IDO (Initial DEX Offering) คืออะไร?

Initial DEX Offering

หากต้องการค้นหาเหรียญคริปโตใหม่ๆ กระดานเทรดแบบกระจายศูนย์ (DEX) น่าจะเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดที่ช่วยคุณได้ เพราะโปรเจกต์คริปโตใหม่ๆ ส่วนใหญ่มักเลือกที่จะปล่อยโทเค็นของพวกเขาสู่สาธารณะผ่าน DEXs โดยตรง ซึ่งกระบวนการนี้เรียกกันว่า “b>Initial DEX Offering” หรือ “IDO”

ในบทความนี้ เราจะมาช่วยให้คุณเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับ IDO ตั้งแต่วิธีการทำงาน ไปจนถึง วิธีการเข้าร่วมการลงทุน

IDO คืออะไร?

IDO คือกระบวนการที่โปรเจกต์คริปโตใหม่ๆ ใช้เพื่อปล่อยเหรียญ/โทเค็นสู่สาธารณะผ่านกระดานเทรดแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Exchanges หรือ DEXs) ซึ่งคล้ายๆ กับ Initial Exchange Offering (IEO) เพียงแต่ IDO นั้นจะทำขึ้นบนกระดานเทรดแบบกระจายศูนย์ ในขณะที่ IEO จะทำขึ้นบนกระดานเทรดแบบรวมศูนย์

สำหรับการทำ IDO นั้น โปรเจกต์ของโทเค็นจะทำงานร่วมกับกระดานเทรดเพื่อกำหนดวันและเวลาที่จะลิสต์รายการโทเค็นใหม่ เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ผู้ใช้งาน DEX ก็จะสามารถซื้อโทเค็นใหม่ดังกล่าวได้ในราคาที่กำหนดไว้จนกว่าจำนวนโทเค็นที่ถูกจัดสรรไว้สำหรับ IDO จะขายหมด

ตัวอย่างของ DEX ที่มักจะมีการเปิดรอบ IDO ได้แก่ Uniswap, Sushiswap และ Pancakeswap ซึ่งโปรเจกต์คริปโตใหม่ๆ มักจะเลือกจัดบน DEX ใหญ่ๆ เหล่านี้ เนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้งานที่สูง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็สามารถจัดมันบน DEX ที่มีขนาดเล็กกว่านี้ได้เช่นกัน

สำหรับนักลงทุน IDO ถือเป็นโอกาสในการเข้าร่วมโปรเจกต์คริปโตหน้าใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น และยังสามารถซื้อโทเค็นได้ในราคาที่กำหนดก่อนที่จะเริ่มซื้อขายจริง สำหรับโปรเจกต์คริปโตแล้ว IDO ถือเป็นโอกาสในการขายโทเค็นเพื่อแลกกับเหรียญคริปโตหลักหรือสกุลเงินเฟียตอื่นๆ เพื่อระดมทุนและนำไปใช้ในการพัฒนาโปรเจกต์ ผู้ให้บริการ IDO ก็จะได้รับประโยชน์จาก IDO ในเรื่องของปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นและรายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายโทเค็นดังกล่าว

IDO ทำงานอย่างไร?

เพื่อทำ IDO ในขั้นแรกนั้น โปรเจกต์จะต้องติดต่อ DEX เพื่อขอให้ลิสต์เหรียญบนกระดานเทรดเพื่อเปิดการซื้อขาย DEX บางแห่งจะอนุญาตให้ทุกๆ โปรเจกต์สามารถจัด IDO บนกระดานเทรดของพวกเขาได้โดยไม่ต้องตรวจสอบ บาง DEX ก็จะเปิดให้ชุมชนผู้ถือโทเค็นของ DEX ได้โหวตว่าจะอนุญาตให้ลิสต์โทเค็นของโปรเจกต์นั้นๆ ได้หรือไม่

IDO ทำงานอย่างไร

เมื่อได้รับอนุญาตให้ทำ IDO ได้แล้ว โปรเจกต์ต้องสร้าง Smart Contract เพื่อตั้งค่าการขายเหรียญ สัญญานี้จะกำหนดราคาขายและจำนวนเหรียญที่จะขายเอาไว้ เมื่อนักลงทุนทำการซื้อในช่วง IDO ระบบจะจ่ายเหรียญจาก Liquidity Pool (พูลสภาพคล่อง) ให้โดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้

