เป็นที่รู้กันว่า Solana ($SOL) เผชิญปัญหาความแออัดของเครือข่ายมานาน และดูเหมือนโครงการใหม่อย่าง Solaxy ($SOLX) จะเห็นจุดบกพร่องตรงนี้ นักลงทุนได้เวลาจับตามองเวอร์ชันอัปเกรดของเครือข่ายดังกล่าวผ่านโซลูชัน Layer-2 เร็วๆ นี้!
ในโลกของคริปโตที่เต็มไปด้วย Layer-2 มากมาย หลายโครงการใหม่มักเดินตามเส้นทางเดิมๆ เช่นการก็อบปี้ Ethereum ($ETH) แก้ปัญหาค่าธรรมเนียมที่สูง และใส่โลโก้ใหม่เข้าไป
แต่ SOL ไม่ใช่ Ethereum และไม่เคยต้องการการแก้ไขตั้งแต่แรก
SOL สามารถประมวลผลธุรกรรมได้หลายพันรายการต่อวินาทีอยู่แล้ว ดังนั้นความท้าทายจริงๆ ของมันไม่ใช่เรื่องของความเร็วหรือค่าธรรมเนียมที่สูง แต่เป็นการจัดการปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อต้องขยายเครือข่าย และนี่คือจุดที่ Solaxy เล็งเห็น
Solaxy ไม่ใช่ Layer-2 ทั่วไปที่ทำหน้าที่เหมือนแพทช์แก้ไขระบบที่มีปัญหา แต่เป็น Layer-2 ตัวแรกที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับโครงสร้างของ SOL โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความจุและประสิทธิภาพโดยไม่ลดทอนความเร็วและยังมีค่าธรรมเนียมต่ำ ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Solana
สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นในตลาดอย่างชัดเจน เมื่อ Solaxy ระดมทุนในช่วง presale ทะลุ $32 ล้านไปแล้ว โดยตัวเลขนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากแตะ $31 ล้าน ถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจริงๆ สำคัญกว่าการรีไซเคิลไอเดียเดิม
ในโลกที่ Layer-2 ส่วนใหญ่เป็นแค่การปะปัญหาของ Ethereum นั้น Solaxy เปรียบเสมือนเครื่องยนต์เสริมให้จรวดที่กำลังทะยานอยู่แล้วอย่าง SOL มุ่งสู่ยุคใหม่แห่งการเติบโตแบบไร้ขีดจำกัด
ทำไมปัญหาการเลียนแบบใน Layer-2 ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
ปัจจุบัน ระบบนิเวศของ Ethereum มี Layer-2 มากกว่า 70 โครงการแล้ว รวมถึงชื่อที่เราคุ้นเคย อย่าง Arbitrum, Optimism, zkSync และ Polygon zkEVM โดยยังมีอีกหลายโครงการที่กำลังพัฒนาอยู่ โครงการเหล่านี้รวมกันมีมูลค่ารวมที่ถูกล็อกไว้ (Total Value Locked หรือ TVL) มากกว่า $3 หมื่นล้าน

แม้ภาพรวมจะเติบโตอย่างน่าประทับใจ แต่ Layer-2 ส่วนใหญ่ยังยึดตามพิมพ์เดิมๆ นั่นคือการสืบทอดโครงสร้างของ Ethereum แก้ปัญหาด้านการขยายตัว และแย่งชิงกลุ่มผู้ใช้งานชุดเดิม
ผลลัพธ์คือการแข่งขันในตลาดที่แออัด ซึ่งให้แค่การพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป มากกว่านวัตกรรมที่สามารถพลิกเกมได้จริงๆ
นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไม Anatoly Yakovenko ผู้ก่อตั้ง Solana ถึงตั้งคำถามถึงความจำเป็นของ Layer-2 เพราะเขาเชื่อว่าบล็อกเชน Layer-1 ที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดี ย่อมสามารถทำงานได้เร็วกว่า ถูกกว่า และปลอดภัยกว่า
Yakovenko ชี้ให้เห็นว่า Layer-2 เพิ่มความซับซ้อน เช่น การพิสูจน์การฉ้อโกง (Fraud Proofs) และการอัปเกรด Multisignature ซึ่งอาจส่งผลต่อทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัย
Yakovenko เน้นย้ำว่า Layer-1 ควรรับภาระการใช้งานในระดับโลกได้ด้วยตัวเอง โดยเขาชี้ว่า “8 พันล้านคน × 3 ธุรกรรมต่อวัน” คิดเป็นความเร็วต่ำกว่า 300,000 TPS ซึ่งเขาเชื่อว่าเทคโนโลยีปัจจุบันรองรับได้สบาย
ตรงกันข้าม Ethereum กลับยอมรับว่า Layer-2 เป็นสิ่งจำเป็น โดย Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้ง Ethereum ชี้ว่า Layer-2 คือทางเลือกเดียวที่ปลอดภัยในการขยายขนาดเครือข่ายโดยไม่กระทบคุณสมบัติกระจายศูนย์
เพราะด้วยข้อจำกัดเชิงโครงสร้างของ Ethereum เอง การไม่มี Layer-2 จะทำให้รับมือกับการใช้งานในวงกว้างได้ยาก ในขณะที่ SOL ถูกออกแบบมาตั้งแต่ต้นเพื่อรองรับปริมาณธุรกรรมสูงได้โดยตรง
Scaling Ethereum L1 and L2s in 2025 and beyondhttps://t.co/T36dnaEYXj
