บทเรียนราคาแพง! เทรดเดอร์ขายหมู ETH อดกำไร 2.67 ล้านดอลลาร์!

บทเรียนราคาแพง! เทรดเดอร์ขายหมู ETH อดกำไร 2.67 ล้านดอลลาร์!

การขายและซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลให้สูญเสียกำไรมหาศาลได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวของนักลงทุนรายใหญ่หรือ “วาฬคริปโต” ที่ขาย Ethereum ออกไปเร็วเกินไป จากนั้นราคาก็พุ่งขึ้นอย่างแรง ทำให้เขาต้องกลับมาซื้อใหม่ในราคาที่แพงกว่าเดิมมาก เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาด ETH กำลังเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว และกลายเป็นบทเรียนสำคัญให้เห็นถึงความยากในการคาดเดาตลาดคริปโต

บทเรียนราคาแพงจากการขาย ETH ก่อนเวลาอันควร

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน Lookonchain รายงานเรื่องน่าสนใจของนักลงทุนคนหนึ่ง เขาใช้เงิน 3.8 ล้านดอลลาร์ซื้อ ETH จำนวน 1,425 เหรียญ ในราคาเหรียญละ 2,670 ดอลลาร์ การซื้อครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ราคา Ethereum ขึ้นไปเยอะแล้ว ทำให้เขาตัดสินใจกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ต้องจ่ายราคาที่สูงกว่าเดิมมาก

ที่น่าเสียดายก็คือเมื่อวันที่ 13 เมษายน คนเดียวกันนี้เพิ่งขาย ETH จำนวน 2,522 เหรียญไปได้เงิน 3.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตอนนั้นราคาอยู่ที่ประมาณ 1,570 ดอลลาร์ต่อเหรียญ เขาคิดว่าการขายตอนนั้นน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดี แต่กลับกลายเป็นว่า นั่นคือความผิดพลาดใหญ่ เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ราคา Ethereum ก็เริ่มขึ้นแรงและต่อเนื่องกว่าที่ใครคาดคิด

จากการที่ราคาขึ้นมากกว่า 70% หลังจากที่เขาขายไป ทำให้เขาพลาดโอกาสได้ ETH มากกว่า 1,000 เหรียญ หรือคิดเป็นเงินประมาณ 2.67 ล้านดอลลาร์ ถ้าเขาอดทนเก็บ Ethereum ไว้ตั้งแต่แรก เหรียญเหล่านั้นจะมีค่าประมาณ 6.7 ล้านดอลลาร์ในตอนนี้ ความแตกต่างมหาศาลนี้แสดงให้เห็นว่าการเลือกเวลาผิดในตลาดคริปโตสามารถสร้างความเสียหายได้มากแค่ไหน

การที่ ETH ขึ้นราคาแรงในช่วงนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีเหตุผลสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะการเปิดตัว Pectra Upgrade ที่ทำงานได้สำเร็จ การอัปเกรดครั้งนี้ช่วยทำให้เครือข่าย Ethereum ขยายตัวได้ดีขึ้น ผู้ใช้งาน Validator ได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น และ Smart Wallet ทำงานได้ดีขึ้น การปรับปรุงเหล่านี้คาดว่าจะทำให้คนใช้ Ethereum mainnet เพิ่มขึ้นมากในอนาคต

ในขณะที่ Ethereum กำลังเติบโต เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนนี้ได้แซงหน้าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Coca-Cola และ Alibaba ไปแล้ว ข้อมูลจาก 8marketcap แสดงว่า Ethereum มีมูลค่าตลาด 321 พันล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นสินทรัพย์ที่มีค่าสูงเป็นอันดับ 38 ของโลก แซงหน้าบริษัทยา AbbVie และใกล้จะทัดเทียม Bank of America แล้ว

Lookonchain ได้แสดงความคิดเห็นว่า “คิดให้ดีก่อนขายเหรียญ” เพื่อเตือนถึงความสำคัญของการถือสกุลเงินคริปโตไว้ในระยะยาว

Solaxy: โอกาสลงทุนใหม่ในยุค Layer-2 Solution

ในขณะที่นักลงทุน ETH กำลังเรียนรู้บทเรียนราคาแพงจากการจับจังหวะตลาดที่ผิดพลาด โครงการใหม่อย่าง Solaxy (SOLX) กลับกำลังสร้างโอกาสให้นักลงทุนที่ต้องการเข้าสู่ตลาด Layer-2 ที่กำลังเติบโต โดย Solaxy เป็น Layer-2 solution แรกที่พัฒนาเฉพาะสำหรับ Solana ซึ่งสามารถประมวลผลธุรกรรมได้เกิน 65,000 TPS พร้อมค่าธรรมเนียมต่ำกว่า $0.0001

Solaxy มาพร้อมกับเทคโนโลยีพิเศษที่ช่วยแก้ปัญหาเครือข่าย Solana ที่มักจะช้าหรือติดขัดเมื่อมีคนใช้งานจำนวนมาก ด้วยศักยภาพที่โครงการมี นักวิเคราะห์คาดว่าราคา SOLX อาจเติบโตได้ถึง 1,900% จากราคาพรีเซลในปัจจุบัน ทำให้ Solaxy เป็นโครงการที่นักลงทุนหลายคนกำลังจับตามอง โดยเฉพาะหลัง

โครงการนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยระดมทุนได้มากกว่า 39.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงพรีเซล และยอดดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังมีการประกาศปิดช่วงพรีเซลในอีก 24 วันข้างหน้า โอกาสเหลืออีกไม่มากแล้ว หากคุณกำลังมองหาเหรียญคริปโตที่มีโอกาสทำกำไรมากกว่า 100 เท่า นี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวของคุณ!

By Panya Viriyathanabodi

นักเขียนและนักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีและคริปโตเคอเรนซีที่มีประสบการณ์กว่า 8 ปีจากเว็บไซต์ข่าวสารและบทวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีและคริปโตเคอเรนซีชั้นนำหลายๆ แห่ง โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับ Blockchain, DeFi และนวัตกรรมทางการเงิน เขามีความเชี่ยวชาญในการอธิบายเรื่องราวที่ซับซ้อนให้เข้าใจได้ง่าย ช่วยให้ผู้อ่านเรียนรู้และสนุกสนานไปกับเนื้อหาได้อย่างสมบูรณ์