ในการซื้อโทเค็นผ่าน IDO นักลงทุนมักต้องลงทะเบียนล่วงหน้าเสียก่อน เช่น ต้องติดตามโซเชียลมีเดียของโปรเจกต์เพื่อเข้าไปอยู่ใน Whitelist ของรอบ IDO ถึงแม้ว่าตอนเปิดขายจริง ใครจะสามารถซื้อก็ได้ แต่การลงทะเบียนล่วงหน้าจะช่วยป้องกันการแย่งกันซื้ออย่างไม่เป็นระบบระเบียบ

หลังจาก IDO เสร็จสิ้น ผู้ที่ซื้อโทเค็นไว้ในช่วง IDO จะสามารถนำไปขายต่อได้ทันทีบนตลาดที่จัด IDO หรือบน DEX อื่นๆ อย่างไรก็ตาม บางโปรเจกต์อาจจะมีช่วงที่ “ล็อค” โทเค็นไว้ ห้ามไม่ให้ขายต่อ เป็นเวลาหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ เพื่อป้องกันการเทขายซึ่งจะทำให้ราคาลดลงได้เป็นอย่างมาก

IDOs เทียบกับ ICOs

IDO และ ICO (Initial Coin Offerings) มักจะถูกใช้ควบคู่กันไป สำหรับ ICO โปรเจกต์จะเปิดขายโทเค็นใหม่ให้กับนักลงทุนผ่านกลไกต่างๆ เช่น เปิดขายโดยตรงแบบสาธารณะผ่านรอบพรีเซลบนหน้าเว็บไซต์ แทนที่จะขายผ่านกระดานเทรด

ICO มีข้อดีคือโปรเจกต์จะมีอิสระในการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ เองได้ เพราะไม่ต้องพึ่งพากระดานเทรด ทำให้สามารถตั้งราคาขายได้ถูกมากกว่า ทำให้จูงใจนักลงทุนได้ง่ายกว่า โปรเจกต์หลายๆ แห่งมักจะทำ ICO ก่อน แล้วค่อยทำ IDO ทีหลัง โดยที่ราคาในช่วง IDO มักจะแพงกว่า ทำให้คนที่ซื้อก่อนในช่วง ICO สามารถขายทำกำไรได้

IDOs เทียบกับ IEOs

IEO (Initial Exchange Offerings) จะคล้ายกับ IDO เพียงแต่จะเป็นการเปิดให้ซื้อขายผ่านกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ (CEX) แทนที่จะเป็นกระดานเทรดแบบกระจายศูนย์ (DEX)

กระดานเทรดแบบรวมศูนย์มักจะทำการตรวจสอบโปรเจกต์อย่างละเอียดก่อนอนุญาตให้ทำ IEO ได้ ต่างจาก IDO ที่ DEX ส่วนใหญ่ไม่ได้มีการตรวจสอบมากนัก การตรวจสอบดังกล่าวไม่ได้เป็นการการันตีว่าราคาโทเค็นจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ช่วยลดโอกาสที่จะเจอโปรเจกต์หลอกลวงได้

อย่างไรก็ตาม IEO มีข้อจำกัดที่มากกว่า IDO อยู่หลายอย่าง เช่น ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมการ IEO จะต้องสมัครเป็นสมาชิกของกระดานเทรดนั้นๆ หรือมีโทเค็นของกระดานเทรดนั้นๆ ก่อน ในขณะที่ IDO นั้นเปิดกว้างกว่า ใครที่มีกระเป๋าเงินคริปโตก็สามารถเชื่อมต่อกับ DEX และเข้าร่วมรอบ ISO ได้ (ถึงแม้ว่า IDO บางแห่งจะต้องมี Whitelisting ก็ตาม)

นอกจากนี้ IEO บางแห่งยังถูกจำกัดด้วยภูมิศาสตร์ เนื่องจากกระดานเทรดคริปโตหลายแห่งไม่รับลูกค้าจากบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่า โทเค็นหรือเหรียญคริปโตเป็นหลักทรัพย์ภายใต้กฎหมายสหรัฐฯ หรือไม่ ในขณะที่ IDO นักลงทุนจะสามารถเข้าร่วมได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

อีกทั้ง IEO ยังมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่า IDO มาก เพราะ CEX มักจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมในการลิสต์และเปอร์เซ็นต์จากยอดขายของโทเค็นทั้งหมด ในขณะที่ DEX ก็จะมีการเรียกเก็บเช่นกัน แต่ในอัตราที่น้อยกว่า เพราะส่วยใหญ่จะเน้นสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ IDO สร้างขึ้น

