คริปโต เล่นยังไง? คู่มือมือใหม่: เริ่มเทรดคริปโตอย่างมั่นใจ

ทำไมถึงเราจึงน่าเชื่อถือ?
ทำไมถึงเราจึงน่าเชื่อถือ?
คริปโต เล่นยังไง คู่มือมือใหม่ เริ่มเทรดคริปโตอย่างมั่นใจ

ในปัจจุบัน คริปโตเคอร์เรนซีเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นและกำลังเข้ามาปฏิวัติวงการการเงินโลก แต่หลายๆ คนก็ยังสงสัยว่า “คริปโต เล่นยังไง” ให้ปลอดภัยและได้กำไร อันที่จริงแล้ว การเริ่มต้นลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ไม่ยากอย่างที่คิด แม้แต่ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการลงทุนมาก่อนก็สามารถเริ่มต้นได้ไม่ยาก

การเรียนรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นการเปิดประตูสู่ระบบการเงินรูปแบบใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การทำความเข้าใจวิธีเล่นคริปโตให้ถูกต้องไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณซื้อขายได้อย่างมั่นใจ แต่ยังช่วยในการวางแผนการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ตลาดสกุลเงินดิจิทัลเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั้งหน้าใหม่และมืออาชีพเข้าถึงระบบนิเวศทางการเงินที่ไม่ต้องอาศัยตัวกลาง

คุณสามารถเริ่มลงทุนได้ด้วยเงินเพียงไม่กี่ร้อยบาท และใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการสร้างบัญชีและซื้อเหรียญคริปโตเหรียญแรกของคุณ ซึ่งในบทความนี้ เราจะช่วยให้คุณเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี และแนะนำขั้นตอนการเริ่มต้นลงทุนอย่างปลอดภัย พร้อมเทคนิคสำหรับมือใหม่ที่ต้องการก้าวเข้าสู่โลกของสกุลเงินดิจิทัล

คริปโต เล่นยังไง: คู่มือเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ ทำความเข้าใจโลกของคริปโตเคอร์เรนซี

ก่อนอื่น เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า คริปโตเคอร์เรนซี คืออะไรกันแน่?

คริปโตเคอร์เรนซีคืออะไร?

คริปโตเคอร์เรนซีคืออะไร?

คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “คริปโต” คือสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้นักลงทุนหน้าใหม่จำนวนมากเริ่มหันมาสนใจและอยากลงทุนในตลาดที่มีความผันผวนสูงนี้

คริปโตเคอร์เรนซีทำงานบนเทคโนโลยีที่เรียกว่า บล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งเป็นระบบการเก็บบันทึกข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Distributed ledger) ไม่มีตัวกลางหรือองค์กรใดๆ ควบคุม ทำให้การทำธุรกรรมมีความโปร่งใสและปลอดภัยจากการแก้ไขโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่อยากจะรู้ว่า “คริปโต เล่นยังไง” แต่ยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นอย่างไร เมื่ออ่านบทความนี้จนจบ คุณก็จะสามารถเริ่มการเดินทางของคุณในการเริ่มเล่นคริปโตได้อย่างมั่นใจ

เหรียญคริปโตที่เป็นที่รู้จัก

เหรียญคริปโตที่เป็นที่รู้จัก

โลกของคริปโตเคอร์เรนซีมีเหรียญมากมายหลายพันสกุล แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รุ้ว่า คริปโต เล่นยังไง คุณควรที่จะเริ่มต้นทำความรู้จักกับเหรียญหลักๆ ที่ได้รับการยอมรับกว้างขวางก่อน

Bitcoin เป็นคริปโตเคอร์เรนซีต้นแบบที่ถูกสร้างขึ้นในปี 2009 โดยซาโตชิ นากาโมโต นามแฝงของผู้สร้างที่ยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญและความโปร่งใสของเครือข่าย Bitcoin จึงถูกยกให้เป็น “ทองคำดิจิทัล” และยังคงครองตำแหน่งเหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุด ณ ปัจจุบัน

Ethereum เป็นอีกหนึ่งเหรียญสำคัญที่นอกจากจะใช้เป็นสกุลเงินแล้ว ยังเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์และสัญญาอัจฉริยะ ทำให้เกิดนวัตกรรมทางการเงินแบบ DeFi (Decentralized Finance) และ NFT (Non-Fungible Tokens) ซึ่งทำให้ Ethereum ไม่ใช่แค่เหรียญคริปโตทั่วไป แต่ยังเป็นโครงสร้างพื้นฐานของระบบนิเวศดิจิทัลขนาดใหญ่ ความสามารถในการเขียนโปรแกรมบนบล็อกเชนของ Ethereum ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่หลากหลายบนเครือข่ายนี้

ส่วนผู้ที่กังวลเรื่องความผันผวน Stablecoin อย่าง Tether (USDT) และ USD Coin (USDC) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เหรียญเหล่านี้มีมูลค่าผูกไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (1 USDT หรือ USDC = 1 USD) ช่วยให้นักลงทุนหลบหลีกความผันผวนได้โดยไม่ต้องถอนเงินออกจากระบบ

เหรียญคริปโตเหล่านี้เป็นเหรียญแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังศึกษาวิธีเล่นคริปโต มือใหม่มักจะได้รับคำแนะนำให้เริ่มต้นกับเหรียญที่มีมูลค่าตลาดสูงและประวัติอันยาวนานเหล่านี้ เพื่อลดความเสี่ยงเมื่อเทียบกับเหรียญมูลค่าตลาดต่ำที่มีความผันผวนและความเสี่ยงมากกว่า

คำถาม: คริปโตกับบิทคอยน์ ต่างกันยังไง?

คำถาม: คริปโตกับบิทคอยน์ ต่างกันยังไง?

