ราคา Pi Network ยังคงเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง โดยร่วงลงกว่า 3% ในวันนี้และหลุดแนวรับระยะสั้นที่ 0.50 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลในตลาดคริปโตโดยรวม นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญได้ชี้ให้เห็นว่าความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ Stablecoin อาจเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่ส่งผลกระทบต่อความน่าสนใจของ Pi Network ในหมู่นักลงทุนและเทรดเดอร์
ความเคลื่อนไหวที่ผันผวนนี้ได้จุดประกายการถกเถียงในชุมชน Pi Network ว่าทิศทางของเหรียญจะเป็นอย่างไรต่อไป และอนาคตของ Pi Network จะสามารถแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้หรือไม่
สำหรับผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับโปรเจกต์นี้ การทำความเข้าใจพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญ โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมว่า Pi Network คืออะไรและมีหลักการทำงานอย่างไร เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
วิเคราะห์ราคา Pi Network ดิ่งลง สวนทางความคาดหวัง
ราคาของ Pi Network ปรับตัวลดลงมากกว่า 3% ในวันนี้ โดยซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 0.4908 ดอลลาร์ ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายลดลงกว่า 1% เหลือ 92.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงในระยะสั้น ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคา Pi Network มีความผันผวนระหว่าง 0.5142 ถึง 0.4834 ดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้กันระหว่างแรงซื้อและแรงขายอย่างชัดเจน
สถานการณ์ราคาที่ลดลงนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้เคยมีบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ การดิ่งลงของราคา Pi Network และสัญญาณการฟื้นตัว ที่น่าจับตามอง
นอกจากนี้ ข้อมูล Future Open Interest ของ Pi Network ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณว่านักลงทุนเริ่มลดความเสี่ยงในการถือครอง อย่างไรก็ตาม การลดลงของราคา PI ครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเทขายในตลาดคริปโตในวงกว้าง โดยมูลค่าตลาดทั่วโลกปรับตัวลดลง 0.6% ขณะที่ดัชนี Relative Strength Index (RSI) ของ Pi Network อยู่ที่ระดับ 35 ซึ่งเข้าใกล้ภาวะขายมากเกินไป (Oversold) สิ่งนี้อาจเป็นสัญญาณว่าราคา Pi Network อาจมีการฟื้นตัวในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากนักลงทุนอาจมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อที่ราคาต่ำ
ภาวะ Oversold ของสินทรัพย์มักจะช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าสู่ตลาดได้ในราคาที่ต่ำลง ดังนั้น นักลงทุนอาจเริ่มวางเดิมพันในราคาที่ต่ำลง ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาของ Pi Network ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการฟื้นตัวยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสภาวะตลาดโดยรวมและความเชื่อมั่นภายในชุมชน Pi Network เอง
การวิเคราะห์ทางเทคนิคในระยะสั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพรวม นักลงทุนหลายคนจึงมองไปข้างหน้าเพื่อประเมินศักยภาพในระยะยาว ซึ่งมีการวิเคราะห์ การคาดการณ์ราคา Pi Network ในปี 2025-2030 ไว้อย่างน่าสนใจ
Stablecoin คือความท้าทายครั้งใหญ่ของ Pi Network จริงหรือ?
Pi Network กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญจากความต้องการ Stablecoin ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก Kim H Wong นักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ชื่อดัง ชี้ว่าความนิยมของ Stablecoin ถือเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อเป้าหมายของ Pi Network ที่ต้องการเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก เนื่องจาก Stablecoin ซึ่งผูกกับสินทรัพย์อย่างสกุลเงิน Fiat หรือสินค้าโภคภัณฑ์ มีข้อได้เปรียบในด้านเสถียรภาพของราคา การยอมรับในวงกว้าง และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ Pi Network ยังคงต้องพัฒนา
https://twitter.com/Time_and_Trade/status/1939812048453468198
ความผันผวนของราคา Pi Network สภาพคล่องที่จำกัด และความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ ถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ Pi Network ไม่สามารถแข่งขันกับ Stablecoin ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การผ่านร่างกฎหมาย Stablecoin ของสหรัฐฯ อย่าง GENIUS Act ยิ่งเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นของตลาดที่มีต่อ Stablecoin มากขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม Wong ตั้งข้อสังเกตว่า Pi Network ก็มีจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งอาจช่วยลดผลกระทบจาก Stablecoin ได้
จุดแข็งที่สำคัญของ Pi Network คือโมเดลการขุดผ่านมือถือที่ต้องการเพียงการกดแอปฯ วันละครั้ง ซึ่งช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึงเมื่อเทียบกับ Stablecoin นอกจากนี้ เครือข่ายผู้ใช้งานกว่า 65 ล้านคนและโมเดลการเติบโตผ่านการแนะนำเพื่อน ยังสร้างฐานผู้ใช้งานที่ภักดีซึ่งสามารถผลักดันการยอมรับได้หากมีกรณีการใช้งานจริงที่ชัดเจนขึ้น
การมุ่งเน้นไปที่แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) และแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนาอาจช่วยส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับ Pi Network เพื่อแข่งขันกับ Stablecoin ได้ในระยะยาว โดยเฉพาะการเปิดตัว Pi App Studio ที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอปฯ ได้ง่ายขึ้น อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเครือข่าย Pi Network
นอกจากการส่งเสริม dApps แล้ว ทีมพัฒนายังพยายามสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเครือข่าย แม้ว่าล่าสุดการ เปิดตัว AI ใหม่ของ Pi Network จะยังคงสร้างความกังขาในหมู่ชุมชนก็ตาม
จับตา Bitcoin Bull Token ($BTCBULL) โอกาสใหม่ในตลาดกระทิง
ท่ามกลางความผันผวนของตลาดอย่างที่เห็นใน Pi Network นักลงทุนจำนวนมากจึงมองหาโอกาสทำกำไรจากกระแส Bitcoin ที่กำลังมาแรง ซึ่ง Bitcoin Bull Token ($BTCBULL) ก็เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่น่าจับตา เพราะเป็น Meme Coin ที่สร้างขึ้นบนแนวคิด “ฟันธงว่า Bitcoin จะทะลุ 1 ล้านดอลลาร์” พร้อมระบบให้รางวัลผู้ถือเหรียญเป็น Bitcoin จริงๆ เมื่อราคา BTC แตะเป้าหมายสำคัญ
BTCBULL ไม่ใช่แค่ Meme ฉoin ทั่วไป แต่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจคือการจ่ายรางวัลเป็น Bitcoin จริง และมีระบบเผาเหรียญ (Token Burn) ทุกครั้งที่ราคา Bitcoin พุ่งแตะ Milestone ที่กำหนดไว้ เช่น 100,000 ดอลลาร์, 150,000 ดอลลาร์ เพื่อลดอุปทานและเพิ่มความหายากของเหรียญ ทำให้นักลงทุนสามารถมีส่วนร่วมกับการเติบโตของ Bitcoin ได้โดยไม่ต้องถือเหรียญ BTC โดยตรง ซึ่งล่าสุดโปรเจกต์นี้ระดมทุน Presale ไปได้แล้วกว่า 7.8 ล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในแนวคิดนี้
ความสำเร็จในการระดมทุนนี้แสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างล้นหลาม ซึ่งล่าสุด BTC Bull Token ได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการพรีเซลล์ แล้ว ทำให้นักลงทุนที่สนใจต้องรีบตัดสินใจ
