ราคา Ethereum (ETH) กำลังกลับมาเป็นที่จับตาของนักลงทุนทั่วโลกอีกครั้ง หลังจากพุ่งทะยานผ่านระดับ $3,900 อย่างแข็งแกร่ง โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากเม็ดเงินมหาศาลที่ไหลเข้าสู่กองทุน Spot Ethereum ETF อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการเข้าสะสมของนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ สัญญาณบวกเหล่านี้ทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนักเริ่มมองว่าเป้าหมายที่ระดับ $4,000 อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม และอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของขาขึ้นรอบใหม่
แรงซื้อ ETF จุดประกายราคาพุ่ง! เจาะลึกปัจจัยขับเคลื่อน ETH
ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ผลักดันราคา Ethereum ในขณะนี้คือแรงซื้อจากกองทุน Spot ETF ซึ่งสร้างสถิติซื้อสุทธิติดต่อกันถึง 17 วันทำการ โดยในวันศุกร์ที่ผ่านมาวันเดียวมีเงินไหลเข้าสูงถึง 453 ล้านดอลลาร์ ทำให้สินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ของ ETF ทั้งหมดพุ่งแตะ 20.66 พันล้านดอลลาร์ การแห่ซื้ออย่างต่อเนื่องนี้กำลังสร้างสภาวะที่เรียกว่า “Supply Shock” หรืออุปทานในตลาดเริ่มขาดแคลนสวนทางกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
ข้อมูลจาก Bitwise คาดการณ์ว่าความต้องการ ETH จากกองทุน ETF อาจสูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ในปีหน้า ซึ่งเทียบเท่ากับ ETH จำนวน 5.33 ล้านเหรียญ ในขณะที่อุปทานเหรียญใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นในเวลาเดียวกันมีเพียงประมาณ 0.8 ล้านเหรียญเท่านั้น ช่องว่างระหว่างอุปสงค์และอุปทานนี้เป็นปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งซึ่งสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของราคา Ethereum ในระยะยาว
การไหลเข้าของเงินทุนอย่างต่อเนื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบัน โดยมีรายงานว่า เงินลงทุนไหลเข้า Ethereum ETF ติดต่อกันหลายสัปดาห์ สร้างสถิติใหม่และตอกย้ำความต้องการในตลาด
นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของนักลงทุนสถาบันยังเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่น่าสนใจ โดยล่าสุด SharpLink Gaming บริษัทเกมมิ่งได้เข้าซื้อ ETH เพิ่มอีก 77,210 ETH (มูลค่าประมาณ 295 ล้านดอลลาร์) ทำให้บริษัทถือครอง ETH รวมแล้วกว่า 438,017 ETH (มูลค่า 1.69 พันล้านดอลลาร์) การเข้าสะสมในระดับนี้สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทขนาดใหญ่เริ่มมอง Ethereum เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่แค่สกุลเงินดิจิทัลเพื่อเก็งกำไร
มุมมองการลงทุนระยะยาวเช่นนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่นักลงทุนสถาบันเท่านั้น แต่ยังได้รับการตอกย้ำจากผู้ร่วมก่อตั้งโปรเจกต์เอง ซึ่ง ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ชี้ว่า ETH อาจกลายเป็นสินทรัพย์หลัก ของเศรษฐกิจโลกในอนาคต
RSI ยังไม่ Overbought! เป้าหมาย ETH ระยะสั้นทะลุ $4,300
ในเชิงเทคนิค กราฟราคา Ethereum ในไทม์เฟรม 3 วัน ได้สร้างรูปแบบ ‘Diamond Pattern’ ซึ่งเป็นสัญญาณคลาสสิกของการกลับตัวเป็นขาขึ้น และได้รับการยืนยันด้วยแท่งเทียนสีเขียวขนาดใหญ่ที่ตามมา ขณะที่ดัชนี RSI อยู่ที่ระดับ 66 ซึ่งบ่งชี้ถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่งแต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) ส่วน MACD ยังคงเป็นบวก แสดงว่าแรงซื้อยังคงควบคุมตลาดอยู่
