ราคาของ Ethereum ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่น่าประทับใจจากช่วงไตรมาสแรกของปี อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า “ราชาแห่งเหรียญ Altcoin” จะติดอยู่ในรูปแบบการเคลื่อนไหวที่ซ้ำๆ นั่นคือทุกครั้งที่ราคาเข้าใกล้ระดับ $2,700 มันก็มักจะถูกแรงขายผลักดันกลับลงมา แม้ว่าจะได้รับแรงหนุนจากตลาดที่ปรับตัวในแนวโน้มขาขึ้นแล้วก็ตาม
เจาะลึกสาเหตุที่ Ethereum ไม่สามารถทะลุ $2,700 ได้
บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Blockchain ชื่อดัง Glassnode ได้เปิดเผยข้อมูลการวิเคราะห์แบบ On-chain ที่น่าสนใจเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ผ่านโซเชียลมีเดีย X โดยชี้ให้เห็นว่าระดับราคาสำคัญถัดไปของ Ethereum คือ $2,800 การค้นพบนี้มาจากการศึกษาข้อมูลการกระจายต้นทุนของผู้ถือครอง ETH ในตลาด ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนจำนวนมากซื้อเหรียญไว้ในช่วงราคาใดบ้าง
เครื่องมือวิเคราะห์ที่เรียกว่า Cost Basis Distribution (CBD) จะแสดงข้อมูลในรูปแบบแผนภูมิสี โดยแกนตั้งแสดงระดับราคา และแกนนอนแสดงช่วงเวลา ทำให้เราสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนเฉลี่ยที่นักลงทุนซื้อเหรียญเอาไว้ จากข้อมูลดังกล่าวพบว่ามีนักลงทุนจำนวนมากที่ซื้อ Ethereum ไว้ในช่วงราคาประมาณ $2,800 นั่นหมายความว่าเมื่อราคาเข้าใกล้จุดนี้ นักลงทุนเหล่านั้นจะเริ่มมีกำไรหรือคุ้มทุน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือเมื่อราคา Ethereum เข้าใกล้ระดับ $2,800 (ซึ่งใกล้กับ $2,700 ที่เห็นแรงต้านในปัจจุบัน) นักลงทุนที่เคยขาดทุนจะมีแนวโน้มขายเหรียญของตนเพื่อตัดขาดทุนหรือทำกำไรเล็กน้อย การขายจำนวนมากนี้จึงกลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้ราคาไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ นี่คือเหตุผลที่อธิบายว่าทำไมราคา Ethereum จึงถูกผลักกลับลงมาเหนือระดับ $2,700 ซ้ำแล้วซ้ำอีกในช่วงที่ผ่านมา
หาก Ethereum จะสามารถทะลุผ่านอุปสรรคนี้ได้ จะต้องมีผู้ซื้อจำนวนมากพอที่จะรับแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการขายใกล้จุดคุ้มทุน แต่หากแรงขายยังคงมีมากกว่าแรงซื้อ ราคา ETH อาจจะปรับตัวลงไปหาจุดรองรับถัดไป ซึ่งนักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง Ali Martinez ได้ระบุไว้ว่าอยู่ที่ระดับ $2,380
