหนียวแน่น บวกกับจังหวะเวลาที่พอดี เพราะนักเทรดเริ่มเบื่อ Pump.fun มาตั้งแต่ต้นปี ยอดเปิดตัวโทเค็นต่อวันก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

แถมการออกแบบแพลตฟอร์มก็ช่วยเพิ่มความนิยม เพราะระบบ auto-list และการเชื่อมสภาพคล่องอัตโนมัติ ทำให้เหรียญใหม่เข้าเทรดบน Raydium และ Jupiter ได้ไวขึ้น

ที่สำคัญคือผู้สร้างเหรียญรับค่าธรรมเนียม 1% จากวอลุ่มการเทรด เทียบกับ Pump.fun ที่จ่ายแค่ 0.05% ซึ่งถือว่าคนสร้างได้ประโยชน์มากกว่า

หากราคา PUMP ยังร่วงต่อ ความเชื่อมั่นต่อแพลตฟอร์มอาจสั่นคลอน และเปิดทางให้ LetsBonk ขึ้นแท่นผู้นำใหม่ของวงการ meme coin ได้ในไม่ช้า

แต่สำหรับผู้ใช้ Snorter Bot Token สิ่งนี้ไม่มีผลมากนัก เพราะไม่ว่าจะเหรียญ 10x ตัวต่อไปจะเกิดจาก Pump.fun, LetsBonk หรือแพลตฟอร์มไหน หน้าที่ของบอทยังเหมือนเดิม นั่นคือการหาเหรียญศักยภาพสูงให้เจอก่อนมันพุ่ง

ศึก Launchpad จะไม่สำคัญอีกต่อไป ถ้าบอทคุณล่าเหรียญได้หมด

ขณะที่ LetsBonk เริ่มแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเจ้าใหญ่ Snorter Bot ก็เริ่มดึงความสนใจจากบอทเทรดบน Telegram รายอื่นเช่นกัน

จุดเด่นของ SNORT เริ่มตั้งแต่ระดับเครือข่าย เพราะเป็นบอทที่สร้างขึ้นโดยตรงบน Solana ทำให้ประมวลผลเร็วและค่าธรรมเนียมถูกกว่า แม้แต่บอทฝั่ง Ethereum ที่พยายามเพิ่มเครือข่ายรองก็ยังเทียบไม่ได้ เนื่องจาก Solana ไม่มีปัญหาคอขวดแบบที่ Ethereum เจออยู่

และเมื่อ SNORT เปิดใช้งานแบบ multi-chain ความเร็วนี้ก็จะขยายไปยังเครือข่ายอื่น ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าถึงเหรียญมีมที่เพิ่งเปิดตัวได้เร็วและคุ้มต้นทุนมากขึ้น

ไฮไลต์ของบอทคือ ฟีเจอร์ Fast Sniper ที่ออกแบบมาเพื่อลุยตลาดแบบ LetsBonk โดยเฉพาะ เนื่องจาก LetsBonk ดันเหรียญขึ้นเทรดบน Raydium และ Jupiter ได้ภายในไม่กี่วินาที

โครงการจึงตั้งระบบตรวจจับ mempool และอีเวนต์บน DEX เพื่อส่งคำสั่งซื้อภายในเสี้ยววินาทีที่สภาพคล่องเข้า พร้อมเชื่อมต่อผ่าน private RPC ที่ตรวจเจอการสร้าง pool และคู่เทรดใหม่ได้แทบจะทันที

ตั้งแต่กัน MEV ยัน Copytrading – Snorter ช่วยลดความเสี่ยงให้เทรดเดอร์

แค่ความเร็วไม่พอสำหรับบอทเทรดอีกต่อไป โดยเฉพาะในตลาดเหรียญมีมที่ความเสี่ยงสูงพอๆ กับโอกาสทำกำไร เพราะมีทั้งบอทโกงและโปรเจกต์หลอกลวงมากมายที่จ้องจะดูดกำไรของผู้ใช้งาน

SNORT จึงมาพร้อมระบบป้องกัน front-running และ MEV ในตัว โดย front-running คือการที่บอทอื่นเห็นคำสั่งซื้อของคุณและแทรกตัวเข้ามาก่อนเพื่อทำกำไร ส่วน MEV คือการที่ validator เรียงลำดับธุรกรรมใหม่เพื่อคอยเอาเปรียบ ซึ่ง Snorter จะช่วยบล็อกกลยุทธ์เหล่านี้ ทำให้การเข้าซื้อใสสะอาดขึ้นและลดการไถ่ราคาซื้อ (slippage)

นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกัน honeypot หรือโทเค็นที่ให้ซื้อได้แต่ขายไม่ได้อีกด้วย ระบบจะทดสอบสัญญาอัตโนมัติก่อนเทรด เพื่อหลีกเลี่ยงเหรียญลักษณะนี้

