Bitcoin (BTC) แตะระดับเกือบ 123,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง BTC ที่ไม่เคยเปิดเผยตัวตน กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับที่ 11 ของโลกทันที
การคาดการณ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้นให้กับนักลงทุน แต่ยังชี้ให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตมหาศาลของ BTC ที่ยังคงดำเนินต่อไป
นอกจากนี้ เทคโนโลยี Layer-2 อย่าง Bitcoin Hyper ยังถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกมูลค่าและสร้างความมั่งคั่งระลอกใหม่ให้กับระบบนิเวศของเครือข่ายบิทคอยน์ในอนาคต
วิเคราะห์ราคา Bitcoin สู่ $123K: Satoshi จะรวยอันดับ 11 จริงหรือ?
การคำนวณเบื้องหลังการคาดการณ์นี้อ้างอิงจากจำนวน BTC ที่คาดว่า Satoshi Nakamoto ถือครองอยู่ ซึ่งประมาณการกันว่ามีจำนวนราว 1.1 ล้าน BTC ตอนที่ราคา BTC พุ่งขึ้นไปถึง 123,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ
อย่างไรก็ตาม หากวันนี้ใครต้องการครอบครอง BTC ในปริมาณที่เทียบเท่ากับเขา พวกเขาจะต้องมีเงินทุนมากกว่า $135 พันล้าน ซึ่งในทางปฏิบัติ คงมีเพียงไม่กี่คนในโลก เช่น Elon Musk หรือ Jeff Bezos ที่อาจจะทำได้
นักลงทุนจำนวนมากจึงมองว่า Bitcoin Hyper (HYPER) เป็นโอกาสแห่งความมั่งคั่งในระดับรุ่นต่อรุ่น เช่นเดียวกับ BTC ในยุคแรก ซึ่งยอดการระดมทุนรอบแรกทะลุ $2.8 ล้านไปแล้ว และคาดว่าจะถึงเป้าหมาย $3 ล้านในเร็วๆ นี้
โครงการนี้เป็น Layer-2 ตัวแรกที่ผสานความปลอดภัยของ BTC บนเลเยอร์หลักเข้ากับความรวดเร็วในการประมวลผลระดับเสี้ยววินาทีของ Solana
HYPER มีเป้าหมายเพื่อปลดล็อกศักยภาพด้านโปรแกรมมิ่งและประสิทธิภาพ ที่ความพยายามในการปรับปรุง BTC รุ่นก่อนหน้าอย่าง Stacks และ Rootstock ไม่สามารถบรรลุได้
เมื่อ BTC สร้างสถิติใหม่สูงสุด ความสนใจก็มุ่งสู่อนาคตข้างหน้า
ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา BTC มีราคาซื้อขายอยู่ในระดับต่ำกว่า 110,000 บาทเป็นส่วนใหญ่ แต่ในวันที่ 10 กรกฎาคม ราคาก็พุ่งทะลุสถิติเดิมที่เคยทำไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม และยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงสุดสัปดาห์ โดยแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ $122,838 ในวันจันทร์
การพุ่งขึ้นครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากความหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการสนับสนุนทางกฎหมายในสหรัฐฯ โดยเฉพาะเมื่อสภาผู้แทนราษฎรได้จัดกิจกรรม “Crypto Week” ซึ่งมีการพูดคุยเกี่ยวกับร่างกฎหมายต่าง ๆ เช่น Genius Act ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสร้างพื้นฐานทางกฎหมายที่มั่นคงยิ่งขึ้นสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล
Next week, the House will deliver on @POTUS' call to make the United States the crypto capital of the world. pic.twitter.com/T7lRm2Ux05
— Financial Services GOP (@FinancialCmte) July 10, 2025
ความมั่นใจที่พุ่งขึ้น ผสมกับ FOMO จากสถาบันและการล้าง Short มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ดันให้ BTC พุ่งทะลุแนวต้าน $118,000 และเปิดทางให้เกิดการปรับขึ้นอย่างรุนแรงทันที
เมื่อ Bitcoin ทำจุดสูงสุดใหม่ นักวิเคราะห์คาดว่าเงินทุนอาจเริ่มไหลไปยัง altcoins และต่อไปยังโปรเจกต์หน้าใหม่ที่มีศักยภาพใน Q3
หนึ่งในโปรเจกต์ที่น่าจับตาคือ HYPER ซึ่งดึงดูดนักลงทุนกลุ่มแรกได้อย่างต่อเนื่อง เพราะสร้างบนเครือข่ายบิทคอยน์ และมีเป้าหมายพลิกโฉมสินทรัพย์ดั้งเดิมให้กลายเป็นศูนย์กลางนวัตกรรม
หลายฝ่ายเชื่อว่า HYPER อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกม ที่ผลักดัน BTC จาก “Store of Value” สู่ระบบนิเวศที่ใช้งานได้จริงในโลก Web3 ด้วยฟีเจอร์โปรแกรมมิง ขยายตัวได้ และประมวลผลรวดเร็ว
HYPER เปลี่ยน BTC ให้กลายเป็นพลังที่ใช้งานได้จริง
ลองจินตนาการว่า BTC ซึ่งทำให้ Satoshi Nakamoto ถูกจัดอยู่ในกลุ่มมหาเศรษฐีระดับเดียวกับ Elon Musk และ Jeff Bezos แต่กลับถูกมองว่าเป็นเพียงสินทรัพย์ที่ใช้งานแบบคงที่เท่านั้น
หาก Bitcoin สามารถขับเคลื่อนแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (dApps) ประสิทธิภาพสูงได้ในระบบนิเวศที่รวบรวมความเร็วในการประมวลผลที่เหนือระดับและชั้นฐานที่ปลอดภัยที่สุด จะเกิดอะไรขึ้น?
HYPER ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จริง ด้วยการผสานรวม Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อการประมวลผลที่รวดเร็วแทบจะทันที พร้อมยังคงยึดโยงกับเครือข่ายผ่านสะพานแบบกระจายศูนย์ (decentralized) ที่ไม่ต้องพึ่งพาคนกลาง (non-custodial bridge)
BTC ถูกล็อกไว้ในเลเยอร์พื้นฐาน และเวอร์ชันที่ถูกห่อ (wrapped version) จะถูกสร้างขึ้นบน Bitcoin Hyper เพื่อใช้ภายในระบบนิเวศของแพลตฟอร์มนี้ เทคโนโลยี Zeroknowledge proofs และการยืนยันขั้นสุดท้าย (finality) แบบ native ของ BTC ช่วยให้การดำเนินการเป็นไปอย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องอาศัยความไว้วางใจ และยังคงรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุดไว้ได้
เมื่อผู้ใช้งานต้องการถอน BTC ก็แค่เผา wrapped token แล้วระบบจะปลดล็อก BTC ดั้งเดิมคืนกลับสู่เครือข่ายอัตโนมัติ
โครงสร้างนี้ช่วยเพิ่มการใช้งาน BTC แบบชั่วคราว พร้อมดันบทบาทของ HYPER โทเคนหลักของแพลตฟอร์ม ให้กลายเป็นผู้รับประโยชน์โดยตรงจากการเติบโตของระบบนิเวศ
HYPER: L2 ที่จะสร้างความมั่งคั่งรอบใหม่ให้ BTC?
BTC ได้พิสูจน์แล้วว่าสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเก็บมูลค่าได้อย่างมั่นคงบนบล็อกเชน แต่คำถามคือ ก้าวต่อไปจะเป็นอะไร หากมูลค่านั้นถูกนำมาใช้งานจริงได้?
นี่คือวิสัยทัศน์ของ HYPER – การปลดล็อกศักยภาพใหม่ให้ BTC เคลื่อนไหวได้เร็ว รองรับการซื้อขาย, การ stake และแอป Web3 ต่าง ๆ เปลี่ยนบทบาทจาก “store of value” สู่เลเยอร์ที่ใช้งานได้จริง
หากโปรเจกต์เปิดตัวช่วงปลายไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดคริปโตมักคึกคัก และได้รับการยอมรับในวงกว้างจริง มันอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เหมือนที่ BTC เคยปฏิวัติโลกการเงินในยุคเริ่มต้น
และถ้าเป้าหมายนี้สำเร็จ ผู้ที่เข้าร่วมตั้งแต่ต้น อาจเป็นหัวใจของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลก BTC ยุคใหม่
จะเป็นผู้ถือ HYPER ได้อย่างไร
ให้คุณเข้าไปที่เว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper โดยสามารถซื้อโทเคน $HYPER ได้ด้วย ETH, USDT, BNB, SOL หรือแม้แต่บัตรเครดิต
การเชื่อมต่อของโปรเจกต์นี้เข้ากับเครือข่าย Solana ผ่าน SVM ไม่เพียงเพิ่มความเร็วระดับสายฟ้าให้กับ BTC แต่ยังเปิดให้ SOL เป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ใช้ซื้อในพรีเซลได้ด้วย
การนำ BTC เข้าสู่ยุค Web3 ต้องอาศัยกระเป๋าที่รองรับ Web3 อย่าง Best Wallet
HYPER ถูกแสดงอยู่ในหมวด Upcoming Tokens ให้คุณติดตาม จัดการ และรับโทเคนได้สะดวก แถมยังเป็นสัญญาณว่าโปรเจกต์นี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีศักยภาพสูงโดยหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มองไกลที่สุดในวงการคริปโต
ติดตามความเคลื่อนไหวของชุมชน HYPER ได้ทาง Telegram และ X เพื่อไม่พลาดข่าวสารล่าสุด