หลายคนมักสับสนระหว่างคำว่า “คริปโต” กับ “บิทคอยน์” และมักใช้สลับกันไปมา แต่ความจริงแล้ว ทั้งสองคำนี้มีความหมายที่แตกต่างกัน “คริปโต” หรือ “คริปโตเคอร์เรนซี” เป็นคำที่ใช้เรียกสกุลเงินดิจิทัลทุกประเภทที่ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสลับในการทำงาน ในขณะที่ “บิทคอยน์” (Bitcoin) เป็นเพียงหนึ่งในคริปโตเคอร์เรนซีเท่านั้น แม้จะเป็นเหรียญแรกและมีมูลค่าตลาดสูงที่สุดก็ตาม

บิทคอยน์เปรียบเสมือนแบรนด์หนึ่ง ในขณะที่คริปโตเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมด เช่นเดียวกับที่ “เฟอร์รารี่” เป็นแบรนด์หนึ่งในกลุ่ม “รถยนต์” ดังนั้น เมื่อพูดถึงวิธีเล่นคริปโต เราจึงหมายถึงการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด ไม่ได้จำกัดเพียงแค่บิทคอยน์เท่านั้น

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาคริปโต

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาคริปโต

เมื่อเริ่ม “เล่นคริปโต” การเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีเหตุผล:

  1. อุปสงค์และอุปทาน – เช่นเดียวกับสินทรัพย์อื่นๆ ราคาคริปโตขึ้นอยู่กับความต้องการซื้อและขาย เมื่อคนต้องการซื้อมากกว่าขาย ราคาก็จะปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะเหรียญที่มีปริมาณจำกัดอย่าง Bitcoin ที่มีเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ยิ่งมีคนใช้งานมากขึ้นเท่าไร ความต้องการก็จะเพิ่มขึ้น
  2. ข่าวสารและกระแสสังคม – ราคาคริปโตมักผันผวนอย่างรุนแรงเมื่อมีข่าวสำคัญเกี่ยวกับ:
    • การประกาศนโยบายจากหน่วยงานกำกับดูแลหรือรัฐบาล
    • บริษัทขนาดใหญ่ยอมรับหรือปฏิเสธการใช้คริปโต
    • โพสต์บนโซเชียลมีเดียจากบุคคลที่มีอิทธิพล เช่น Elon Musk
  3. การพัฒนาเทคโนโลยี – การอัปเดตเทคโนโลยี อย่างการพัฒนาโปรโตคอลใหม่หรือฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่าย สามารถส่งผลบวกต่อราคาได้ โปรเจกต์ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีแผนงานชัดเจนมักจะได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุน
  4. แนวโน้มของตลาดโดยรวม – ตลาดคริปโตมักเคลื่อนไหวสอดคล้องกัน บ่อยครั้งที่เมื่อ Bitcoin ปรับตัวขึ้นหรือลง เหรียญ Altcoin อื่นๆ ก็มักจะเคลื่อนไหวตาม
  5. ความเชื่อมั่นของตลาด – ความเชื่อมั่นมีบทบาทสำคัญมากในตลาดคริปโต เหตุการณ์ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น เช่น การล้มละลายของแพลตฟอร์มซื้อขาย หรือการโจมตีทางไซเบอร์ สามารถทำให้ตลาดเกิดภาวะ “ตื่นตระหนก” และราคาร่วงลงอย่างรวดเร็วได้

การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ที่ศึกษาวิธีเล่นคริปโต มือใหม่สามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและรับมือกับความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องตระหนักว่าตลาดคริปโตมีความเสี่ยงสูง และยากที่จะคาดเดาได้อย่างแม่นยำ

ข้อดีของการลงทุนในคริปโต

  • ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อย – หากคุณอยากซื้อเหรียญคริปโตแต่มีงบจำกัด ไม่ต้องกังวล เพราะคุณสามารถเริ่มต้นด้วยเงินเพียงไม่กี่ร้อยบาทก็ลงทุนได้
  • ซื้อเป็นหน่วยย่อยได้ – ไม่จำเป็นต้องซื้อเต็มเหรียญ สามารถซื้อเป็นเศษส่วนของเหรียญได้ เช่น Satoshi ซึ่งเป็นหน่วยย่อยของ Bitcoin (BTC)
  • โอกาสได้รับผลตอบแทนสูง – ในระยะสั้นๆ ราคาคริปโตอาจจะเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว สร้างผลตอบแทนที่สูงได้

ข้อเสียของการลงทุนในคริปโต

  • ความผันผวนสูง – ราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง
  • มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินลงทุน – คุณอาจจะสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนหากเลือกลงทุนในเหรียญที่ไม่มีพื้นฐานรองรับ
  • การกำกับดูแลยังไม่เข้มงวด – เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ลงทุนประเภทอื่น การกำกับดูแลคริปโตยังค่อนข้างหลวม

คำศัพท์พื้นฐานที่ควรรู้ก่อนเล่นคริปโต

เมื่อคุณเริ่มศึกษาเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี คุณมักจะได้พบกับคำศัพท์เฉพาะทางมากมาย และนี่คือคำศัพท์พื้นฐานที่ควรรู้:

  • Blockchain – เทคโนโลยีที่เป็นพื้นฐานของคริปโตเคอร์เรนซี เป็นระบบบันทึกข้อมูลแบบกระจายศูนย์ที่ปลอดภัยและโปร่งใส
  • Bitcoin (BTC) – เหรียญคริปโตที่ถูกสร้างขึ้นเป็นเหรียญแรกในปี 2009 โดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto ปัจจุบัน BTC ก็ยังคงเป็นเหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุด
  • Altcoin – คริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Bitcoin เช่น Ethereum, Solana, XRP, Cardano เป็นต้น
  • Crypto Wallet – กระเป๋าเงินที่ใช้เก็บคริปโตเคอร์เรนซี มีทั้งแบบ Hot Wallet ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และแบบ Cold Wallet ที่ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  • Exchange – แพลตฟอร์มที่ให้บริการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี เช่น Binance หรือ Bitkub เป็นต้น
  • Public Key & Private Key – กุญแจสาธารณะและกุญแจส่วนตัวที่ใช้ในการทำธุรกรรมคริปโต เปรียบเสมือนชื่อบัญชี/รหัสผ่านที่ใช้เข้าถึงเหรียญของคุณ

เทรดคริปโต เริ่มยังไง: ขั้นตอนการเปิดบัญชี กับ Best Wallet และซื้อขายคริปโตอย่างปลอดภัย

เทรดคริปโต เริ่มยังไง ขั้นตอนการเปิดบัญชี กับ Best Wallet และซื้อขายคริปโตอย่างปลอดภัย

คริปโตเคอร์เรนซีได้กลายเป็นทางเลือกการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน แต่สำหรับมือใหม่ การเริ่มต้นเทรดคริปโตอาจจะดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและน่ากังวล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกแพลตฟอร์ม การยืนยันตัวตน หรือ การรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัล ฯลฯ แต่ไม่ต้องกังวลมากจนเกินไป เพราะอันที่จริงแล้ว การเทรดคริปโตนั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด

วิธีเล่นคริปโต มือใหม่: 5 ขั้นตอนง่ายๆ ในการเริ่มต้น

1. เทรดคริปโต เริ่มยังไง? เลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือก่อน

1. เทรดคริปโต เริ่มยังไง? เลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือก่อน

การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกแพลตฟอร์มมีดังนี้:

  • ความปลอดภัย: ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี เช่น 2FA, Cold Storage และมีประวัติด้านความปลอดภัยที่ดี
  • การได้รับใบอนุญาต: แพลตฟอร์มควรได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น ก.ล.ต. ในประเทศไทย
  • ค่าธรรมเนียม: เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ฝาก และถอนของแต่ละแพลตฟอร์ม
  • เหรียญที่รองรับ: ตรวจสอบว่ามีเหรียญคริปโตที่คุณสนใจให้เลือกซื้อขายหรือไม่
  • ความง่ายในการใช้งาน: โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ ควรเลือกแพลตฟอร์มที่มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
2. สร้างบัญชีและยืนยันตัวตน (KYC)

2. สร้างบัญชีและยืนยันตัวตน (KYC)

หลังจากเลือกแพลตฟอร์มแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างบัญชีและยืนยันตัวตน:

2.1 ลงทะเบียนสมัครสมาชิก

  • กรอกอีเมลและรหัสผ่าน (ควรใช้รหัสผ่านที่รัดกุมและไม่ซ้ำกับบัญชีอื่น)
  • ยืนยันอีเมลผ่านลิงก์ที่ส่งไปยังอีเมลของคุณ
  • ตั้งค่าการยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) ทันทีเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

2.2 ยืนยันตัวตน (KYC)

KYC (Know Your Customer) เป็นกระบวนการตรวจสอบและยืนยันตัวตนที่แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อป้องกันการฟอกเงินและการทุจริต โดยทั่วไปจะต้องให้ข้อมูลและเอกสารดังนี้:

  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด ที่อยู่
  • รูปถ่ายบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง
  • เซลฟี่ถือบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง
  • ในบางกรณี อาจต้องให้หลักฐานยืนยันที่อยู่ เช่น ใบแจ้งหนี้ค่าสาธารณูปโภค

การยืนยันตัวตนอาจใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่นาทีไปจนถึงหลายวัน ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มและปริมาณผู้สมัคร

3. เปิดใช้งานระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม

3. เปิดใช้งานระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเทรดคริปโต ดังนั้นควรเปิดใช้งานระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ ที่แพลตฟอร์มมีให้:

3.1 การยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA)

2FA เพิ่มชั้นความปลอดภัยให้กับบัญชีของคุณ โดยต้องมีการยืนยันตัวตนสองขั้นตอนก่อนเข้าสู่ระบบ:

  • Google Authenticator: แอปที่สร้างรหัสชั่วคราวสำหรับการยืนยันตัวตน
  • SMS 2FA: รับรหัสยืนยันผ่าน SMS (แนะนำให้ใช้แอป Authenticator มากกว่า เนื่องจากปลอดภัยกว่า)

3.2 ตั้งค่าการแจ้งเตือน

เปิดการแจ้งเตือนเมื่อมีการเข้าสู่ระบบหรือทำธุรกรรมในบัญชีของคุณ เพื่อให้คุณสามารถตอบสนองได้ทันทีหากมีกิจกรรมที่น่าสงสัย

3.3 กำหนดขีดจำกัดการถอน

ตั้งค่าวงเงินสูงสุดที่สามารถถอนได้ต่อวัน และกำหนดให้ต้องมีการยืนยันเพิ่มเติมสำหรับการถอนในจำนวนที่มาก

4. ฝากเงินเข้าบัญชี

4. ฝากเงินเข้าบัญชี

เมื่อบัญชีได้รับการยืนยันและมีการตั้งค่าความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถฝากเงินเข้าบัญชีเพื่อเริ่มซื้อคริปโต วิธีการฝากเงินมีหลายรูปแบบ:

  • โอนเงินผ่านธนาคาร: วิธีที่นิยมที่สุดในประเทศไทย โดยโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของแพลตฟอร์ม
  • พร้อมเพย์: บางแพลตฟอร์มรองรับการฝากเงินผ่านพร้อมเพย์ ซึ่งสะดวกและรวดเร็ว
  • บัตรเครดิต/เดบิต: บางแพลตฟอร์มรองรับการฝากเงินผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต แต่อาจมีค่าธรรมเนียมสูงกว่า

ควรเริ่มต้นด้วยจำนวนเงินที่ไม่มากเกินไป เพื่อทดลองระบบและสร้างความคุ้นเคยกับกระบวนการ

5. เริ่มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี

5. เริ่มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี

เมื่อมีเงินในบัญชีแล้ว คุณสามารถเริ่มซื้อคริปโตได้ ขั้นตอนโดยทั่วไปมีดังนี้:

5.1 เลือกคู่เทรด

คู่เทรด คือคู่ของสกุลเงินที่คุณต้องการซื้อขาย เช่น BTC/THB (ซื้อขาย Bitcoin ด้วยเงินบาท) หรือ ETH/BTC (ซื้อขาย Ethereum ด้วย Bitcoin)

5.2 เลือกประเภทคำสั่งซื้อขาย

  • Market Order: ซื้อหรือขายทันทีที่ราคาตลาดปัจจุบัน
  • Limit Order: กำหนดราคาที่ต้องการซื้อหรือขาย และคำสั่งจะถูกดำเนินการเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด

5.3 ระบุจำนวน

กำหนดจำนวนคริปโตที่ต้องการซื้อหรือขาย หรือระบุจำนวนเงินที่ต้องการใช้

5.4 ยืนยันคำสั่งซื้อขาย

ตรวจสอบรายละเอียดให้ถูกต้องก่อนยืนยันคำสั่งซื้อขาย

วิธีการเหล่านี้คือขั้นตอนง่ายๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกๆ แพลตฟอร์ม/แอปเทรดคริปโต ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นการเล่นคริปโตได้อย่างง่ายดาย แต่หากยังไม่เห็นภาพว่า คริปโต เล่นยังไง เราจะมายกตัวอย่างด้วยการใช้ Best Wallet เพื่อช่วยให้คุณเห็นภาพอย่างชัดเจนกัน

