ราคา Ethereum (ETH) เผชิญกับการปรับฐานอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา โดยทะลุระดับแนวรับสำคัญหลายจุด นักวิเคราะห์จาก CryptoQuant ชี้ว่าเหลือเพียงแนวรับสุดท้ายเท่านั้นที่อาจช่วยพยุงราคา ETH ไว้ได้ในสภาวะตลาดขาลงนี้ แนวรับดังกล่าวคืออะไร และอยู่ที่ระดับราคาเท่าไร ข้อมูล On-Chain ล่าสุดให้คำตอบที่น่าสนใจ
ราคา ETH ทะลุทุกระดับต้นทุนสำคัญ ยกเว้นหนึ่งเดียว
ตามรายงานของนักวิเคราะห์ MAC_D จาก CryptoQuant ราคา ETH ได้ทะลุระดับ Realized Price หรือราคาต้นทุนเฉลี่ยของนักลงทุนทั้งระบบที่ประมาณ $2,250 ซึ่งเคยเป็นแนวรับสำคัญในปีที่แล้ว

นี่หมายความว่านักลงทุน Ethereum โดยเฉลี่ยทั้งระบบกำลังประสบภาวะขาดทุน สถานการณ์นี้ทำให้นักวิเคราะห์ต้องมองหาระดับแนวรับถัดไปที่อาจช่วยพยุงราคาไว้ได้
เมื่อพิจารณา Realized Price ของกลุ่มนักลงทุนแยกตามขนาดการถือครองในกระเป๋าเงิน พบว่ากลุ่มที่ถือ ETH ระหว่าง 100-1,000 เหรียญ, 1,000-10,000 เหรียญ และ 10,000-100,000 เหรียญ ล้วนอยู่ในสถานะขาดทุนแล้ว

เหลือเพียงกลุ่มเดียวที่ยังคงมีกำไรอยู่ นั่นคือกลุ่มวาฬคริปโตรายใหญ่ (Mega Whales) หรือผู้ถือ ETH มากกว่า 100,000 เหรียญ โดยมีราคาต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ $1,290 ซึ่งอาจกลายเป็นแนวรับสุดท้ายสำหรับ Ethereum
ย้อนกลับไปในตลาดขาลงปี 2022 ราคา ETH เคยพบแนวรับที่ระดับต้นทุนของกลุ่มวาฬรายใหญ่เหล่านี้ จึงมีความเป็นไปได้ว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีกครั้ง
ผลกระทบต่อตลาดและนัยสำคัญต่อนักลงทุน
ระดับ Realized Price มีความสำคัญในการวิเคราะห์ On-chain เนื่องจากเป็นตัวชี้วัดพฤติกรรมของนักลงทุน เมื่อราคาตลาดทดสอบระดับต้นทุนเฉลี่ย มักจะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่สำคัญ
หากราคาตลาดทดสอบระดับต้นทุนจากด้านบน (ปรับตัวลง) ในบรรยากาศตลาดที่ยังมีความหวัง นักลงทุนอาจมองว่าเป็น “จังหวะซื้อเพิ่ม” และเข้าซื้อสะสมเพิ่ม ส่งผลให้เกิดแรงซื้อที่ระดับนั้น
ในทางกลับกัน นักลงทุนที่อยู่ในสถานะขาดทุนและเพิ่งกลับมาเท่าทุน อาจตัดสินใจขายทิ้งเพื่อเอาทุนคืน หากไม่เชื่อมั่นว่าตลาดจะฟื้นตัวต่อไปได้
ณ เวลาที่เขียนบทความ ราคา ETH อยู่ที่ประมาณ $1,500 ลดลงกว่า 16% ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งยังอยู่เหนือระดับแนวรับสุดท้ายที่ $1,290 หากราคายังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง การทดสอบระดับแนวรับสุดท้ายนี้อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหากราคา ETH เข้าใกล้ระดับ $1,290 เพราะอาจเป็นจุดสำคัญที่จะตัดสินทิศทางของ Ethereum ในระยะถัดไป
Solaxy: ทางเลือกใหม่ในวิกฤตราคา ETH ด้วยเทคโนโลยี Layer 2 บน Solana
ในขณะที่ราคา ETH เผชิญกับความไม่แน่นอนและกำลังทดสอบแนวรับสำคัญ นักลงทุนหลายรายเริ่มมองหาทางเลือกอื่นในตลาดคริปโตที่มีศักยภาพการเติบโตสูง หนึ่งในโปรเจกต์ที่น่าจับตามองคือ Solaxy (SOLX) ซึ่งกำลังพัฒนาโซลูชัน Layer 2 สำหรับ Solana เพื่อแก้ปัญหาความแออัดของเครือข่าย
ความน่าสนใจของ Solaxy อยู่ที่โทเค็น SOLX ซึ่งออกแบบเป็นโทเค็นแบบ Multichain ทำให้สามารถใช้งานได้บนทั้ง Ethereum และ Solana เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างระบบนิเวศ DeFi ของ Ethereum ที่มีสภาพคล่องสูง กับ Solana ที่มีความเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ
นอกจากนี้ ผู้ถือ SOLX ยังสามารถนำโทเค็นไป Staking เพื่อรับผลตอบแทนรายปีที่สูงได้ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการ Passive Income ในช่วงที่ตลาดผันผวน
โปรเจกต์ได้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจาก Coinsult เรียบร้อยแล้ว และมีแผนการพัฒนาที่ชัดเจน มุ่งเน้นการสร้างระบบ Layer-2 ที่สมบูรณ์ พร้อมรองรับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) และฟีเจอร์การเชื่อมต่อหลายบล็อกเชน
ในช่วงเวลาที่ราคา ETH กำลังเผชิญความท้าทาย Solaxy จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและมองหาโอกาสใหม่ๆ ในตลาดคริปโต ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ X และ Telegram ของโปรเจกต์