Bitcoin (BTC) กลายเป็นหมัดเด็ดของ MicroStrategy (ปัจจุบันใช้ชื่อ Strategy) อีกครั้ง เมื่อบริษัทรายงานผลกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการถือครองพุ่งแตะ $1.405 หมื่นล้านในไตรมาส 2 ปี 2025
และไม่ใช่แค่นั้น เพราะ Strategy ยังประกาศแผนระดมทุนกว่า $4.2 พันล้านผ่านหุ้นบุริมสิทธิ เพื่อซื้อ BTC เพิ่มอีก ส่งสัญญาณชัดว่ากลยุทธ์ BTC ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของบริษัทแบบไม่มีแผ่ว
กำไร Bitcoin ทุบสถิติ วางแผนซื้อเพิ่มแบบไม่ยั้ง
รายงานผลประกอบการล่าสุดเผยให้เห็นกำไรมหาศาลจากการลงทุนใน Bitcoin ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของราคา BTC และการปรับใช้มาตรฐานการบัญชีใหม่ (ASU No. 2023-08) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025
มาตรฐานใหม่นี้ทำให้บริษัทรับรู้การเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ BTC ได้ทันที แทนที่จะบันทึกเฉพาะผลขาดทุนจากการที่มูลค่าด้อยค่าลงเหมือนในอดีต ซึ่งทำให้ภาพรวมทางการเงินสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของ BTC ที่บริษัทถือครองอยู่
เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์การลงทุนใน BTC บริษัทได้ประกาศเสนอขายหุ้นบุริมสิทธิ Series A (STRD) มูลค่ารวมสูงถึง 4.2 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการนำเงินทุนที่ได้ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไปของบริษัท ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อ BTC เพิ่มเติมด้วย
นี่คือการส่งสัญญาณว่า Strategy ไม่ได้มอง BTC เป็นเพียงสินทรัพย์สำรอง แต่เป็นแกนหลักของกลยุทธ์การเติบโตในระยะยาว
วิเคราะห์กลยุทธ์ระดมทุนเพื่อสะสม BTC เพิ่ม
ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2025 บริษัท Strategy ถือครอง Bitcoin จำนวนมหาศาลถึง 597,325 BTC โดยมีต้นทุนการซื้อรวมอยู่ที่ $4.24 หมื่นล้าน หรือเฉลี่ยที่ $70,982 ต่อหนึ่งเหรียญ
เฉพาะในไตรมาสที่ 2 เพียงไตรมาสเดียว บริษัทได้เข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 69,140 BTC คิดเป็นมูลค่ารวม $6.77 พันล้าน โดยการซื้อครั้งนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากการออกหุ้นหลายรูปแบบ รวมถึง $5.2 พันล้าน จากโปรแกรมขายหุ้นสามัญแบบ ATM และ $979.7 ล้าน จากการเสนอขาย STRD
โครงการ 2024 Common ATM ของบริษัทสามารถสร้างรายได้ถึง $2.4 พันล้าน ก่อนที่จะสิ้นสุดลง และโครงการใหม่ในปี 2025 Common ATM ได้เพิ่มเงินอีก $2.9 พันล้าน
ในปัจจุบัน บริษัทยังมีหุ้นสามัญ Class A จำนวน $18.1 พันล้าน ที่สามารถออกในอนาคตภายใต้โครงการปี 2025 รวมถึงหุ้น STRK มูลค่า $20.5 พันล้าน และหุ้น STRF อีก $1.9 พันล้าน
สำหรับพอร์ตหุ้นบุริมสิทธิ บริษัทมีมูลค่ารวม $3.4 พันล้าน โดยให้เงินปันผลประจำปี $315.9 ล้าน
นอกจากนี้ บริษัทยังมีหนี้แปลงสภาพ (convertible notes) ทั้งหมด $8.213 พันล้าน ซึ่งได้ผ่านเงื่อนไขการแปลงสภาพในไตรมาส 3 ปี 2025 โดยพิจารณาจากเกณฑ์ราคาแปลงสภาพที่ 130%
หากมีการแปลงหนี้ทั้งหมด จำนวนหุ้นสามัญที่อาจออกเพิ่มสูงสุดจะอยู่ที่ 24,439,825 หุ้น
ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2025 ราคาของ BTC มีการเคลื่อนไหวในช่วง $74,420.69 ถึง $112,000.00 โดยราคาปิดไตรมาสอยู่ที่ $107,751.68 บนแพลตฟอร์ม Coinbase
ความผันผวนดังกล่าวส่งผลให้มูลค่ายุติธรรม (fair value) ของพอร์ตมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ซึ่งแตกต่างจากผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง $5.91 พันล้านในไตรมาส 1 ปี 2025
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตือนว่าผลลัพธ์ในปี 2025 และหลังจากนั้นจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับช่วงก่อนหน้าได้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในมาตรฐานการบัญชี
ความท้าทายทางกฎหมายและโอกาสที่ Bitcoin จะพา Strategy เข้า S&P 500
อย่างไรก็ตาม เส้นทางของ Strategy ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ บริษัทกำลังเผชิญกับการฟ้องร้องแบบกลุ่มหลายคดี
โดยมีข้อกล่าวหาว่าบริษัทได้ให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับความเสี่ยงของกลยุทธ์การลงทุนใน BTC ประเด็นสำคัญอยู่ที่การเปิดเผยผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงในไตรมาสแรก ซึ่งทำให้ราคาหุ้นร่วงลง และเปิดโปงความผันผวนของ BTC ที่นักลงทุนอาจไม่ทันได้คาดคิด
👨🏻⚖️ New York law firm Pomerantz has filed a lawsuit against Michael @Saylor’s @Strategy, accusing the Bitcoin-focused firm of misleading investors.#Bitcoin #Saylorhttps://t.co/ZwEcH2nYTQ
— Cryptonews.com (@cryptonews) July 3, 2025
ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีข่าวดีที่น่าจับตามอง นักวิเคราะห์การเงินประเมินว่า Strategy มีโอกาสสูงถึง 91% ที่จะถูกรวมเข้าในดัชนี S&P 500 หากราคา BTC สามารถยืนเหนือระดับ 95,240 ดอลลาร์ได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทจำเป็นต้องมีกำไรสะสมในเชิงบวกติดต่อกันสี่ไตรมาสเพื่อให้มีคุณสมบัติ ซึ่งผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 จะขึ้นอยู่กับมูลค่าตลาดยุติธรรมของ Bitcoin เป็นหลัก เนื่องจากบริษัทมีผลขาดทุนติดต่อกันถึงสามไตรมาสก่อนหน้า
Strategy tracking day 337$MSTR now ranked 93rd largest US company by market cap ($112.99B)
— Jeff Walton (@PunterJeff) July 3, 2025
Jumped 1 company (Nike) today, and 1 company this week. Digital Capital now chasing Analog Devices.
Day 3 of qualifying for S&P 500
11th largest publicly traded equity by volume
Cheers… https://t.co/sd8O72svbL pic.twitter.com/Z9k3FjEqpt
การได้เข้าสู่ S&P 500 จะเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาลเข้ามาสู่บริษัท ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลยุทธ์ BTC โดยรวมอย่างปฏิเสธไม่ได้
แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักลงทุนสาย Short-sell แต่ผลตอบแทนของหุ้น MSTR ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จ โดยราคาหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 3,130% นับตั้งแต่เริ่มซื้อ BTC ในปี 2020 ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของราคา BTC เองที่ 1,000% ในช่วงเวลาเดียวกัน นี่จึงเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ที่ขึ้นอยู่กับแนวโน้มราคา Bitcoin ในอนาคตอย่างแท้จริง