ทำไมผู้คนถึงลงทุนในช่วง Initial DEX Offerings

มีอยู่หลายเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนสนใจลงทุนในช่วง IDO

1. โอกาสทำกำไรจากราคา2. ความปลอดภัยของนักลงทุน3. การเข้าถึงโทเค็นใหม่ๆ

โอกาสทำกำไรจากราคา

เหตุผลหลักที่ IDO ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนคริปโตคือ มันเป็นโอกาสที่จะได้ซื้อโทเค็นของโปรเจกต์ใหม่ๆ ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น ซึ่งนักลงทุน IDO ส่วนใหญ่หวังว่าราคาของโทเค็นจะสูงขึ้นเมื่อเริ่มมีการซื้อขายแบบเปิดบน DEX

โอกาสทำกำไรจากราคา

ยกตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม DAO Maker launchpad เคยให้ผลตอบแทนสูงถึง 3,200% ในช่วงตลาดขาขึ้น แม้ปัจจุบันผลตอบแทนเฉลี่ยในปัจจุบันจะติดลบ 1% แต่นักลงทุนหลายคนเชื่อว่า IDO จะกลับมาทำกำไรได้มหาศาลอีกครั้ง

ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่ซื้อโทเค็นจาก IDO สามารถขายได้ทันทีที่ต้องการ เพราะหลัง IDO จบลง โทเค็นจะสามารถนำไปซื้อขายได้บน DEX ไหนก็ได้

นอกจากนี้ โทเค็น IDO บางตัวยังมีรางวัลพิเศษให้สำหรับการล็อคเหรียญไว้ (Staking) โดยในช่วงแรกๆ ของโปรเจกต์มักจะให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งหมายความว่า นักลงทุนที่ซื้อตั้งแต่ IDO จึงมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

โทเคน IDO บางตัวยังให้รางวัลการวางเดิมพัน อัตราการวางเดิมพันอาจสูงขึ้นในช่วงแรกของโครงการ ซึ่งหมายความว่านักลงทุนที่เข้าร่วมระหว่าง IDO สามารถล็อคผลตอบแทนที่ดีกว่าได้

ความปลอดภัยของนักลงทุน

ข้อดีหนึ่งของ IDO เมื่อเทียบกับ ICO ก็คือ สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่ควบคุมการซื้อขายจะถูกดูแลและจัดการร่วมกันระหว่างทีมงานของโปรเจกต์และ DEX ทำให้นักลงทุนมั่นใจในความปลอดภัยและเงื่อนไขการขายได้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม IDO จะไม่ได้มีการตรวจสอบโปรเจกต์ละเอียดเท่า IEO ดังนั้น จึงยังมีความเสี่ยงที่อาจจะเจอโปรเจกต์หลอกลวงหรือทำการ rug pull ได้ แต่การที่ผ่าน DEX ใหญ่ๆ ก็ช่วยการันตีความปลอดภัยให้กับนักลงทุนได้ในระดับหนึ่ง

การเข้าถึงโทเค็นใหม่ๆ

ข้อดีอีกอย่างของ IDO ก็คือ ขั้นตอนในการลงทุนโทเค็นคริปโตใหม่นั้นไม่ซับซ้อน

สำหรับ IDO ส่วนใหญ่แล้ว แค่เชื่อมต่อกระเป๋าเงินคริปโตกับ DEX ที่จัด IDO ก็สามารถเข้าร่วมและซื้อได้เลย บาง IDO อาจจะต้องมีการลงทะเบียนล่วงหน้า แต่ก็มักจะทำได้ง่ายๆ เช่น เพียงแค่กดติดตาม Twitter ของโปรเจกต์เท่านั้น

ต่างจากกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ DEX นั้นจะเปิดรับลูกค้าจากทั่วโลกและไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมและซื้อในช่วง IDO ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกของกระดานเทรดแต่อย่างใดž

ทำไมการลงทุนใน ICO อาจดีกว่า IDO

แม้ IDO จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่นักลงทุนคริปโตส่วนใหญ่มักจะชอบ ICO มากกว่า ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

ประการแรก นักลงทุนจำนวนมากมองว่า ICO มีความยุติธรรมมากกว่า IDO เพื่อการเปิดขายล่วงหน้าในช่วงพรีเซลจะเปิดให้ทุกคนเข้าร่วมได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า แค่มีกระเป๋าเงินคริปโตก็ซื้อได้ทันที

การขายแบบพรีเซลมักจะใช้เวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์ ทำให้นักลงทุนไม่ต้องรีบแย่งกันซื้อในเวลาเดียวกัน ซึ่งยุติธรรมกว่าสำหรับคนที่อยู่คนละเขตเวลา ที่อาจจะต้องตื่นมาซื้อ IDO ในช่วงกลางดึก

ข้อดีอีกอย่างก็คือ ICO มีต้นทุนต่ำกว่าสำหรับโปรเจกต์ เพราะไม่ต้องจ่ายค่าลิสต์โทเค็นเข้าสู่กระดานเทรด ทำให้โปรเจกต์สามารถตั้งราคาขายถูกกว่าได้แต่ยังระดมทุนได้เท่าเดิม และสำหรับนักลงทุน การซื้อโทเค็นในราคาที่ถูกกว่าก็จะหมายถึงโอกาสทำกำไรที่มากกว่าเมื่อราคาขึ้นไปถึงระดับเดียวกัน

ที่สำคัญ หลายโปรเจกต์มักจะทำ ICO ก่อนที่จะเริ่มทำ IDO ทีหลัง นั่นหมายความว่า นักลงทุนที่ซื้อในช่วง ICO จะได้ราคาที่ถูกกว่านักลงทุนที่ซื้อในช่วง IDO พอถึงช่วง IDO คนที่ถือเหรียญจาก ICO ก็สามารถเลือกได้ว่าจะขายทำกำไรทันทีหรือถือต่อเพื่อลุ้นกำไรที่มากขึ้น สุดท้าย การลงทุนใน ICO ยังช่วยให้นักลงทุนได้กำไรจากเทรนด์ต่างๆ เช่น ICO บนเครือข่าย Solana, ICO เกมคริปโต หรือ ICO บน Ethereum เป็นต้น

วิธีค้นหา IDO

การลงทุนใน IDO จะต้องใช้เวลาในการค้นหาและศึกษาข้อมูลของโปรเจกต์ที่น่าสนใจ แม้จะมีโปรเจกต์ใหม่ๆ เปิดตัวทุกวัน แต่นักลงทุนต้องรู้ว่าจะหาข้อมูลได้จากที่ไหนเพื่อที่จะได้รับ Whitelist และได้โอกาสในการลงทุนตอนเปิดตัวได้

เราจะมาแนะนำวิธีที่นักลงทุนสามารถค้นหา IDO ที่น่าสนใจกัน

ค้นหาโดยใช้เว็บไซต์ ICOBench

ICOBench เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้นักลงสามารถทุนค้นหา IDO ได้ง่าย โดยจะมีปฏิทินแสดงการลิสต์โทเค็นใหม่ที่กำลังจะเข้าตลาด DEX ทั้งในแบบ IDO และแบบพรีเซล นักลงทุนยังสามารถตรวจสอบได้ว่าโทเค็นจะเปิดขายที่ DEX ไหน และมีเงื่อนไขการลงทะเบียนล่วงหน้าอย่างไร

นอกจากนี้ ICOBench ยังมีการให้คะแนนและรีวิวสำหรับแต่ละ IDO เพื่อช่วยให้สามารถระบุโทเค็นที่มีศักยภาพและน่าลงทุนตั้งแต่เปิดตัวได้

แพลตฟอร์มของเรายังมีเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลสำคัญๆ ของแต่ละโปรเจกต์ได้ เช่น ทีมผู้พัฒนา การกระจายเหรียญ และอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนเลือกโปรเจกต์ที่ดีที่สุดได้ แม้ว่าตลาด DEX จะไม่ได้ให้ข้อมูลพวกนี้เลยก็ตาม

ติดตามโซเชียลมีเดีย

โซเชียลมีเดียเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ยอดเยี่ยมในการค้นหา IDO ใหม่ๆ โปรเจกต์ส่วนใหญ่จะประชาสัมพันธ์โปรเจกต์ผ่าน X (อดีต Twitter) และบางโปรเจกต์ก็อาจจะใช้ Reddit และ Instagram ควบคู่ไปด้วย เมื่อเจอโปรเจกต์ที่น่าสนใจ นักลงทุนสามารถควรเข้าร่วมกลุ่ม Telegram หรือ Discord เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุดของพวกเขาได้

การติดตามโซเชียลมีเดียมีประโยชน์มากสำหรับการรับสิทธิ์ในการเข้าร่วม IDO เพราะหลายๆ โปรเจกต์มักจะให้ Whitelist เฉพาะคนที่ติดตามหรือแชร์โพสต์ของพวกเขา

นักลงทุนยังสามารถติดตามกองทุนที่เน้นการลงทุนใน IDO ได้อีกด้วย กองทุนพวกนี้มักจะพูดถึงโปรเจกต์ที่พวกเขาลงทุน เพราะต้องการให้คนอื่นมาสนับสนุนโทเค็นใหม่เช่นกัน

ติดตาม Launchpad ของตลาด DEX

แพลตฟอร์ม Launchpad ของ DEX เช่น Uniswap, DAO Maker และ Pancakeswap มักจะช่วยในการประชาสัมพันธ์รอบ IDO ที่จัดขึ้น ดังนั้น การติดตามโซเชียลมีเดียของ DEX เหล่านี้จะช่วยให้ไม่พลาด IDO ใหม่ๆ ที่กำลังจะมาถึงได้ นอกจากนี้ หลายๆ DEX ยังมีปฏิทินและหน้าประกาศบนเว็บไซต์อีกด้วย

ติดตาม Launchpad ของตลาด DEX

อย่างไรก็ตาม ควรระวังการโฆษณาชวนเชื่อเมื่อติดตาม DEX โดยตรง เพราะ แพลตฟอร์มเหล่านี้ต้องการให้มีคนมาซื้อขายเยอะๆ ไม่ว่าโปรเจกต์นั้นจะมีศักยภาพจริงหรือไม่ก็ตาม

วิธีเลือก IDO ที่มีศักยภาพสูงและหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวง

เมื่อนักลงทุนพบ IDO ที่น่าสนใจ สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องตรวจสอบข้อมูลของโปรเจกต์ให้ละเอียดเพื่อที่จะสามารถเลือกโปรเจกต์ที่ดีและหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงได้ และนี่คือเคล็ดลับในการเลือก IDO ที่น่าลงทุนมากที่สุด

อ่านไวท์เปเปอร์ให้ละเอียด

สิ่งแรกที่นักลงทุนควรทำก่อนลงทุนใน IDO ก็คือ การอ่านไวท์เปเปอร์ของโปรเจกต์ให้ละเอียด ทุกโปรเจกต์ควรที่จะมีไวท์เปเปอร์ที่เขียนมาเป็นอย่างดีก่อนที่จะลิสต์เข้าสู่กระดานเทรด

ไวท์เปเปอร์จะบอกทุกอย่างที่นักลงทุนควรรู้ ซึ่งรวมไปถึง:

  • โปรเจกต์ถูกสร้างมาเพื่อแก้ปัญหาอะไรและจะแก้ไขได้อย่างไร
  • โทเค็นของโปรเจกต์ใช้ทำอะไรได้บ้าง
  • รายละเอียดโทเค็นโนมิคส์ของโปรเจกต์
  • แผนการพัฒนาในอนาคต
  • เปรียบเทียบกับโปรเจกต์อื่นๆ ที่มีอยู่แล้ว

ไวท์เปเปอร์ควรที่จะอธิบายรายละเอียดให้ได้มากที่สุด ทั้งวิธีการทำงานของโทเค็นและสิ่งที่ผู้ถือโทเค็นจะได้รับ และจะต้องมีความชัดเจนว่าถ้าโปรเจกต์ประสบความสำเร็จ ราคาโทเค็นจะเพิ่มขึ้นหรือผู้ถือจะได้ผลตอบแทนอย่างไร

ถ้าโปรเจกต์ไม่มีไวท์เปเปอร์ หรือมีแต่เขียนได้อย่างคลุมเครือ ให้ถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย เพราะโปรเจกต์มักจะเขียนไวท์เปเปอร์สั้นๆ ให้รายละเอียดเล็กน้อย โดยหวังว่านักลงทุนจะไม่ตรวจสอบให้ละเอียด

ดูว่ามีการตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะหรือไม่

โปรเจกต์ที่น่าเชื่อถือมักจะส่งโค้ดให้กับบริษัทภายนอกอย่าง Certik หรือ Coinsult เพื่อทำการตรวจสอบก่อนเปิดตัว

บริษัทเหล่านี้จะตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ของโปรเจกต์ว่าปลอดภัยและทำตามที่ระบุในไวท์เปเปอร์จริงหรือไม่ เช่น ตรวจสอบว่าจำนวนโทเค็นทั้งหมดถูกจำกัดไว้ตามที่บอกจริงๆ

โปรเจกต์ที่ดีมักจะเปิดเผยผลการตรวจสอบให้นักลงทุนสามาถตรวจสอบได้ก่อนที่รอบ IDO จะเริ่มขึ้น

รู้จักทีมผู้พัฒนา

ในโปรเจกต์คริปโตใดๆ นักลงทุนมักจะต้องให้ความไว้วางใจว่าทีมผู้พัฒนาจะทำได้ตามแผนงานที่วางเอาไว้ ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะต้องรู้ว่าทีมผู้พัฒนาเป็นใคร และมีประสบการณ์อะไรมาบ้าง

ในปัจจุบัน หลายโปรเจกต์ก็มักจะเปิดเผยตัวตนของทีมผู้พัฒนา ซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถตรวจสอบได้ว่าพวกเขาเคยทำโปรเจกต์คริปโตอะไรมาก่อน

อย่างไรก็ตาม บางประเภทของคริปโต เช่น เหรียญมีม ทีมผู้พัฒนามักจะไม่มีการเปิดเผยตัวตน ซึ่งเป็นเรื่องปกติในวงการนี้

วิธีเข้าร่วม IDO

การเข้าร่วม IDO มีขั้นตอนคล้ายๆ กันไม่ว่าจะซื้อบน DEX ไหนก็ตาม ดังนั้น เรามาดูขั้นตอนพื้นฐานในการเข้าร่วม IDO กัน

ขั้นตอนที่ 1: สร้างกระเป๋าเงินคริปโต

ก่อนอื่น นักลงทุนจะต้องมีกระเป๋าเงินคริปโตเพื่อเชื่อมต่อกับ DEX เสียก่อน มีกระเป๋าเงินคริปโตให้เลือกใช้ฟรีอยู่มากมาย เช่น MetaMask เป็นต้น

สร้างกระเป๋าเงินคริปโต

สิ่งสำคัญก็คือนักลงทุนจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระเป๋าเงินที่เลือกเข้ากันได้กับโทเค็นที่ต้องการซื้อ เช่น ถ้าจะซื้อโทเค็น ERC-20 ก็ต้องใช้กระเป๋าเงินที่รองรับมาตรฐาน ERC-20

ขั้นตอนที่ 2: เติมคริปโตเข้ากระเป๋า

การซื้อโทเค็นในช่วง IDO จพเป็นจะต้องมีคริปโตที่ DEX ส่วนใหญ่รองรับติดกระเป๋าเงินเอาไว้ เช่น Ethereum, Tether และเหรียญคริปโตอื่นๆ อีกมากมาย แต่นักลงทุนควรจะตรวจสอบก่อนว่าตลาดนั้นๆ รองรับเหรียญอะไรบ้าง

เราสามารถโอนโทเค็นจากกระเป๋าเงินอื่นๆ เข้ามายังกระเป๋าเงินที่เราจะใช้งานได้ หรือจะซื้อเหรียญจากกระดานเทรดแบบรวมศูนย์แล้วโอนมาเข้ามาในกระเป๋าเงินของเราก็ได้

ขั้นตอนที่ 3: เชื่อมต่อกับ DEX

เชื่อมต่อกับ DEX

ก่อนถึงเวลาเปิดขาย ให้นักลงทุนเข้าไปที่ DEX ที่จัด IDO แล้วเชื่อมต่อกระเป๋าเงินคริปโตของเรา แค่กดปุ่ม ‘เชื่อมต่อ’ แล้วทำตามขั้นตอนที่ตลาดแนะนำให้เสร็จสิ้น

ขั้นตอนที่ 4: ซื้อเหรียญ

เมื่อถึงเวลาเปิดขาย ให้ใส่ที่อยู่สัญญาอัจฉริยะของ IDO เข้าไป ระบบจะแสดงข้อมูล IDO พร้อมราคาโทเค็นใหม่ที่คุณต้องการจะซื้อ

จากนั้น ใส่จำนวนโทเค็นที่ต้องการซื้อในราคา IDO แล้วกดยืนยันการซื้อให้เสร็จเรียบร้อย โทเค็นก็จะถูกโอนเข้ากระเป๋าเงินของเราโดยอัตโนมัติ

ลิงก์อ้างอิง

คำถามที่พบบ่อย

IDO คืออะไร?

ตัวอย่างของ IDO?

ความแตกต่างระหว่าง ICO และ IDO คืออะไร?

เราจะเข้าร่วม IDO ได้อย่างไร?