ด้านความเสี่ยงว่าครอบคลุมแล้ว แต่อีกด้านที่โครงการนี้ให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ การใช้งานที่เข้าถึงได้ทุกระดับ ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถตั้ง sniper แบบมือโปรหรืออ่านข้อมูล pool วันละหลายครั้งได้

ทางโครงการจึงเพิ่มฟีเจอร์ copytrading ให้ผู้ใช้งานสามารถกดติดตามและเทรดตามเทรดเดอร์มืออาชีพได้แบบเรียลไทม์ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากเรียนรู้และได้สัมผัสโอกาสทำกำไรไปพร้อมกัน

จุดประสงค์ของ SNORT น่าสนใจกว่าที่คิด!

SNORT คือโทเค็นของระบบนิเวศ Snorter Bot และเป็นกุญแจสำคัญสำหรับนักเทรดที่ต้องการเพิ่มผลตอบแทนให้สูงสุด โดยประโยชน์สูงสุดข้อหนึ่งคือ ช่วยปลดล็อกค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำสุดเพียง 0.85% ซึ่งถือว่าได้เปรียบอย่างมากเมื่อเทียบกับบอทเทรดบน Telegram รายอื่น

การถือครอง SNORT ยังช่วยเพิ่มขีดจำกัดการเทรด และปลดล็อกฟีเจอร์ระดับพรีเมียมของบอท ช่วยให้เทรดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่มีข้อจำกัด

ตามแผนในอนาคต SNORT จะมีบทบาทด้านการกำกับดูแล (governance) ผู้ถือโทเค็นจะสามารถใช้สิทธิ์โหวตผ่าน DAO ได้ และ SNORT ยังจะถูกใช้เป็นสกุลหลักในกิจกรรมของแพลตฟอร์มด้วย เช่น แคมเปญชวนเพื่อน การแข่งขันเทรด และการเข้าถึงอัปเกรดระบบ AI ก่อนใคร

สรุปแล้ว SNORT คือการถือหุ้นในอนาคตของระบบ Snorter Bot นั่นเอง ซึ่งการเข้าร่วมพรีเซลคือโอกาสที่คุณจะได้ต้นทุนต่ำที่สุด

ฟีเจอร์ SNORTER BOT

เข้าร่วมพรีเซล Snorter ได้ง่ายๆ

เมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว บอทเทรดใหม่นี้มีแนวโน้มที่จะเข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาดจากคู่แข่งอย่าง Banana Gun, Maestro, Trojan และรายอื่น ๆ ได้อย่างไม่น่าแปลกใจ เช่นเดียวกับที่ LetsBonk กำลังสร้างผลกระทบต่อ Pump.fun

หากคุณต้องการเป็นส่วนหนึ่งในโอกาสนี้ คุณสามารถสนับสนุนพรีเซลได้โดยไปที่เว็บไซต์ Snorter Token ซึ่งรองรับการซื้อด้วย SOL, ETH, BNB, USDT, USDC และยังสามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ทางโครงการยังแนะนำให้ใช้ Best Wallet ซึ่งเป็นพันธมิตรกระเป๋าเงินที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม โดย Best Wallet สามารถแสดงยอด SNORT จากพรีเซลในแอปพลิเคชันได้เลย และยังมีฟีเจอร์พิเศษ “Upcoming Tokens” ที่ให้สิทธิ์เข้าถึงโทเค็นใหม่ ๆ ได้ก่อนใครอีกด้วย

ปัจจุบัน Best Wallet สามารถดาวน์โหลดได้แล้วทั้งบน Google Play และ Apple App Store

ติดตามข่าวสารล่าสุดได้ทาง X และ Instagram

By Kunlatida Piyasuk

นักเขียนและนักวิเคราะห์ในวงการคริปโตและบล็อกเชนที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในการติดตามและวิเคราะห์พัฒนาการของเทคโนโลยีดิจิทัลและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล และการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการตลาดคริปโตในเชิงกลยุทธ์ มีทักษะเฉพาะในการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อประเมินมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณในการคาดการณ์ทิศทางตลาดคริปโต ได้รับการยอมรับจากผู้อ่านและผู้เชี่ยวชาญในวงการคริปโตที่เคารพในความโปร่งใสและวิธีการนำเสนอข้อมูลที่เป็นกลางและมีความแม่นยำ มักจะเขียนบทความที่เจาะลึกเกี่ยวกับการพัฒนาของเทคโนโลยีบล็อกเชน แนวโน้มการลงทุนในคริปโต และการนำเสนอวิธีการจัดการพอร์ตการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว