10 เหรียญ AI ที่น่าซื้อในเดือน พฤษภาคม 2025

รายชื่อเหรียญ AI ที่ดีที่สุดที่ควรซื้อ

1. Mind of Pepe (MIND): Mind of Pepe เป็นเหรียญ AI ที่ผสานความสนุกของเหรียญมีมเข้ากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง ซึ่งสามารถวิเคราะห์ตลาดแบบเรียลไทม์และค้นหาโอกาสการลงทุนก่อนที่จะกลายเป็นกระแสหลัก
2. SUBBD (SUBBD): SUBBD เป็นเหรียญ AI ที่มุ่งปฏิวัติอุตสาหกรรมคอนเทนต์ครีเอเตอร์ โดยรวมเครื่องมือ AI ขั้นสูงเข้ากับบล็อกเชนเพื่อให้ครีเอเตอร์สามารถผลิตคอนเทนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. Protocol AI (PROAI): ทำให้การพัฒนา Protocol และ DApp ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย AI Agents
4. NEAR Protocol (NEAR): NEAR Protocol เป็นเหรียญ AI ที่มอบแพลตฟอร์มที่ปรับขนาดได้และใช้งานง่ายสำหรับนักพัฒนาในการสร้างแอปกระจายศูนย์ ใช้อัลกอริทึม AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าธรรมเนียมธุรกรรม และปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้งาน
5. Bittensor (TAO): Bittensor เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเรียนรู้ของเครื่องแบบกระจายศูนย์ ซึ่งสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยใช้ประโยชน์จากระบบบันทึกข้อมูลแบบกระจายอำนาจ
6. Render (RNDR): Render เป็นเครือข่ายเรนเดอร์ GPU บน Ethereum ที่ให้พลังแก่แอป AI โดยเปิดให้เช่าทรัพยากรประมวลผลที่จำเป็นในการสร้างแอปพลิเคชัน
7. Fetch.ai (FET): Fetch.ai เป็นเหรียญ AI ที่มุ่งสร้างระบบดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ โดยผสานเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิ่งเข้ากับบล็อกเชน เพื่อสร้างตัวแทนอัตโนมัติที่สามารถทำงานซับซ้อนได้ด้วยตัวเอง
8. The Graph (GRT): The Graph เป็นเหรียญ AI ที่เน้นการทำดัชนีและค้นหาข้อมูลจากบล็อกเชน ช่วยให้นักพัฒนาเข้าถึงข้อมูลบล็อกเชนได้ง่าย ทำให้สร้างแอปกระจายศูนย์ (dApps) ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
9. VeChain (VET): VeChain เป็นเหรียญ AI ที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการซัพพลายเชนและการตรวจสอบย้อนกลับ โดยผสานรวมเทคโนโลยีบล็อกเชนกับ AI เพื่อเพิ่มความโปร่งใส ลดการปลอมแปลง และปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมในซัพพลายเชน
10. Theta Network (THETA): Theta เป็นเครือข่ายบล็อกเชน layer 1 ที่ใช้หลักๆ สำหรับแอป AI และความบันเทิง โดยมีโทเค็น THETA ใช้สำหรับการ Staking และการลงคะแนนเสียงในระบบ

ข้อมูลเชิงลึกของตลาดเหรียญ AI

อุตสาหกรรม AI มีการเติบโต อย่างมหาศาล ในปี 2025 จนถึงขณะนี้ เนื่องจากความสนใจในปัญญาประดิษฐ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นข่าวดีสำหรับโครงการเหรียญ AI ซึ่งได้รับประโยชน์จากแนวโน้มนี้และเห็นกำไรอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ในบรรดาโครงการที่มีผลงานโดดเด่นที่สุด ได้แก่ NEAR Protocol, Bittensor และ Render  โดยโครงการเหรียญ AI เหล่านี้มุ่งปฏิวัติวงการและมีแนวโน้มจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของเทคโนโลยีบล็อกเชน

รายงานล่าสุดจาก The Block แสดงให้เห็นว่าเหรียญ AI สามารถทำผลงานได้ดีกว่าตลาดคริปโตโดยรวม สาเหตุหนึ่งคือโทเค็น AI มีประโยชน์ใช้งานจริงที่เข้มแข็งกว่าเมื่อเทียบกับเหรียญคริปโตประเภทอื่น มูลค่าตลาดปัจจุบันของโทเค็น AI คือ 1.98 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในตลาด

1. Mind of Pepe – AI Agent อัจฉริยะที่ปฏิวัติวงการคริปโตด้วยการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์

Mind of Pepe ($MIND) คือโครงการคริปโตที่ผสมผสานเหรียญมีมเข้ากับเทคโนโลยี AI ขั้นสูง โดยระบบปัญญาประดิษฐ์นี้สามารถเรียนรู้และปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดการธุรกรรมบนบล็อกเชนโดยอัตโนมัติ

จุดเด่นของเหรียญ AI นี้คือการมีระบบวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะที่ติดตามข้อมูลจาก Twitter เพื่อค้นหาโอกาสการลงทุนก่อนกลายเป็นกระแสหลัก โดยข้อมูลเชิงลึกจะถูกส่งตรงถึงผู้ถือเหรียญผ่านแดชบอร์ดเฉพาะ พร้อมระบบ Staking ที่ให้ผลตอบแทนสูงสำหรับผู้เข้าร่วมในช่วงพรีเซล

แนวโน้มการเติบโตของ Mind of Pepe ในฐานะเหรียญ AI มาจากการที่ AI ตัวนี้ได้รับการฝึกด้วยทวีตเกี่ยวกับคริปโตกว่า 60,000 ทวีต และข้อมูลที่คัดสรรด้วยมือ 3,000 รายการ ทำให้เข้าใจจิตวิทยาของนักเทรดและการไหลของกระแสอย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ยังสามารถสร้างโทเคนใหม่บนบล็อกเชนได้เอง

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mind of Pepe ได้ที่บัญชี X (Twitter) และกลุ่ม Telegram อย่างเป็นทางการของโครงการ เพื่อรับข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดก่อนใคร

2. SUBBD – แพลตฟอร์มครีเอเตอร์แห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI และบล็อกเชน

SUBBD ($SUBBD) เป็นแพลตฟอร์มบนเครือข่าย Ethereum ที่พัฒนาระบบนิเวศสำหรับครีเอเตอร์เพื่อปฏิวัติตลาดคอนเทนต์แบบสมัครสมาชิกมูลค่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยกำลังจะเปิดตัวในเดือนเมษายน 2025

โทเค็น SUBBD มอบเครื่องมือ AI ที่ครบวงจรสำหรับครีเอเตอร์ ทั้งผู้ช่วย AI ส่วนตัว, เครื่องมือสร้างรูปภาพและวิดีโอ, ไลฟ์สตรีม AI และการสร้างเสียงแบบกำหนดเอง ผู้ถือโทเค็นจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงคอนเทนต์พิเศษ สิทธิ์ในการกำกับดูแล และผลตอบแทนจากการ Staking 20% APY

แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI นี้ได้รับการสนับสนุนจากครีเอเตอร์กว่า 2,000 คนที่มีผู้ติดตามรวมกันมากกว่า 250 ล้านคน โดยสามารถแก้ปัญหาหลักของอุตสาหกรรมที่ครีเอเตอร์มักสูญเสียรายได้ถึง 70% ให้กับแพลตฟอร์มแบบดั้งเดิม ขณะนี้โครงการระดมทุนไปแล้วกว่า 110,000 ดอลลาร์

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ SUBBD ได้ผ่านเว็บไซต์ทางการ, X, Telegram และ Instagram เพื่อติดตามความคืบหน้าและโอกาสในการเข้าร่วมระบบนิเวศครีเอเตอร์ที่กำลังเติบโต

3. Fantasy Pepe – ทำนายผลฟุตบอลแฟนตาซีด้วยพลังของ AI

Fantasy Pepe เป็นแพลตฟอร์มที่นำเทคโนโลยี AI มาผสานเข้ากับการแข่งขันฟุตบอลเสมือนจริง โดยในแมตช์การแข่งขัน ทีมฟุตบอลที่เป็นมส์จะขับเคลื่อนด้วย AI ในขณะเดียวกัน AI อีกตัวหนึ่งจะรับหน้าที่เป็นผู้ตัดสินของแมตช์ ผู้เล่นสามารถทำนายผลการแข่งขันได้ตลอดช่วงเวลา หากการทำนายของคุณถูกต้อง คุณจะได้รับรางวัล ตัวเลือกที่สามารถทำนายได้ เช่น ทีมที่จะชนะ และจำนวนประตูที่จะเกิดขึ้นในแมตช์นั้น

การทำนายผลการแข่งขันใน Fantasy Pepe จะต้องใช้โทเค็น $FEPE ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของระบบนิเวศของแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นการรับรางวัลจากสเตกพูลหรือรางวัลจากการทำนายผล โดยโทเค็น $FEPE มีจำนวนจำกัดทั้งหมด 125 พันล้านโทเค็น แต่ 20% ของจำนวนนี้ถูกจัดสรรไว้สำหรับการขายล่วงหน้า (Presale) ในช่วงเวลานี้ คุณสามารถซื้อโทเค็นได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด

การขายล่วงหน้าของ $FEPE จะแบ่งออกเป็น 30 รอบ ซึ่งหลังจากสิ้นสุดการขายล่วงหน้าแล้วจะเข้าสู่กระบวนการจัดสรรโทเค็นและการลิสต์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ สำหรับผู้ที่ซื้อโทเค็นในช่วงต้นจะได้รับราคาที่ถูกที่สุด เนื่องจากราคาของ $FEPE จะเพิ่มขึ้นทุก ๆ สามวันในแต่ละรอบของการขายล่วงหน้า

Fantasy Pepe ได้จัดสรรโทเค็นจำนวนมากไว้สำหรับรางวัลการสเตกและรางวัลการทำนายผล สำหรับการสเตก คุณเพียงแค่ล็อกโทเค็นที่คุณซื้อไว้ในช่วง Presale ในสเตกพูล ซึ่งระบบจะมี APY แบบไดนามิก โดยผู้ที่เข้าร่วมสเตกตั้งแต่เนิ่น ๆ จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า

Fantasy Pepe นำเสนอทั้งความสนุกจากการแข่งขันฟุตบอลแฟนตาซีและโอกาสในการได้รับรางวัลจากการลงทุนในโทเค็น $FEPE สำหรับผู้ที่ต้องการร่วมลงทุนในโปรเจกต์เหรียญมีมที่น่าสนใจที่เต็มไปด้วยศักยภาพนี้ การเข้าร่วมในรอบพรีเซลตั้งแต่เนิ่นๆ อาจเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของคุณ!

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ FEPE ได้จากการติดตาม X, Telegram และ Instagram เพื่อติดตามความคืบหน้าและโอกาสในการเข้าร่วมระบบนิเวศครีเอเตอร์ที่กำลังเติบโต

4. Protocol AI – ทำให้การพัฒนา Protocol และ DApp ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วย AI Agents

การลงทุนใน Protocol AI คือการลงทุนในระบบที่มี AI agents คอยช่วยดูแลการพัฒนาโปรโตคอลบล็อกเชนและ DApp สิ่งที่นักพัฒนาต้องทำคือเพียงป้อนข้อความอธิบายความต้องการ และ AI จะจัดการส่วนที่เหลือให้ทั้งหมด AI agents เหล่านี้สามารถสร้างสัญญาอัจฉริยะสำหรับโปรโตคอลและ DApps ออกแบบและปรับแต่ง UI และช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพได้อย่างครบวงจร

Protocol AI ยังมีบริการเชื่อมต่อระหว่าง Web2 และ Web3 ผ่าน Integration Hub ด้วยเครื่องมือนี้ คุณสามารถซิงค์ข้อมูลระหว่าง Web2 APIs และสัญญาอัจฉริยะ Web3 เพื่อการทำงานร่วมกันที่ดีขึ้นได้

เพื่อเร่งกระบวนการพัฒนา Protocol AI มีเทมเพลตสำเร็จรูปให้ใช้งานร่วมกับ AI agents เทมเพลตเหล่านี้มีให้สำหรับ DApps สัญญาอัจฉริยะ และมินิเกม ตามความต้องการของโครงการคุณ

คุณสมบัติทั้งหมดนี้จะเข้าถึงได้เมื่อคุณมีโทเค็น Protocol AI ($PROAI) ซึ่งใช้สำหรับซื้อบริการ AI agents ใช้งานเทมเพลต และดำเนินการอื่นๆ ที่ต้องการสมาชิกภาพในระบบนิเวศ คุณจะได้รับสิทธิ์ร่วมกำกับดูแลใน DAO ด้วย นั่นคือคุณสามารถเสนอฟีเจอร์ใหม่และลงคะแนนเสียงสำหรับข้อเสนออื่นๆ เพื่อพัฒนา Protocol AI ให้ดียิ่งขึ้น

โทเค็น $PROAI มีจำหน่ายแล้วบนเว็บไซต์ presale อย่างเป็นทางการ คุณสามารถเชื่อมต่อกระเป๋าเงินและซื้อด้วย USDT, BNB หรือ ETH ได้ทันที

5. NEAR Protocol – แพลตฟอร์มบล็อกเชนที่จะใช้ AI เพื่อแก้ไขปัญหาการปรับขนาดและการใช้งาน

NEAR Protocol เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่มุ่งทำให้แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์เข้าถึงได้ง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น

NEAR Protocol ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการรองรับปริมาณงานและความซับซ้อนในการใช้งานที่บล็อกเชนอื่นๆ ประสบอยู่ โดยใช้วิธีการพิเศษที่ช่วยให้นักพัฒนา สร้างและเปิดใช้งาน DApps ได้อย่างสะดวก

NEAR Protocol มีประสิทธิภาพการทำงานสูง ทำให้ทำธุรกรรมได้รวดเร็ว จึงเหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการความเร็วในการประมวลผล

NEAR Protocol ใช้กลไกฉันทามติที่เรียกว่า “Nightshade” ซึ่งผสานความปลอดภัยของ Proof of Stake (PoS) เข้ากับความสามารถในการปรับขนาดของการ Sharding เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงยิ่งขึ้น

คุณสามารถลงทุนในแพลตฟอร์มนี้โดยซื้อโทเค็น NEAR – สกุลเงินหลักของระบบนิเวศ โทเค็น NEAR ใช้จ่ายค่าธรรมเนียมธุรกรรมและใช้เป็นหลักประกันสำหรับการจัดเก็บข้อมูล

โครงการนี้มีผู้ใช้งานมากกว่า 29 ล้านบัญชี ค่าธรรมเนียมธุรกรรมต่ำกว่า 0.01 ดอลลาร์ และแพลตฟอร์มรองรับธุรกรรมมากกว่า 181,000 รายการต่อวัน

มี DApps นับร้อยที่ทำงานบน NEAR แล้ว ซึ่งแสดงว่าความต้องการโทเค็น NEAR ยังคงแข็งแกร่ง แม้ราคาปัจจุบันจะลดลง แต่แนวโน้มโดยรวมของปีที่ผ่านมาเป็นขาขึ้น และมีแนวโน้มจะเติบโตต่อไปเมื่อเหรียญกลับมามีมูลค่าอีกครั้ง

นอกจากนี้ยังมีแหล่งเรียนรู้และคู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน NEAR Protocol คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มก่อนตัดสินใจซื้อเหรียญ NEAR

6. Bittensor – เครือข่ายปัญญาประดิษฐ์แบบกระจายศูนย์ชั้นนำ

Bittensor เป็นเครือข่ายปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบบกระจายศูนย์ที่สร้างบนเทคโนโลยีบล็อกเชน มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาแอป AI ที่ทำงานบนเครือข่ายแบบกระจายอำนาจและใช้ประโยชน์จากปัญญาร่วมของผู้ร่วมเครือข่าย

สิ่งนี้ทำได้ผ่านกลไกฉันทามติพิเศษที่เรียกว่า Proof-of-Spacetime ซึ่งจูงใจให้ผู้ใช้งานแบ่งปันทรัพยากรการคำนวณของพวกเขาให้กับเครือข่าย

ต่างจากเครือข่าย AI แบบดั้งเดิมที่พึ่งพาเซิร์ฟเวอร์แบบรวมศูนย์ Bittensor กระจายกำลังการคำนวณและการประมวลผลทั่วทั้งเครือข่าย ทำให้มีความยืดหยุ่นและปลอดภัยมากขึ้น ระบบกระจายศูนย์นี้ยัง ส่งเสริมความเป็นธรรมและการต่อต้านการเซ็นเซอร์ เพราะไม่มีองค์กรใดเพียงองค์กรเดียวที่ควบคุมเครือข่าย

เครือข่าย Bittensor ใช้โทเค็นที่เรียกว่า Bittensor Tensor (BITT) ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งโทเค็นอรรถประโยชน์และกลไกจูงใจการมีส่วนร่วม ผู้ใช้งานสามารถรับโทเค็น BITT ได้โดยการแบ่งปันทรัพยากรการคำนวณหรือโดยการฝึกและแชร์โมเดล AI ของตน

TAO ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นระหว่างเดือนมกราคม 2024 ถึงมีนาคม 2024 จนไปถึงราคาสูงสุดตลอดกาล แสดงให้เห็นถึงความต้องการโทเค็นที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากแพลตฟอร์มรองรับการสร้างสรรค์ดิจิทัลหลายรูปแบบ ทั้งพื้นที่จัดเก็บข้อมูล แมชชีนเลิร์นนิง การคาดการณ์ตลาดการเงิน พลังการประมวลผล และอื่นๆ

คุณไม่จำเป็นต้องสร้าง subnet เพื่อเข้าร่วมแพลตฟอร์ม มีโอกาสให้เป็นได้ทั้งนักขุด subnet หรือผู้ตรวจสอบ subnet ซึ่งเปิดช่องทางการเข้าร่วมหลายทาง ส่งผลให้ความต้องการโทเค็นยิ่งเพิ่มมากขึ้น

7. Render – เหรียญ AI ที่ดีที่สุดที่ใช้ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์

Render นำเสนอวิธีการใหม่ในการแก้ปัญหาของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ด้วยรูปแบบที่เรียบง่าย เชื่อมต่อผู้ให้บริการ GPU กับผู้ที่ต้องการกำลังประมวลผล สำหรับงานเรนเดอร์ของพวกเขา

อีกนัยหนึ่ง ระบบนี้สร้าง ตลาด AI แบบกระจายศูนย์ ที่ผู้สร้างสรรค์สามารถขายผลงานดิจิทัลโดยตรงให้กับผู้ซื้อโดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ช่วยให้ศิลปินมีอำนาจควบคุมผลงานมากขึ้นและได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรมจากความสามารถและความพยายามของพวกเขา

เหรียญ Render มอบทางออกที่น่าสนใจให้กับศิลปินและนักสร้างสรรค์ที่ต้องเผชิญกับปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ การขาดอำนาจควบคุม และค่าตอบแทนที่ไม่เป็นธรรมมาเป็นเวลานาน

แพลตฟอร์มนี้ขับเคลื่อนโดย โทเค็นอรรถประโยชน์ RNDR – โทเค็น ERC20 ที่ใช้สำหรับการชำระเงินภายในระบบนิเวศ

มีแผนการใหม่ที่จะย้ายโทเค็น RNDR ทั้งหมดจาก Ethereum ไปยัง RENDER บน Solana ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือระหว่าง Kraken แพลตฟอร์มอื่นๆ และ Render Foundation โดยอัตราการแลกเปลี่ยนจะเป็น 1:1

เครือข่าย Render ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2017 จึงมีประวัติการใช้งานที่ยาวนานกว่าเหรียญ AI ใหม่ส่วนใหญ่ การใช้งานครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งสื่อ เทคโนโลยีเสริมความจริง เกม เทคโนโลยีผสมผสานความจริง การแพทย์ เทคโนโลยีความจริงเสมือน และอื่นๆ อีกมากมาย

8. Fetch.ai – เหรียญ AI ที่ดีที่สุดที่จะซื้อในปี 2025 สำหรับนักลงทุนระยะยาว

Fetch.ai เป็นแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ โอเพนซอร์ส ที่ ผสาน AI เข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อสร้างระบบที่ตัวแทนเศรษฐกิจอัตโนมัติสามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้ แทนที่จะพึ่งพาศูนย์กลาง Fetch.ai ช่วยให้ AI agents สามารถตัดสินใจและทำงานตามอัลกอริทึมที่กำหนดไว้และการโต้ตอบกับตัวแทนอื่นๆ ในระบบ

จุดเด่นสำคัญของ Fetch.ai คือความสามารถในการให้บริการที่เป็นส่วนตัวและมีประสิทธิภาพ ผ่าน AI agents ของมัน Fetch.ai สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อเข้าใจความชอบ ความต้องการ และพฤติกรรมของผู้ใช้ ช่วยให้สามารถนำเสนอคำแนะนำและโซลูชันที่ปรับเฉพาะบุคคล สร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและราบรื่นยิ่งขึ้น

ระบบนิเวศนี้ขับเคลื่อนโดย โทเค็นอรรถประโยชน์ FET ซึ่งใช้เข้าถึงบริการต่างๆ ในระบบ โทเค็นนี้จำเป็นสำหรับการใช้แพลตฟอร์มและเป็นพลังขับเคลื่อนสัญญาอัจฉริยะ FET มีจำหน่ายบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนชั้นนำส่วนใหญ่และถือเป็นหนึ่งในโทเค็น AI ที่น่าลงทุนที่สุดในปี 2025

Fetch.ai วางตำแหน่งตัวเองเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจการประยุกต์ใช้ AI มันเป็นพื้นฐานสำหรับการสร้าง นำไปใช้งาน และสร้างรายได้จากตลาด การผสานรวม และแอปที่ขับเคลื่อนด้วย AI จึงคาดการณ์ได้ว่าจะมีความต้องการเชิงบวกสำหรับโทเค็นดั้งเดิมของมัน

ปัจจุบัน Fetch.ai ได้ควบรวมกิจการกับ Ocean Protocol กับ SingularityNET เพื่อรวมตัวกันเป็น Artificial Superintelligence Alliance และซื้อขายอยู่ภายใต้ชื่อของ $FET ทำให้ Fetch.ai ยังคงเป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ทรงพลัง และทำให้ $FET เป็นหนึ่งในเหรียญ AI ที่น่าจับตามองที่สุดในขณะนี้

9. The Graph – แพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ที่อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลบล็อกเชน

The Graph คือโปรโตคอลแบบไม่รวมศูนย์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถ ค้นหาและจัดทำดัชนีข้อมูลจากเครือข่ายบล็อกเชน ได้ง่าย เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างข้อมูลในบล็อกเชนกับแอปพลิเคชัน ทำให้นักพัฒนาใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

The Graph มอบ การเข้าถึงข้อมูลบล็อกเชนที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ ด้วยระบบจัดทำดัชนีและค้นหาที่ทันสมัย ทำให้ข้อมูลเข้าถึงง่ายและอยู่ในรูปแบบที่นักพัฒนาใช้งานได้ทันที ส่งผลให้การสร้างแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (dApps) ที่ใช้ข้อมูลจากบล็อกเชนทำได้สะดวกยิ่งขึ้น

โทเค็นหลักของแพลตฟอร์มคือ GRT ซึ่งใช้เป็นสกุลเงินหลักในระบบและใช้ให้รางวัลแก่ผู้มีส่วนร่วม ผู้ถือโทเค็นยังสามารถร่วมตัดสินใจในการพัฒนาระบบได้

ด้วย subgraphs ที่รองรับแอปพลิเคชันมากกว่า 50 เครือข่าย จึงเห็นได้ชัดว่ามีความต้องการโทเค็น Graph อย่างมาก ทั้ง Indexers, Curators, Delegators และนักพัฒนา subgraph ร่วมมือกันสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายศูนย์ระดับโลก และยังมีพื้นที่สำหรับผู้ใช้ข้อมูลในระบบนิเวศด้วย

เครือข่ายผู้มีส่วนร่วมแบบกระจายศูนย์จัดหาข้อมูลให้ผู้ใช้และได้รับรางวัลเป็นโทเค็น GRT เนื่องจากแอป dApp ยอดนิยมหลายตัวใช้บริการของ Graph ทำให้ความต้องการโทเค็นเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน จึงถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับพอร์ตการลงทุนของคุณ หากคุณกำลังมองหาเหรียญ AI ที่มีศักยภาพในไตรมาสนี้