การใช้ Best Wallet เพื่อซื้อและจัดเก็บคริปโตอย่างปลอดภัย

หลายคนสงสัยว่า “คริปโต เล่นยังไง” ให้ปลอดภัยและสะดวก คำตอบคือการเลือกใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะสม การจัดเก็บคริปโตเคอร์เรนซีอย่างปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น Best Wallet เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและมีความปลอดภัยสูง ช่วยให้คุณสามารถซื้อ เก็บรักษา และจัดการคริปโตของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ Best Wallet เพื่อซื้อและจัดเก็บคริปโตอย่างปลอดภัย

บทความนี้จะแนะนำวิธีการใช้ Best Wallet อย่างละเอียด ตั้งแต่การติดตั้งไปจนถึงการซื้อและจัดการคริปโต

การเริ่มใช้งาน Best Wallet ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่:

  • ดาวน์โหลดแอพจาก App Store หรือ Google Play Store
  • ติดตั้งลงสมาร์ทโฟน
  • สร้างบัญชีโดยใช้อีเมลหรือบัญชี Apple/Google
  • ตั้งรหัส PIN 4 หลัก และเปิดใช้งานไบโอเมตริกเพื่อความปลอดภัย
  • ทำการสำรอง Seed Phrase โดยจดลงกระดาษและเก็บในที่ปลอดภัย

กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที จุดเด่นของ Best Wallet คือไม่ต้องทำ KYC ทำให้รักษาความเป็นส่วนตัวได้ดี และสามารถซื้อคริปโตได้โดยตรงจากภายในแอพ

วิธีซื้อคริปโตด้วย Best Wallet

Best Wallet ช่วยให้คุณสามารถซื้อคริปโตได้โดยตรงจากภายในแอพ ช่วยลดความซับซ้อนในการโอนสินทรัพย์ระหว่างแพลตฟอร์ม ต่อไปนี้คือขั้นตอนการซื้อคริปโตผ่าน Best Wallet:

  1. เลือกซื้อคริปโต
  1. เปิดแอป Best Wallet
  2. ที่หน้าหลัก กดปุ่ม “ซื้อ” (Buy) ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอ
  3. เลือกบล็อกเชนที่ต้องการ (เช่น Bitcoin, Ethereum, Solana ฯลฯ)
  4. เลือกเหรียญที่ต้องการซื้อจากรายการ (เช่น BTC, ETH, SOL)

เปิดแอป Best Wallet

  1. ระบุจำนวนเงิน
  1. กรอกจำนวนเงินที่คุณต้องการใช้ซื้อคริปโต
  2. เลือกสกุลเงินที่ใช้ซื้อ (THB สำหรับเงินบาทไทย)
  3. ระบบจะคำนวณจำนวนคริปโตที่คุณจะได้รับโดยอัตโนมัติตามราคาตลาดปัจจุบัน
  4. ตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง (จะแสดงอยู่ด้านล่างของหน้าจอ)

ระบุจำนวนเงิน

  1. เลือกวิธีการชำระเงิน

Best Wallet รองรับวิธีการชำระเงินหลายรูปแบบ:

  • บัตรเครดิต/เดบิต: สะดวกแต่อาจมีค่าธรรมเนียมสูงกว่า
  • การสแกน QR Code ในแอพธนาคาร: วิธีที่นิยมในไทย ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า
  • Google Pay: สำหรับผู้ใช้ Android
  • บริการชำระเงินอื่นๆ: เช่น PayPal, Skrill, Neteller (ขึ้นอยู่กับความพร้อมใช้งานในประเทศของคุณ)

Best Wallet รองรับวิธีการชำระเงินหลายรูปแบบ

  1. ยืนยันการทำรายการและชำระเงิน
  1. ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดให้ถูกต้อง (จำนวนเงิน, เหรียญที่จะได้รับ, ค่าธรรมเนียม)
  2. กดปุ่มดำเนินการต่อเพื่อไปยังหน้าชำระเงิน
  3. ทำตามขั้นตอนการชำระเงินตามวิธีที่คุณเลือก
  4. รอการยืนยันการทำรายการ (อาจใช้เวลาไม่กี่นาทีถึงหนึ่งชั่วโมงขึ้นอยู่กับวิธีการชำระเงินและความหนาแน่นของเครือข่าย)
  1. ตรวจสอบยอดคริปโตในกระเป๋าเงิน

เมื่อการทำรายการเสร็จสมบูรณ์ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนและคริปโตจะปรากฏในกระเป๋าเงินของคุณ คุณสามารถตรวจสอบยอดได้ที่หน้าหลักของแอพ

เห็นได้เลยว่า Best Wallet ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อคริปโตได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นกระเป๋าเงินคริปโตที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าคริปโต เล่นยังไง พร้อมทั้งยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายที่โดดเด่นให้ใช้งาน เช่น:

DEX ในตัว (Decentralized Exchange)คุณสมบัติ StakingBest Card

DEX ในตัว (Decentralized Exchange)

Best Wallet มี DEX ในตัว พร้อมรองรับกว่า 60 เครือข่าย ช่วยให้คุณสามารถแลกเปลี่ยนเหรียญต่างๆ ได้โดยตรงในแอป โดยไม่ต้องไปใช้บริการจากเว็บไซต์อื่นๆ เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งานอย่างมาก

คุณสมบัติ Staking

Best Wallet ไม่ใช่แค่โซลูชันการเก็บรักษาเท่านั้น คุณยังสามารถสเตค (stake) สินทรัพย์ของคุณภายในกระเป๋าเพื่อสร้างรายได้ได้โดยตรง — ทั้งหมดนี้มีให้ใช้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

Best Card

Best Card เป็นฟีเจอร์ที่อยู่ในแผนการพัฒนาของ Best Wallet โดยจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่ายคริปโตได้ทุกที่ ช่วยให้คุณเชื่อมโยงสินทรัพย์คริปโตของคุณกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้คุณสามารถใช้คริปโตในการซื้อสินค้าและบริการได้โดยตรง

ด้วยฟีเจอร์เหล่านี้ Best Wallet จึงเป็นทางเลือกที่ครบวงจรสำหรับผู้ที่ต้องการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัย ง่ายดาย และเป็นส่วนตัว ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายในแอปเดียว

ขั้นตอนการเลือก Exchange

การเทรดคริปโตระยะสั้นเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2025 ที่ตลาดคริปโตมีความผันผวนสูง การเลือก Exchange ที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จของนักเทรด ต่อไป เราจะมาแนะนำ 5 Exchange ชั้นนำสำหรับการเทรดคริปโตระยะสั้น พร้อมเปรียบเทียบคุณสมบัติและให้คำแนะนำในการเลือก Exchange ที่เหมาะกับความต้องการของคุณ

1. Margex

Margex เป็นแพลตฟอร์มเทรดอนุพันธ์คริปโตที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 โดยกลุ่มอดีตเทรดเดอร์ โดดเด่นด้วยอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ซึ่งเหมาะกับทั้งมือใหม่และมือเก๋า ปัจจุบันมีผู้ใช้งานลงทะเบียนมากกว่า 500,000 คนใน 153 ประเทศ Margex มุ่งเน้นที่การเทรดอนุพันธ์แบบเพอร์เพทชวลฟิวเจอร์ส (perpetual futures) โดยรองรับเลเวอเรจสูงสุด 100x สำหรับสินทรัพย์มากกว่า 55 รายการ

Margex

แพลตฟอร์มนี้ได้รับความนิยมเนื่องจากไม่ต้องผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตน (KYC) ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำหรับนักเทรดที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว Margex ยังมีฟีเจอร์การคัดลอกการเทรด (Copy Trading) ที่ช่วยให้มือใหม่สามารถลอกเลียนกลยุทธ์ของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีบริการ Staking ที่ไม่มีระยะเวลาล็อคและสามารถซื้อคริปโตด้วยบัตรเครดิตได้อีกด้วย

ข้อดี

  • อินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์
  • รองรับเลเวอเรจสูงถึง 100x สำหรับโอกาสทำกำไรในการเทรดระยะสั้น
  • ไม่ต้องยืนยันตัวตน (KYC) ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวสูงสุด
  • มีระบบป้องกันการปั่นราคา MP Shield ที่ใช้อัลกอริทึม AI
  • มีฟีเจอร์คัดลอกการเทรด (Copy Trading) ที่ช่วยให้มือใหม่เริ่มต้นได้ง่าย

ข้อเสีย

  • ยังไม่มีการเทรดแบบสปอต (อยู่ระหว่างการพัฒนา)

2. BloFin

BloFin เป็นกระดานเทรดคริปโตที่เติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2023 ก่อตั้งโดย Matt Hu ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งใน “Top 100 Influencers in Blockchain” ของ Cointelegraph ในปี 2020 BloFin โดดเด่นด้วยความสามารถในการเทรดฟิวเจอร์สและฟีเจอร์ขั้นสูง แพลตฟอร์มนี้มีประสิทธิภาพทางเทคนิคที่น่าประทับใจและเครื่องมือการเทรดที่ช่วยให้เทรดเดอร์มืออาชีพสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

BloFin

BloFin ให้บริการคู่เทรดหลากหลาย โดยมีสัญญา USDT-M perpetual มากกว่า 480 คู่และคู่เทรดสปอตมากกว่า 250 คู่ ปริมาณการซื้อขายรายวันปกติอยู่ระหว่าง 800 ล้านถึง 1 พันล้านดอลลาร์ แพลตฟอร์มนี้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอย่างมาก โดยร่วมมือกับ Fireblocks ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำ และใช้ Chainalysis สำหรับการตรวจสอบและติดตามธุรกรรมแบบเรียลไทม์

ข้อดี

  • ตัวเลือกการเทรดที่หลากหลายด้วยคู่เทรดมากกว่า 480 คู่
  • รองรับเลเวอเรจสูงถึง 150x สำหรับการเทรดฟิวเจอร์ส
  • มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ร่วมมือกับ Fireblocks
  • มีบัญชีเทรดแบบรวม (unified) ที่รวมการเทรดสปอตและฟิวเจอร์สเข้าด้วยกัน
  • ประสิทธิภาพทางเทคนิคที่เหนือกว่าคู่แข่งหลายราย ทั้งเว็บและโมบายล์

ข้อเสีย

  • มีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ ไม่สามารถใช้งานได้ใน 45 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ แคนาดา

3. KCEX

KCEX เป็นแพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่ค่อนข้างใหม่ ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เซเชลส์ และได้รับความสนใจจากโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้และตัวเลือกการเทรดที่หลากหลาย KCEX นำเสนอตัวเองเป็น Exchange ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ดำเนินงานภายใต้ค่านิยมหลัก “User First, Security Foremost, Innovation Driven” และอ้างว่ามีผู้ใช้ลงทะเบียนมากกว่า 1 ล้านคนในหลายสิบประเทศทั่วโลก

KCEX

เป็นกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ที่นำเสนอตัวเลือกการเทรดหลายรูปแบบ รวมถึงการเทรดสปอต สัญญาฟิวเจอร์ส และการเทรดมาร์จิ้นด้วยเลเวอเรจสูงถึง 100x KCEX รองรับคริปโตเคอร์เรนซีหลากหลาย โดยบางแหล่งรายงานว่ามีเหรียญที่ใช้ได้มากกว่า 85 เหรียญ ในขณะที่แหล่งอื่นกล่าวว่ารองรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 500 รายการ ปริมาณการซื้อขายรายวันล่าสุดของ KCEX อยู่ที่ประมาณ 1.21 พันล้านดอลลาร์สำหรับการเทรดสปอตและ 2.41 พันล้านดอลลาร์สำหรับการเทรดฟิวเจอร์ส

ข้อดี

  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการเทรดสปอต (0%) สำหรับทั้ง maker และ taker
  • เหรียญคริปโตให้เลือกหลากหลาย รองรับสินทรัพย์ดิจิทัล 85-500+ รายการ
  • มีตัวเลือกการเทรดฟิวเจอร์สด้วยเลเวอเรจสูงถึง 100x
  • อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน พร้อมชาร์ต TradingView
  • มีสิ่งจูงใจที่น่าดึงดูด เช่น โบนัสการสมัครและการแข่งขันการเทรด

ข้อเสีย

  • ไม่รองรับสกุลเงินเฟียตสำหรับการฝากหรือถอนเงิน จำกัดธุรกรรมเฉพาะคริปโตเท่านั้น

4. Bitunix

Bitunix เป็น Exchange คริปโตที่กำลังเติบโต ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 และได้รับส่วนแบ่งการตลาดอย่างรวดเร็วในวงการเทรดคริปโต ดำเนินงานจากเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ แพลตฟอร์มนี้ให้บริการทั้งการเทรดสปอตและอนุพันธ์ โดยมุ่งเน้นการนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ขณะที่ยังคงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ณ เดือนเมษายน 2025 Bitunix ให้บริการผู้ใช้มากกว่า 2 ล้านคนในกว่า 100 ประเทศ โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์