นักวิเคราะห์มองว่าแนวต้านสำคัญที่ราคา Ethereum ต้องผ่านไปให้ได้คือโซน $4,000 – $4,089 หากสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ $4,300, $4,500 และอาจไปถึง $4,800 ตามลำดับ ในทางกลับกัน หากราคาไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ อาจมีการย่อตัวกลับมาทดสอบแนวรับที่โซน $3,750 – $3,680 ซึ่งยังคงเป็นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับขาขึ้นรอบนี้
นอกเหนือจากเป้าหมายทางเทคนิคเหล่านี้ นักวิเคราะห์บางส่วนยังมองการณ์ไกลยิ่งกว่านั้น โดยชี้ให้เห็นถึง ศักยภาพราคา Ethereum ที่อาจทะยานสู่ $6,000 โดยอ้างอิงจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและรูปแบบราคาที่คล้ายกับทองคำ
ราคา ETH ยังขาขึ้น? ETF และนักลงทุนใหญ่ยังหนุนหนัก
โดยรวมแล้ว แนวโน้มราคา Ethereum ยังคงดูเป็นบวกอย่างมาก โดยมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจากแรงซื้อของกองทุน ETF และนักลงทุนสถาบันเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก นักลงทุนควรจับตาดูแนวต้านสำคัญที่ $4,089 อย่างใกล้ชิด เพราะการทะลุผ่านระดับนี้ไปได้จะเปิดประตูสู่เป้าหมายที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความร้อนแรงของตลาด การมองหาโอกาสการลงทุนในโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่มีศักยภาพสูงอย่าง Bitcoin Hyper ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
$HYPER โอกาสใหม่มาแรง! แพลตฟอร์ม Layer-2 บน Bitcoin
ในขณะที่ราคา Ethereum กำลังร้อนแรง นักลงทุนจำนวนมากก็เริ่มมองหาโอกาสใน Altcoin ที่มีศักยภาพเติบโตสูงควบคู่กันไป และหนึ่งในโปรเจกต์ที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงอย่างมากคือ Bitcoin Hyper ($HYPER) ซึ่งเป็นโครงการ Layer-2 บน Bitcoin ที่ใช้เทคโนโลยี Solana Virtual Machine (SVM) แห่งแรกของโลก
การมองหาโอกาสใน Altcoin ถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจในช่วงที่ตลาดกระทิงกำลังก่อตัว ซึ่งนอกเหนือจากโปรเจกต์ Layer-2 แล้ว ยังมี เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนอื่น ๆ ที่คาดว่าจะเติบโต ตามการขึ้นของราคา Ethereum เช่นกัน
Bitcoin Hyper ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาคลาสสิกของ Bitcoin ทั้งในเรื่องความเร็วที่จำกัด (ประมาณ 7 TPS) และค่าธรรมเนียมที่สูง โดยนำเสนอความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมหลายหมื่นรายการต่อวินาทีด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก ทำให้ Bitcoin สามารถใช้งานได้จริงในโลก DeFi, dApps และ GameFi โดยไม่ทิ้งความปลอดภัยดั้งเดิมของเครือข่าย Bitcoin Layer-1
กระแสความสนใจใน Bitcoin Hyper นั้นเห็นได้ชัดจากยอดระดมทุนพรีเซลที่ทะลุ 4 ล้านดอลลาร์ไปแล้วอย่างรวดเร็ว โดยเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงได้ก่อนโดยไม่มีรอบพิเศษสำหรับ VC หรือกองทุนใหญ่ พร้อมเสนอผลตอบแทนจากการ Stake ในช่วงพรีเซลสูงถึง 2,000% APY ซึ่งถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหาผลตอบแทนแบบก้าวกระโดดในตลาดกระทิงรอบถัดไป