นักลงทุนพันล้าน Ray Dalio เตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเผชิญวิกฤตรุนแรง ทั้งหนี้สาธารณะที่ทะลุ $37 ล้านล้าน และความเสี่ยงค่าเงินเสื่อมลงเรื่อยๆ เขาแนะนำให้จัดพอร์ตลงทุนประมาณ 15% ใน Bitcoin หรือ ทองคำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงระยะยาว
หากคุณต้องการถือ BTC อย่างมีวินัย Best Wallet (BEST) คือเครื่องมือที่น่าจับตา กระเป๋า Web3 นี้ระดมทุนจากนักลงทุนไปแล้วกว่า $14.3 ล้าน และมีฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อกลยุทธ์ระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ Dalio
ตอนนี้พรีเซลยังเปิดอยู่ โดยราคาโทเค็นประจำแพลตฟอร์มอยู่ที่ $0.025405 และจะขยับขึ้นทีละนิด นี่จึงอาจเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับการเข้าซื้อโทเค็นในราคาต่ำ
Ray Dalio ชี้ Bitcoin คือเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง หลังเคยทำนายตลาดแม่นยำหลายครั้ง
Ray Dalio อดีตผู้บริหารร่วมของ Bridgewater Associates เฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประวัติการวิเคราะห์ตลาดได้อย่างแม่นยำ เขาวางกลยุทธ์เชิงรับก่อนเกิดวิกฤตการเงินปี 2008 และเคยเตือนเรื่องวิกฤตหนี้ยูโรโซนล่วงหน้ามาแล้ว โดยเฉพาะในกรีซ อิตาลี และสเปน
นอกจากนี้ แนวคิด “การลดหนี้อย่างสมดุล” ของเขายังเป็นจุดเริ่มต้นของการถกเถียงเรื่องนโยบายรัดเข็มขัดและกระตุ้นเศรษฐกิจในยุคนั้นอีกด้วย
ในช่วงปี 2010s เขาคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะต่ำต่อเนื่องจากนโยบายของธนาคารกลาง และเตือนว่าการอัดฉีดเงินมากเกินไปจะทำให้ค่าเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาหันมาเชื่อมั่นในทองคำ และต่อมาก็เป็น Bitcoin
จนถึงตอนนี้ การพิมพ์เงินก็ยังไม่หยุด โดยปริมาณเงิน M2 ของสหรัฐฯ พุ่งเกิน $22 ล้านล้าน ขณะที่ราคาทองคำพุ่งจาก $1,096 เป็นมากกว่า $3,324 ต่อออนซ์
แต่ผลตอบแทนของทองคำก็ยังเทียบ Bitcoin ไม่ได้ ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา BTC พุ่งขึ้นกว่า 462 ล้านเปอร์เซ็นต์ จากระดับราคาตั้งต้น และนับตั้งแต่ปี 2020 ก็ยังโตอีกกว่า 16 เท่า โดยเพิ่งจะทำสถิติสูงสุดใหม่ในเดือนกรกฏาคมไปสดๆ ร้อนๆ
จึงไม่แปลกที่ Dalio จะปรับคำแนะนำให้แบ่งพอร์ตไว้สำหรับ Bitcoin ถึง 15% แม้เขายังให้ความสำคัญกับทองอยู่ก็ตาม เพราะ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงที่น่าสนใจยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกยังไร้ความแน่นอน และเม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์ที่มีจำนวนจำกัดชัดเจนอย่าง BTC
นอกจากนี้ แรงซื้อจากฝั่งสถาบันก็สนับสนุนแนวโน้มนี้ แนวโน้มราคา Bitcoin (บิทคอยน์) จึงยังไม่หยุดเพียงเท่านี้
สำหรับนักลงทุนรายย่อย คำถามคือจะเริ่มต้นและถือ Bitcoin อย่างมีวินัยตามแนวทางของ Dalio ได้อย่างไร?
คำตอบเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่า Best Wallet คือทางเลือก Bitcoin Wallet ที่ไม่ควรมองข้าม
Best Wallet กับโครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อสะสม Bitcoin และการลงทุนระยะยาว
Best Wallet กำลังกลายเป็นกระเป๋าคริปโตที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ด้วยฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ตลาดยุคนี้อย่างลงตัว
ระบบเทรดของแพลตฟอร์มเชื่อมต่อกับโปรโตคอล DeFi กว่า 330 ตัว และบริดจ์ข้ามเชนมากกว่า 30 แห่ง ทำให้ผู้ใช้งานเข้าถึงสภาพคล่องมหาศาลและได้ราคาที่เป็นมิตรจากหลายเครือข่ายในที่เดียว
ตามโรดแมปของโปรเจกต์ การถือโทเค็น BEST ยังเปิดสิทธิ์ให้เทรดได้โดยไม่ต้องเสียค่าแก๊ส ช่วยประหยัดต้นทุนทั้งสำหรับนักเทรดและสายถือยาว
การใช้งานก็ถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับมือใหม่ รองรับการแปลงเงิน fiat กว่า 100 สกุล ให้เปลี่ยนจากเงินทั่วไปมาเป็นคริปโตหรือซื้อ BTC ได้ง่ายๆ ในไม่กี่ขั้นตอน
อีกฟีเจอร์สำคัญสำหรับนักลงทุนสายสะสมคือระบบ DCA (Dollar Cost Averaging) ที่จะเปิดใช้งานในเฟส 4 ซึ่งจะช่วยตั้งค่าการซื้อ BTC แบบทยอยลงทุนเรื่อยๆ ตามช่วงเวลาที่กำหนด ลดผลกระทบจากความผันผวนของราคา
