Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) มาแรงไม่หยุด ในขณะที่ยอดเงินไหลเข้าสินทรัพย์ดิจิทัลรายสัปดาห์แตะ $785 ล้าน!
ผลิตภัณฑ์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถทำสถิติเงินทุนไหลเข้าสูงสุดต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 แม้จะยังมีความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจมหภาคก็ตาม
ข้อมูลจาก CoinShares ระบุว่า เงินทุนที่ไหลเข้าสู่ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีมูลค่ารวมถึง $785 ล้าน
ส่งผลให้ยอดรวมตั้งแต่ต้นปี 2024 แตะที่ $7.5 พันล้าน ซึ่งได้แซงหน้าสถิติเก่าที่ $7.2 พันล้านที่ทำไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024
Bitcoin-Ethereum ฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่ Solana สะดุดเล็กน้อย
Ether เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ดึงดูดเงินทุนได้มากที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมียอดไหลเข้าสูงถึง $205 ล้าน ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของเครือข่ายนี้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ยอดรวมตั้งแต่ต้นปีสำหรับ ETH อยู่ที่ $575 ล้าน
James Butterfill หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ CoinShares ชี้ว่า ความสนใจของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นนี้ เกี่ยวข้องกับการอัปเกรด Pectra ที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารที่ Ethereum Foundation โดย Tomasz Stańczak ได้เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการร่วม
ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนในแผนพัฒนาเทคโนโลยีและศักยภาพระยะยาวของ Ethereum นั่นเอง
ขณะเดียวกัน BTC ก็ยังคงเป็นสินทรัพย์หลักที่ได้รับเงินทุนไหลเข้าสูงสุด โดยมียอดรวม $557 ล้านในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งอาจเกิดจากท่าทีเชิงเข้มงวดของ Federal Reserve สหรัฐฯ ต่อนโยบายดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เน้น Short-Bitcoin มียอดเงินไหลเข้าสะสมเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน รวมมูลค่า $5.8 ล้าน สะท้อนว่ามีนักลงทุนบางส่วนที่ยังคงระมัดระวังและเลือกป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาอยู่
ในบรรดาสินทรัพย์ดิจิทัลหลัก SOL เป็นสินทรัพย์เดียวที่เผชิญกับการไหลออก โดยมูลค่าการไหลออกอยู่ที่ $890,000 ซึ่งอาจสะท้อนถึงการขายทำกำไรหลังจากราคาที่เพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้ หรืออาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระบบนิเวศของ Solana
เอเชียเร่งเครื่องคริปโต แต่ทิศทางยังไม่เป็นหนึ่งเดียว
Butterfill แสดงความเห็นว่า ยอดเงินไหลเข้าตั้งแต่ต้นปีนี้สะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างเต็มรูปแบบจากการไหลออกที่เกือบ $7 พันล้าน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมที่ผ่านมา
ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนกลับมาให้ความสนใจในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของเงินทุนยังคงแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ซึ่งบ่งชี้ว่ายังมีความหลากหลายในมุมมองอยู่
ภูมิภาคสหรัฐฯ เป็นผู้นำด้วยยอดเงินไหลเข้าที่ $681 ล้าน ตามมาด้วยเยอรมนีที่ $86.3 ล้าน และฮ่องกงที่ $24.2 ล้าน ซึ่งถือเป็นยอดเงินไหลเข้าสูงสุดของฮ่องกงนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024

ในทางกลับกัน สวีเดนเผชิญการไถ่ถอนเงินทุนออกมูลค่า $16.3 ล้าน ขณะที่แคนาดาและบราซิลเจอเม็ดเงินไหลออกที่ $13.5 ล้าน และ $3.9 ล้าน ตามลำดับ
โดย Butterfill ชี้ว่า ความแตกต่างเหล่านี้อาจเกิดจากปัจจัยอย่างกรอบเวลาการลงทุน การเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ETF แบบสปอต (Spot ETF) หรือสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบในแต่ละประเทศ
โดยรวมแล้ว การที่เงินทุนจากสถาบันเริ่มกลับเข้าสู่กองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าคริปโตกำลังได้รับการยอมรับมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์กระแสหลัก
ด้วย Bitcoin และ Ethereum ที่เป็นผู้นำในกระแสการฟื้นตัว และความสนใจที่เปลี่ยนแปลงในระดับภูมิภาค สัปดาห์ข้างหน้าจึงน่าจับตามอง โดยเฉพาะในแง่ของผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและพัฒนาการเฉพาะด้านบล็อกเชน ที่อาจส่งผลต่อการจัดสรรทุนในตลาดคริปโตต่อไป
Best Wallet: แหล่งจัดการ BTC-ETH ที่น่าจับตาที่สุด
Best Wallet คือหนึ่งใน Crypto Wallet ที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้ ด้วยการออกแบบที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้งานคริปโต ตั้งแต่การบริหารจัดการสินทรัพย์ไปจนถึงการเทรดผ่านแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ (DEX) รวมถึงการรองรับเหรียญใหม่ๆ
Best Wallet ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นอันดับแรก และรองรับบล็อกเชนมากกว่า 60 เครือข่าย รวมถึงเครือข่ายยอดนิยมอย่าง Bitcoin และ Ethereum
ผู้ใช้งานสามารถบริหารพอร์ตโฟลิโอทั้งหมดได้ในที่เดียว พร้อมทั้งซื้อขายบน Best DEX และเข้าถึงโอกาสลงทุนในโทเค็นใหม่ได้ก่อนใครผ่านฟีเจอร์ Upcoming Tokens
ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางสำหรับนักลงทุนคริปโตแบบครบวงจร ทำให้ Best Wallet กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทั้งสำหรับผู้เริ่มต้นและนักลงทุนมืออาชีพในวงการคริปโต
การไหลเข้าของเงินทุนในผลิตภัณฑ์การลงทุนคริปโตยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนต่อสินทรัพย์ดิจิทัล แม้เศรษฐกิจมหภาคจะยังคงเผชิญความไม่แน่นอนอยู่ก็ตาม

โดย ETH มีบทบาทสำคัญในการฟื้นตัวของตลาด ในขณะที่ BTC ยังคงเป็นสินทรัพย์หลักที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน
ทิศทางของการพัฒนาตลาดในอนาคตและการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการจัดสรรเงินทุนในภาคคริปโตต่อไปในอนาคต