Bitunix

Bitunix วางตำแหน่งตัวเองเป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ครอบคลุม ตอบสนองความต้องการของทั้งมือใหม่และเทรดเดอร์มืออาชีพ Exchange นี้นำเสนอการเทรดสปอตสำหรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 300 รายการและการเทรดฟิวเจอร์สด้วยเลเวอเรจสูงถึง 125x หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นคือการบูรณาการกับ TradingView สำหรับการวิเคราะห์ชาร์ตระดับมืออาชีพ ซึ่งให้เครื่องมือการเทรดขั้นสูงแก่ผู้ใช้โดยตรงในแพลตฟอร์ม

ข้อดี

  • อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้และประสบการณ์ที่เหมาะกับทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์
  • การบูรณาการกับ TradingView ให้ชาร์ตและเครื่องมือวิเคราะห์ระดับมืออาชีพ
  • กองทุนประกันมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สำหรับการปกป้องผู้ใช้
  • รองรับคริปโตและคู่เทรดมากกว่า 300 รายการ
  • มีเลเวอเรจสูงถึง 125x สำหรับการเทรดอนุพันธ์

ข้อเสีย

  • มีรายงานจากผู้ใช้งานเกี่ยวกับการระงับบัญชีที่ไม่คาดคิดและปัญหาในการถอนเงิน

5. WEEX

WEEX Exchange เป็นผู้เล่นที่สำคัญในวงการเทรดคริปโตตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2018 โดยมีผู้ใช้ลงทะเบียนมากกว่า 5 ล้านคนและมีปริมาณการซื้อขายรายวันมากกว่า 50 พันล้านดอลลาร์ แพลตฟอร์มนี้ได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์จากบริษัทลงทุนบล็อกเชนชั้นนำ WEEX ได้ขยายการเข้าถึงทั่วโลกไปยังหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ตุรกี รัสเซีย อินเดีย และฟิลิปปินส์ ภายในปี 2025 WEEX ได้ก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ ของ CoinMarketCap

WEEX

WEEX รองรับคริปโตเคอร์เรนซีมากกว่า 600 รายการและมากกว่า 1,500 คู่เทรด ให้บริการการเทรดที่ครอบคลุม ได้แก่ การเทรดสปอต การเทรดฟิวเจอร์สด้วยเลเวอเรจสูงถึง 200x การเทรด OTC และฟีเจอร์คัดลอกการเทรด แพลตฟอร์มออกแบบมาสำหรับทั้งมือใหม่และเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ โดยมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและไม่ยุ่งยาก

ข้อดี

  • โครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้ ไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับผู้สร้างในการเทรดสปอต
  • รองรับคริปโตเคอร์เรนซีที่หลากหลาย มากกว่า 600 เหรียญและ 1,500+ คู่เทรด
  • ตัวเลือกเลเวอเรจสูง (สูงสุด 200x) สำหรับการเทรดระยะสั้น
  • ข้อกำหนด KYC ที่ยืดหยุ่น ไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวตน
  • ฟังก์ชันคัดลอกการเทรด ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำซ้ำการเทรดของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ

ข้อเสีย

  • ไม่มีตัวเลือกการฝากหรือถอนสกุลเงินเฟียตสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่

ตารางเปรียบเทียบ Exchange ชั้นนำแต่ละราย

Margex BloFin KCEX Bitunix WEEX
ปีที่ก่อตั้ง 2019 2023 2021 2021 2018
ค่าธรรมเนียมสปอต (Maker/Taker) ไม่มีสปอต 0.10%/0.10% 0%/0% ไม่ระบุ 0%/0.10%
ค่าธรรมเนียมฟิวเจอร์ส (Maker/Taker) 0.019%/0.06% 0.02%/0.06% 0%/0.01-0.02% ไม่ระบุ 0.02%/0.08%
เลเวอเรจสูงสุด 100x 150x 100x 125x 200x
จำนวนเหรียน/คู่เทรด 55+ 480+ ฟิวเจอร์ส, 250+ สปอต 85-500+ 300+ 600+ เหรียน, 1,500+ คู่เทรด
ต้องยืนยันตัวตน (KYC) ไม่ต้อง ไม่ต้องสำหรับฟังก์ชันส่วนใหญ่ จำเป็นสำหรับวงเงินการถอนที่สูงขึ้น จำเป็นสำหรับวงเงินการถอนที่สูงขึ้น ไม่จำเป็น แต่เพิ่มวงเงินถอนหากทำ KYC
รองรับสกุลเงินเฟียต ผ่านบัตรเครดิต ไม่ ไม่ มี ไม่
ฟีเจอร์เด่น Copy Trading, ระบบป้องกันการปั่นราคา MP Shield บัญชีเทรดแบบรวม, ประสิทธิภาพทางเทคนิคเหนือกว่าคู่แข่ง ค่าธรรมเนียมสปอต 0%, การแข่งขันเทรดรายวัน บูรณาการกับ TradingView, กองทุนประกัน $200M Copy Trading, กองทุนคุ้มครอง 1,000 BTC
การเข้าถึงทั่วโลก 153 ประเทศ ให้บริการใน 150+ ประเทศ ยกเว้น 45 ประเทศ มีข้อจำกัดในบางประเทศ มากกว่า 100 ประเทศ หลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ
แอพมือถือ มี มี มี มี มี

เมื่อคุณรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือแล้ว คำถามต่อไปคือ เทรดคริปโต เล่นยังไงให้เหมาะกับความต้องการของคุณ สิ่งสำคัญคือการเลือก Exchange ที่สอดคล้องกับสไตล์การลงทุนและระดับประสบการณ์ของคุณ แล้วจะทำได้อย่างไร? เอาหล่ะ เราไปดูต่อกันเลยดีกว่า

หลักเกณฑ์การเลือก Exchange สำหรับเทรดคริปโต

การเลือก Exchange ที่เหมาะสมสำหรับการเทรดคริปโตระยะสั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์ของการลงทุน ต่อไปนี้คือปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือก Exchange:

1. ค่าธรรมเนียมและโครงสร้างราคา

1. ค่าธรรมเนียมและโครงสร้างราคา

ค่าธรรมเนียมเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ระยะสั้น เนื่องจากกำไรมักมาจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย การเทรดที่มีความถี่สูงจะทำให้ค่าธรรมเนียมสะสมอย่างรวดเร็ว