ด้วยระบบ DCA แบบอัตโนมัติ ผู้ใช้งานสามารถสะสม Bitcoin ได้อย่างมีวินัยโดยไม่ต้องเครียดกับจังหวะตลาดใดๆ
Best Wallet เสริมพลัง TradFi สู่ระบบนิเวศ Web3 อย่างลงตัว
Best Wallet ไม่ได้หยุดเพียงแค่การจัดการคริปโตเคอร์เรนซีเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาฟีเจอร์ที่นำความสามารถแบบ TradFi (Traditional Finance) มาผสานเข้าในแพลตฟอร์มกระเป๋าเงินดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญที่กำลังจะเปิดตัวคือ “Best Card” บริการบัตรเดบิตที่ให้ผู้ใช้งานสามารถใช้โทเค็นที่มีอยู่ในแอปพลิเคชันเพื่อทำธุรกรรมในชีวิตประจำวันได้
กล่าวคือ หากคุณมี satoshis สะสมไว้มากพอสำหรับซื้อกาแฟยามเช้า คุณสามารถใช้จ่ายได้ทันทีผ่าน Best Wallet ด้วยกระบวนการที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และไร้รอยต่อ
นอกจากนี้ บัตรดังกล่าวยังมอบสิทธิประโยชน์อย่าง การเงินคืนสูงสุดถึง 8% สำหรับการใช้จ่าย พร้อมกับค่าธรรมเนียมที่ต่ำ หรือเป็น 0 สำหรับผู้ถือโทเค็น BEST
ด้วยความใส่ใจในรายละเอียดและความเน้นการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ทำให้ Best Wallet เพิ่งได้รับการรับรองจาก WalletConnect ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ราบรื่นและน่าเชื่อถือกับแอปกระจายศูนย์ (dApps) กว่าพันรายการอย่างแท้จริง
โอกาสทำกำไรในโทเค็นใหม่กับฟีเจอร์ Upcoming Tokens ของ Best Wallet
นอกจากการสะสม Bitcoin อย่างมีวินัยแล้ว Best Wallet ยังตอบโจทย์นักลงทุนที่มองหาโอกาสในเหรียญที่มีความผันผวนสูงด้วย
ฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมมากคือ Upcoming Tokens ซึ่งช่วยคัดกรองโปรเจกต์ที่ทีมงานมองว่าน่าจะเติบโตสูงก่อนขึ้นเทรดในตลาดจริง
ฟีเจอร์นี้เคยช่วยเน้นเหรียญที่เติบโตแรง เช่น Wall Street Pepe (WEPE) ที่ขึ้นไป 34.7% ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และ Solaxy (SOLX) เหรียญแรกของ Solana Layer-2 ที่เพิ่มขึ้นถึง 34% ในสัปดาห์เดียวกัน เป็นต้น
ผลงานเด่นในอดีตของฟีเจอร์ Upcoming Tokens ได้แก่ Pepe Unchained (PEPU) ที่เคยทำกำไรสูงถึง 700%, Catslap (SLAP) ที่ให้ผลตอบแทนกว่า 7,000% และ BTC Bull (BTCBULL) ที่สร้างผลตอบแทน 112% ให้กับผู้ใช้งาน Best Wallet ที่ลงทุนตามโปรเจกต์เหล่านี้
สำหรับผู้ที่มองหามากกว่าแค่กลยุทธ์สะสม BTC ระยะยาว ฟีเจอร์ Upcoming Tokens เปิดโอกาสรับผลตอบแทนสูงจากโปรเจกต์ที่กำลังมาแรงในช่วงเริ่มต้นเช่นกัน แต่อย่าลืมศึกษาความเสี่ยงและลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบเสมอ
โดยรวมแล้ว Best Wallet จึงเป็นแพลตฟอร์มที่ครบเครื่อง ทั้งด้านกลยุทธ์มั่นคง มีวินัย และโอกาสรับผลตอบแทนสูง พร้อมเดินหน้าสู่การใช้งานจริงในชีวิตประจำวันผ่านฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง Best Card
วิธีรับผลตอบแทน Staking ในระบบ Best Wallet
หากคุณตื่นเต้นกับการที่ Best Wallet กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการ Bitcoin และช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ในวงการ คุณอาจต้องการก้าวไปอีกขั้นด้วยการมีส่วนร่วมในระบบนิเวศของแพลตฟอร์มนี้
ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่กล่าวมา ความต้องการโทเค็น BEST มาจากผู้ใช้งานจริงกว่า 250,000 คนต่อเดือน และจำนวนนี้ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อีกปัจจัยที่ช่วยเสริมมูลค่าของโทเค็น BEST คือการนำไปใช้ในกิจกรรม Staking โดยปัจจุบันมีการล็อกโทเคนมากกว่า 281 ล้าน BEST ในโปรโตคอล staking แบบอิสระ ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนแบบ APY ได้สูงถึง 94%
หากคุณสนใจรับส่วนแบ่งรางวัล หรืออยากถือหุ้นในหนึ่งในกระเป๋า Web3 ที่เติบโตเร็วที่สุด สามารถเข้าร่วมพรีเซลได้ที่เว็บไซต์ทางการของ Best Wallet
ซื้อโทเค็น BEST ได้ง่ายๆ ผ่านแอปด้วยบัตรธนาคาร หรือแลกเปลี่ยน ETH และ USDT ก็ได้
ติดตามข่าวสารและชุมชนได้ทั้งทางทาง X, Telegram, และ Discord
ดาวน์โหลด Best Wallet ได้แล้ววันนี้ ทั้งบน Google Play และ Apple App Store