ในช่วงต้นปี 2025 วงการคริปโตกำลังจับตามองปรากฏการณ์สำคัญ เมื่อ Ethereum บล็อกเชนอัจฉริยะอันดับหนึ่งของโลกกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ ข้อมูลล่าสุดจากบริษัทวิเคราะห์ Santiment ระบุว่า ค่าธรรมเนียมบน Ethereum ได้ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากกิจกรรมบนเครือข่ายลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของ DeFi ขณะที่คู่แข่งอย่าง Solana กลับเติบโตอย่างก้าวกระโดดในหลายๆ มิติ
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์เริ่มตั้งคำถามถึงอนาคตระยะยาวของ Ethereum หลังจาก Charles Hoskinson ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum และผู้ก่อตั้ง Cardano ได้ออกมาให้ความเห็นว่า Ethereum อาจจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยภายในอีก 10-15 ปีข้างหน้า เนื่องจากมีปัญหาโครงสร้างพื้นฐานหลายประการ
Solana ทะยานขึ้นในทุกมิติ ประกาศศักดาท้าชน Ethereum
ปี 2024 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อมีรายงานว่า Solana ดึงดูดนักพัฒนาใหม่ได้มากกว่า Ethereum เป็นครั้งแรก โดยมีนักพัฒนาใหม่เข้าร่วมระบบนิเวศ Solana ถึง 7,625 คน เทียบกับ Ethereum ที่มีเพียง 6,456 คน แม้ Ethereum ยังนำในแง่จำนวนนักพัฒนารวม แต่ตัวเลขนี้บ่งบอกว่าการครองตำแหน่งผู้นำของ Ethereum กำลังถูกท้าทายอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ Solana ยังมีความโดดเด่นในตลาด Stablecoin โดยมูลค่าตลาดของ Stablecoin บน Solana พุ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ประมาณ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะ USDC ที่เติบโตขึ้นถึง 146% นับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา
ด้านการ Staking เครือข่าย Solana ก็แซงหน้า Ethereum แล้ว โดยมีมูลค่า SOL ที่ล็อกในระบบ Staking ถึง 53.9 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ ETH ที่มี 53.7 ล้านดอลลาร์ ส่วนในตลาดเหรียญมีม Solana ครองความเป็นผู้นำผ่านแพลตฟอร์ม Pump.Fun ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ราคาของ Solana ก็สะท้อนการเติบโตนี้ชัดเจน โดยในช่วงเดือนที่ผ่านมา SOL เพิ่มขึ้น 11% และในรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นถึง 16% ขณะที่ ETH กลับมีผลตอบแทนรายเดือนติดลบ 10% แม้จะเพิ่มขึ้น 13% ในรายสัปดาห์ก็ตาม
Solaxy – โซลูชันใหม่ที่อาจช่วย Solana พลิกก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาด
ในขณะที่ Solana กำลังแซงหน้า Ethereum ในหลายด้าน แพลตฟอร์ม Layer 2 อย่าง Solaxy (SOLX) กำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยเสริมจุดแข็งและแก้ไขจุดอ่อนของ Solana ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี Rollup ในการประมวลผลธุรกรรมนอกเชนหลัก ช่วยแก้ปัญหาความแออัดของเครือข่ายและการปรับขนาด
Solaxy ถูกออกแบบให้เป็นโทเค็นแบบ Multichain ที่ทำงานได้บนทั้ง Ethereum และ Solana ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของทั้งสองเครือข่าย โดยเฉพาะในตลาดเหรียญมีมที่ต้องการความเร็วในการทำธุรกรรม ซึ่งเป็นจุดที่ Solana มีความได้เปรียบเหนือ Ethereum อยู่แล้ว และ Solaxy จะช่วยเสริมจุดแข็งนี้ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
ในขณะที่ Ethereum ประสบปัญหาค่าธรรมเนียมและการแบ่งแยกระบบนิเวศจาก Layer 2 Solaxy กลับมุ่งสร้างระบบ Layer 2 ที่สมบูรณ์บน Solana พร้อมรองรับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์และการเชื่อมต่อหลายบล็อกเชน ซึ่งอาจเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้ Solana ยกระดับการแข่งขันกับ Ethereum ได้ในระยะยาว
โทเค็น SOLX ของโปรเจกต์กำลังเปิดระดมทุนในช่วงพรีเซล ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ผู้ถือโทเค็นสามารถนำไป Staking เพื่อรับผลตอบแทนแบบ Passive Income ได้ทันที นอกจากนี้ โทเค็นดังกล่าวได้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจาก Coinsult เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า Ethereum จะหายไปจากวงการ เนื่องจาก ETH ได้เข้าสู่โลกการเงินกระแสหลักผ่าน spot ETF หากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติการ Staking ใน ETF ในอนาคต ก็อาจเพิ่มกระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ Ethereum ได้อย่างมีนัยสำคัญ