— vitalik.eth (@VitalikButerin) January 24, 2025
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ SOL เองก็ยังเผชิญกับปัญหาในช่วงที่เครือข่ายมีความต้องการสูงอยู่ เช่น การติดขัดที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการใช้งานมากเกินไป ซึ่งบางครั้งก็เป็นอุปสรรคต่อการไล่ตาม Ethereum ในฐานะ “Ethereum Killer” หรือผู้ที่จะมาโค่นอีเธอเรียม
นี่คือจุดที่ Solaxy เข้ามามีบทบาท ไม่ใช่ในฐานะเครื่องมือเสริมสำหรับระบบที่ล้มเหลว แต่ในฐานะ Layer ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Solana ในช่วงที่มีความต้องการสูง โดยยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ของ Yakovenko อยู่
Solaxy: Layer-2 แรกที่จริงใจสำหรับ Solana
Solaxy ไม่ใช่ Layer-2 ธรรมดา แต่มันคือเลเยอร์ใหม่ที่ถูกสร้างมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพให้กับระบบนิเวศของ Solana โดยเฉพาะ
ในขณะที่ Layer2 ของเครือข่ายอื่นเป็นแค่โครงสร้างชั่วคราวที่ยึดติดอยู่กับระบบเก่า Solaxy ถูกออกแบบมาเพื่อขยายขีดความสามารถของ SOL โดยไม่ลดทอนความเร็ว ความคุ้มค่า หรือประสบการณ์ของผู้ใช้งาน
แทนที่จะเน้นแก้ปัญหาความล่าช้าหรือค่าธรรมเนียมแพง (ซึ่ง SOL ได้จัดการไปแล้ว) Solaxy ได้โฟกัสที่การเพิ่มความทนทานให้กับเครือข่ายในช่วงที่มีการใช้งานสูง
ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวโทเคนที่กำลังฮิต เช่น Official Trump ($TRUMP) อีเวนต์เกมใหญ่ หรือธุรกรรม DeFi ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว Solaxy ก็สามารถช่วยให้ Solana ยังคงทำงานได้อย่างลื่นไหล
Solaxy ยังคงยึดมั่นในแนวทางของ SOL โดยมอบ:
- ความเร็วในการยืนยันธุรกรรมที่สม่ำเสมอ แม้ในช่วงที่มีความต้องการสูง
- ค่าธรรมเนียมที่ต่ำและคาดการณ์ได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน
- การอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่รบกวนประสบการณ์การใช้งาน
ในโลกที่บล็อกเชนจำนวนมากยังคงติดอยู่ในข้อจำกัดของประสิทธิภาพนั้น Solaxy สามารถทำให้ SOL พร้อมที่จะก้าวไปสู่ยุคถัดไปของ Web3 ด้วยการเพิ่มศักยภาพ ไม่ใช่การแก้ไขข้อบกพร่อง
Curiosity isn't always a good thing…
But $SOLX gets it right.
Speed ✅
Security ✅
Innovation ✅https://t.co/mdaTX9aVVx pic.twitter.com/DGmKQL3vud— SOLAXY (@SOLAXYTOKEN) April 6, 2025
Solaxy และเป้าหมายถัดไปที่ $33M
ตอนนี้ตลาดคริปโตกำลังส่งสัญญาณการกลับมาของตลาดกระทิง ซึ่ง Bitcoin กำลังทดสอบจุดสูงสุดอีกครั้ง ในขณะที่ SOL มีปริมาณการซื้อขายที่พุ่งสูงขึ้น และ Altcoins ต่างก็กำลังฟื้นตัว
เป็นธรรมดาที่ในแต่ละวัฏจักร โครงการที่เน้นโครงสร้างพื้นฐานที่แท้จริงมักจะได้เป็นผู้นำเสมอ ทั้ง Layer-1, โซลูชันการขยายตัว และโครงสร้างพื้นฐานของ Web3
ความสำเร็จของ Solaxy ในการระดมทุน $32 ล้าน ไม่ใช่แค่เรื่องของความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่ามีเงินทุนจริงไหลเข้าสู่โครงการที่สร้างมาเพื่ออยู่รอดในระยะยาว
หากคุณพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาครั้งต่อไปของ SOL นี่อาจเป็นโอกาสของคุณ
เข้าร่วมการขาย Presale ของ Solaxy ได้ที่เว็บไซต์ทางการ เพียงเชื่อมต่อวอลเล็ตของคุณ
เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด เราแนะนำให้ใช้ Best Wallet เพราะกระเป๋าคริปโตนี้จะช่วยให้คุณสามารถดูโทเค็น $SOLX ของคุณได้แม้ก่อนเปิดตัว และยังรองรับการใช้งานข้ามเครือข่ายระหว่าง Ethereum และ Solana ได้อย่างราบรื่น
ราคา $SOLX ในตอนนี้อยู่ที่ $0.001708 และจะปรับขึ้นทีละนิดในแต่ละสเตจของพรีเซล
ติดตามชุมชน Solaxy ได้บน X และ Telegram เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารล่าสุด
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Solaxy และเหตุผลที่นักพัฒนาและนักลงทุนต่างสนับสนุนโครงการนี้