ช่วงเริ่มต้นจะมีโทเค็น GRT ทั้งหมด 1 หมื่นล้านโทเค็น แต่โครงการมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนโทเค็นทุกปีในอนาคต

10. VeChain – โซลูชัน AI สำหรับการจัดการซัพพลายเชน

VeChain เป็นเหรียญ AI ที่ใช้บล็อกเชนซึ่งมีเป้าหมายที่จะ ปฏิวัติการจัดการซัพพลายเชน และเพิ่มความโปร่งใสในอุตสาหกรรมต่างๆ

VeChain ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามและตรวจสอบคุณภาพของสินค้าได้ตลอดทั้งกระบวนการซัพพลายเชน

VeChain มีโทเค็นหลักอยู่ 2 ตัว ได้แก่ VeChain Token (VET) และ VeThor Token (VTHO) VET คือสกุลเงินดิจิทัลหลัก ส่วน VTHO เป็นโทเค็นที่ใช้ขับเคลื่อนเครือข่าย VeChain ผู้ที่ถือ VET จะได้รับ VTHO อัตโนมัติ ซึ่งสามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมต่างๆ ในระบบได้

ทุกการทำงานของโครงการอยู่บนบล็อกเชนที่เรียกว่า VeChainThor บล็อกเชนนี้มีจุดเด่นหลายประการ ได้แก่ การรองรับ EVM ค่าธรรมเนียมต่ำ ความเร็วในการทำธุรกรรม ระบบกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน และระบบการกระจายค่าธรรมเนียม ขณะเดียวกันก็ยังรักษาความปลอดภัย คุ้มค่า ยั่งยืน และรองรับการขยายตัวได้ดี

VET และ VTHO สามารถเก็บได้บน Ledger Live และยังสามารถซื้อด้วยเงินสกุลปกติผ่านระบบ Coinify คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับโทเค็นในวงการคริปโต ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพัฒนาหรือนักลงทุน โทเค็นเหล่านี้มีมูลค่าสูงเมื่อเทียบกับเหรียญ AI อื่นๆ

11. Theta Network – โซลูชันบล็อกเชนสำหรับการสตรีมมิ่ง

Theta Network เปิดตัวในปี 2018 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วด้วยแนวคิดที่โดดเด่นในการแก้ปัญหาวงการสตรีมมิ่งวิดีโอออนไลน์

Theta Network ได้รับการออกแบบเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญ 2 ประการ: ต้นทุนการส่งเนื้อหาที่สูงและคุณภาพการสตรีมที่ไม่ดี โดยใช้เครือข่ายโหนดแบบกระจายศูนย์ Theta ช่วยให้ผู้ใช้แบ่งปันแบนด์วิดท์ส่วนเกินและทรัพยากรคอมพิวเตอร์ของตนเอง เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานการส่งวิดีโอแบบเพียร์ทูเพียร์

เครือข่ายใช้โทเค็น THETA เพื่อ ให้รางวัลแก่ผู้ใช้งาน ที่แบ่งปันทรัพยากรให้กับเครือข่าย ผู้สร้างเนื้อหา ผู้ชม และผู้ดูแลโหนดสามารถได้รับโทเค็น THETA จากการแชร์และรับชมเนื้อหา รวมถึงการช่วยดูแลการทำงานของเครือข่าย

THETA กำลังจะเปิดตัวใน Binance Japan เร็วๆ นี้ ซึ่งจะช่วยขยายการเข้าถึงและเพิ่มโอกาสในการซื้อขาย โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทใหญ่ๆ เช่น Samsung NEXT, Sparkland, Sierra Ventures และ DHVC ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าและศักยภาพในการเติบโตของราคา

เช่นเดียวกับ Bittensor Theta เกี่ยวข้องกับการแบ่งปันพลัง CPU และ GPU แต่มุ่งเน้นไปที่งาน AI และวิดีโอโดยเฉพาะ ระบบนี้ใช้ได้กับ Windows, macOS และ Linux เพื่อให้เข้าถึงผู้สนใจคริปโตได้กว้างที่สุด

คุณสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ทางการของ Theta Network เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม และอย่าลืมติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเหรียญ AI ได้ที่ ICOBench