ควรเปรียบเทียบทั้งค่าธรรมเนียมการเทรด (Maker/Taker) ค่าธรรมเนียมการฝากและถอน และส่วนต่างราคา (Spread) ระหว่าง Exchange ต่างๆ Exchange ที่มีค่าธรรมเนียม 0% สำหรับ Maker จะช่วยประหยัดต้นทุนได้มาก

2. สภาพคล่องและปริมาณการซื้อขาย

2. สภาพคล่องและปริมาณการซื้อขาย

สภาพคล่องเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ระยะสั้น เพราะช่วยให้เข้าและออกจากตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วในราคาที่คาดหวัง Exchange ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงมักมีสภาพคล่องที่ดีกว่า

ความลึกของสมุดคำสั่งซื้อขายช่วยให้ทำธุรกรรมขนาดใหญ่โดยมีผลกระทบต่อราคาน้อย Exchange ที่มีสภาพคล่องสูงมักมีการเคลื่อนไหวของราคาที่ราบรื่นกว่า ช่วยลดความเสี่ยงจากการลื่นไถล (slippage)

3. เครื่องมือการเทรดและเลเวอเรจ

3. เครื่องมือการเทรดและเลเวอเรจ

เทรดเดอร์ระยะสั้นต้องการเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและข้อมูลที่แม่นยำ การมีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและชาร์ตที่ดีช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น

เลเวอเรจที่สูงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์ระยะสั้น แต่มาพร้อมความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ควรพิจารณาระดับเลเวอเรจที่ Exchange เสนอและกลไกการป้องกันการลิควิเดชันที่ไม่เป็นธรรม

4. ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ

4. ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ

ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอเมื่อเลือก Exchange เนื่องจากคุณต้องฝากเงินในแพลตฟอร์ม ตรวจสอบมาตรการความปลอดภัยที่ Exchange ใช้ เช่น 2FA และ Cold Storage

กองทุนประกันเป็นข้อบ่งชี้ที่ดีว่า Exchange ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้ Exchange ที่มีประวัติยาวนานและไม่เคยถูกแฮ็กมักจะน่าเชื่อถือกว่า Exchange ที่ตั้งขึ้นใหม่

5. ความหลากหลายของเหรียนและคู่เทรด

5. ความหลากหลายของเหรียนและคู่เทรด

Exchange ที่รองรับเหรียนและคู่เทรดหลากหลายให้โอกาสในการเทรดมากกว่า ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ระยะสั้นที่ต้องการทำกำไรจากความผันผวนในตลาดที่แตกต่างกัน

นอกจากจำนวนเหรียนแล้ว ควรพิจารณาสภาพคล่องของแต่ละคู่เทรดด้วย บางคู่เทรดอาจมีสภาพคล่องต่ำแม้อยู่บน Exchange ขนาดใหญ่ ควรมั่นใจว่าคู่เทรดที่คุณสนใจมีสภาพคล่องเพียงพอ

6. อินเทอร์เฟซและประสบการณ์ผู้ใช้

6. อินเทอร์เฟซและประสบการณ์ผู้ใช้

ในการเทรดระยะสั้น ความเร็วและความสะดวกเป็นสิ่งสำคัญ อินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและใช้งานง่ายช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ

แอพมือถือที่มีฟังก์ชันครบถ้วนช่วยให้คุณสามารถเทรดได้ทุกที่ทุกเวลา ความเสถียรของแพลตฟอร์มเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เมื่อเทรดเดอร์จำนวนมากเข้าสู่ระบบพร้อมกัน

7. ข้อกำหนด KYC และข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์

7. ข้อกำหนด KYC และข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์

ข้อกำหนดการยืนยันตัวตน (KYC) แตกต่างกันไปในแต่ละ Exchange บางแห่งอนุญาตให้เทรดโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ในขณะที่บางแห่งต้องการการยืนยันตัวตนอย่างเข้มงวด

ควรตรวจสอบว่า Exchange ให้บริการในประเทศของคุณหรือไม่ บางแพลตฟอร์มอาจมีข้อจำกัดในบางภูมิภาค หากความเป็นส่วนตัวมีความสำคัญ อาจพิจารณา Exchange ที่ไม่ต้องการ KYC

การเปิดบัญชีและการยืนยันตัวตน (KYC)

การเปิดบัญชีและการยืนยันตัวตนเป็นขั้นตอนแรกในการเริ่มต้นเทรดคริปโต มาดูขั้นตอนทั่วไปและข้อแตกต่างระหว่าง Exchange ต่างๆ:

ขั้นตอนการเปิดบัญชีทั่วไป

  1. การลงทะเบียน:
    • สร้างบัญชีผู้ใช้ด้วยอีเมลและรหัสผ่าน
    • ยืนยันอีเมลผ่านลิงก์ที่ส่งไปยังกล่องจดหมาย
  2. การตั้งค่าการรักษาความปลอดภัย:
    • เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (2FA)
    • ตั้งค่ารหัสป้องกันการฟิชชิ่ง (Anti-Phishing Code) ในบาง Exchange
    • ตั้งค่ารหัสผ่านสำหรับการถอนเงิน
  3. การฝากเงิน:
    • เลือกสกุลเงินที่ต้องการฝาก
    • ทำการโอนเงินจากกระเป๋าเงินหรือ Exchange อื่น
    • ในกรณี Exchange ที่รองรับเงินเฟียต สามารถฝากผ่านบัตรเครดิต/เดบิต หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร
  4. การยืนยันตัวตน (KYC) (หากจำเป็น):
    • ระดับพื้นฐาน: ชื่อ, ที่อยู่, วันเดือนปีเกิด
    • ระดับกลาง: รูปถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง
    • ระดับสูง: การยืนยันที่อยู่และการถ่ายภาพพร้อมบัตรประจำตัว

เปรียบเทียบข้อกำหนด KYC ของแต่ละ Exchange

ข้อกำหนด KYC วงเงินไม่ต้อง KYC เวลาในการยืนยัน
Margex ไม่ต้องทำ KYC ไม่จำกัด
BloFin ไม่ต้องทำ KYC สำหรับฟังก์ชันส่วนใหญ่ ไม่จำกัดสำหรับการเทรด
KCEX ต้องทำ KYC สำหรับวงเงินถอนที่สูงขึ้น จำกัดการถอนต่อวันเมื่อไม่มี KYC 1-2 วันทำการ
Bitunix ต้องทำ KYC สำหรับวงเงินถอนที่สูงขึ้น จำกัดการถอนต่อวันเมื่อไม่มี KYC 24-48 ชั่วโมง
WEEX ไม่จำเป็นต้องทำ KYC แต่มีข้อดีถ้าทำ มีข้อจำกัดสำหรับการถอนรายวัน 24 ชั่วโมง

ข้อแนะนำสำหรับการยืนยันตัวตน

  1. เตรียมเอกสารให้พร้อม:
    • บัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ
    • หลักฐานแสดงที่อยู่ (เช่น ใบแจ้งหนี้ค่าสาธารณูปโภค)
    • รูปถ่ายหน้าที่ชัดเจน (สำหรับการถ่ายภาพพร้อมบัตร)
  2. ต้องใส่ข้อมูลให้ถูกต้อง:
    • ข้อมูลทั้งหมดต้องตรงกับเอกสารที่ใช้ยืนยัน
    • การใส่ข้อมูลไม่ตรงกันอาจนำไปสู่การปฏิเสธการยืนยันตัวตน
  3. พิจารณาความเป็นส่วนตัว:
    • หากความเป็นส่วนตัวเป็นข้อกังวลหลัก อาจพิจารณาใช้ Exchange ที่ไม่ต้องทำ KYC เช่น Margex หรือ BloFin

คำแนะนำในการเลือก Exchange สำหรับเทรดคริปโตระยะสั้น

การเลือก Exchange ที่เหมาะสมสำหรับการเทรดระยะสั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและสไตล์การเทรดของแต่ละคน นี่คือคำแนะนำสำหรับสถานการณ์ต่างๆ:

สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการค่าธรรมเนียมต่ำที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงสุด (ไม่ต้องทำ KYC)สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเลเวอเรจสูงสำหรับผู้ที่ต้องการความหลากหลายของเหรียญและคู่เทรดสำหรับมือใหม่ที่ต้องการอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ Copy Trading

สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการค่าธรรมเนียมต่ำที่สุด

KCEX เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ด้วยค่าธรรมเนียมการเทรดสปอต 0% ทั้ง maker และ taker และค่าธรรมเนียมฟิวเจอร์สที่ต่ำมาก (0%/0.01-0.02%) สำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นสปอต WEEX ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ด้วยค่าธรรมเนียม 0% สำหรับ maker

สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงสุด (ไม่ต้องทำ KYC)

Margex และ BloFin เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากไม่ต้องทำ KYC แม้แต่สำหรับการถอนเงินในจำนวนมาก WEEX ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่มีข้อจำกัดในการถอนเงินเมื่อไม่ได้ทำ KYC

สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเลเวอเรจสูง

WEEX เสนอเลเวอเรจสูงสุดที่ 200x เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย ตามมาด้วย BloFin (150x), Bitunix (125x) และ Margex หรือ KCEX (100x) อย่างไรก็ตาม การใช้เลเวอเรจสูงมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน

สำหรับผู้ที่ต้องการความหลากหลายของเหรียญและคู่เทรด

WEEX เป็นผู้นำในด้านนี้ รองรับเหรียนมากกว่า 600 รายการและมากกว่า 1,500 คู่เทรด ตามมาด้วย BloFin ที่มีสัญญา perpetual มากกว่า 480 คู่ และ Bitunix ที่มีคริปโตมากกว่า 300 รายการ

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย

Margex ได้รับการออกแบบมาเพื่อมือใหม่โดยเฉพาะ มีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและเข้าใจง่าย Bitunix ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีด้วยการบูรณาการกับ TradingView ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้

สำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด

BloFin มีความร่วมมือกับ Fireblocks และ Chainalysis เพื่อความปลอดภัยสูงสุด Bitunix มีกองทุนประกันมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ และ WEEX มีกองทุนคุ้มครอง 1,000 BTC อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาประวัติความปลอดภัยของแต่ละ Exchange ด้วย

สำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ Copy Trading

Margex, WEEX และ BloFin ต่างก็มีฟีเจอร์ Copy Trading ที่ช่วยให้คุณสามารถทำตามกลยุทธ์ของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้โดยอัตโนมัติ นี่เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ไม่มีเวลาในการวิเคราะห์ตลาด

สรุปส่งท้าย

สรุปแล้ว สำหรับคำถามที่ว่า “คริปโต เล่นยังไง” ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป การเริ่มต้นลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีเป็นการเปิดประตูสู่โลกการเงินดิจิทัลที่น่าตื่นเต้น โดยคุณสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยเงินลงทุนเพียงไม่กี่ร้อยบาท ความรู้พื้นฐานเรื่องบล็อกเชน และการเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับตัวคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย ค่าธรรมเนียม หรือความหลากหลายของเหรียญ เป็นต้น

แม้ตลาดคริปโตจะมีความผันผวนสูง แต่ด้วยการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน การกระจายความเสี่ยง และการเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม คุณก็สามารถเริ่มต้นผจญภัยในโลกคริปโตได้อย่างมั่นใจ ที่สำคัญ อย่าลืมลงทุนเฉพาะเงินที่คุณพร้อมจะสูญเสีย และเรียนรู้จากประสบการณ์ไปพร้อมกับการเติบโตของตลาดที่น่าจับตามองนี้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ คริปโต เล่นยังไง

บิทคอยน์ กับ คริปโต ต่างกันยังไง?

ลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงอะไรบ้าง?

ควรเลือก Exchange คริปโตแบบไหนดี?

จำเป็นต้องมี Wallet คริปโตไหม และเลือกใช้อะไรดี?

การเทรดคริปโตระยะสั้นเหมาะกับใคร?

ควรเริ่มต้นลงทุนในคริปโตด้วยเงินจำนวนเท่าไหร่?

คริปโต เล่นยังไงให้ได้กำไรในระยะยาว?

By Kritsana Thongsuk

นักเขียนสายคริปโตที่มีประสบการณ์ในวงการบล็อกเชนและการเงินดิจิทัลมากกว่า 7 ปี เชี่ยวชาญในการนำเสนอข่าวสาร การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และให้ความรู้เกี่ยวกับ Cryptocurrency โดดเด่นในการอธิบายเนื้อหาคริปโตที่ซับซ้อนให้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ตั้งแต่นักลงทุนมือใหม่ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญในวงการคริปโต ทำให้เขาเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลคริปโตที่ได้รับความไว้วางใจในประเทศไทย