ICO (การเสนอขายเหรียญเริ่มต้น) ของ BTC Bull Token ($BTCBULL) ได้สร้างความฮือฮาด้วยยอดขายที่ทะลุ $3.7 ล้านในวันจันทร์ ขณะเดียวกัน Bitcoin ก็กลับมาฟื้นตัวแตะ $82,000 อีกครั้ง
ในช่วงเช้าของวันจันทร์ตามเวลาการซื้อขายในเอเชีย ราคาบิทคอยน์ลงไปที่ $82,000 ก่อนจะดีดตัวขึ้นสูงสุดที่ $83,700 และคงตัวอยู่ที่ประมาณ $82,000 ในขณะที่เขียนบทความนี้
นักวิเคราะห์หลายคนยังคงมองในแง่ดี ว่าเหรียญคริปโตนี้อาจมีโอกาสทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาล (ATH) ที่ $109,000 ในปี 2025 และอาจทะยานไปถึง $200,000 หรือมากกว่านั้น
หากเป็นเช่นนั้น นักลงทุนที่เข้าร่วมโครงการ BTC Bull Token ตั้งแต่ช่วงแรกอาจได้รับผลตอบแทนที่น่าทึ่ง
โครงการเหรียญใหม่นี้โดดเด่นในฐานะเหรียญมีมเดียวที่ให้ผลตอบแทนเป็น Bitcoin แบบพาสซีฟแก่ผู้ถือครอง
$BTCBULL แตกต่างจากเหรียญมีมทั่วไป โดยเปิดโอกาสให้นักลงทุนสะสมบิทคอยน์ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาความผันผวนของราคาโดยตรง
รอบการขาย presale ยังคงดำเนินต่อไป ในขณะที่ราคาขายจะปรับขึ้นทีละเล็กน้อยในแต่ละสเตจ หมายความว่าผู้ที่เข้าร่วมโครงการก่อนจะได้เหรียญมาในราคาถูกกว่า
ทองคำนำหน้าบิทคอยน์ (ชั่วคราว)?
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin มีความผันผวนอย่างมาก โดยลดลงต่ำสุดที่ $76,000 ก่อนจะกลับขึ้นไปเกิน $80,000 แต่ยังมีการสวิงกลับลงมาต่ำกว่าระดับดังกล่าวหลายครั้ง
ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวมอยู่ในภาวะไม่แน่นอน นับตั้งแต่แตะจุดสูงสุดในเดือนธันวาคม 2024
ความกังวลนี้เกิดจากเหตุการณ์สำคัญ เช่น การฉ้อโกงครั้งใหญ่ในวงการคริปโต การแฮ็กครั้งใหญ่ที่สุดของแพลตฟอร์มซื้อขาย และการประกาศคลุมเครือเกี่ยวกับกองทุนสำรองบิทคอยน์ของสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกัน ตลาดการเงินแบบดั้งเดิมก็เผชิญแรงกดดันจากท่าทีเข้มงวดของ Federal Reserve รวมถึงการขู่เก็บภาษีของประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับความถดถอยทางเศรษฐกิจ
ท่ามกลางสถานการณ์เหล่านี้ ทองคำได้กลับมามีสถานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 12.68% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ในขณะที่บิทคอยน์กลับลดลง 21.29%
นอกจากนี้ กองทุน ETF ของทองคำยังมีเงินไหลเข้าสูงสุดในรอบเดือนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ขณะที่กองทุน Bitcoin ETF กลับมีเงินไหลออกถึง $3.8 พันล้านนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2024
อย่างไรก็ตาม หาก Federal Reserve ตัดสินใจเปลี่ยนนโยบายการเงินเพื่อตอบรับสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย การลดอัตราดอกเบี้ยอาจทำให้การกู้ยืมเงินน่าสนใจขึ้นและขยายปริมาณเงิน M2 ซึ่งในอดีตมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของราคาบิทคอยน์
หากสถานการณ์นี้เกิดขึ้น การตกต่ำของตลาดในปัจจุบันอาจเป็นเพียงสภาวะชั่วคราว และ BTC อาจอยู่ในจุดที่ราคาพร้อมจะดีดตัวขึ้น
ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์หลายรายที่มองว่าปี 2025 อาจเป็นปีแห่งการพุ่งทะยานของบิทคอยน์ โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ halving ครั้งล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา
Bitcoin จะแตะ $200,000 ในปี 2025 ได้จริงหรือ?
หนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงซึ่งคาดการณ์ว่า Bitcoin อาจแตะ $200,000 ในปีนี้ คือ Anthony Scaramucci ผู้ก่อตั้ง SkyBridge Capital
The trajectory of crypto is clear, and @SkyBridge’s conviction in digital assets is stronger than ever. I predict that Bitcoin will hit $200k in 2025. 🔮🚀
My contribution to @FortuneMagazine’s annual Crystal Ball predictions 🧵👇
— Anthony Scaramucci (@Scaramucci) January 2, 2025
Scaramucci ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารทำเนียบขาวในสมัยแรกของ Trump เชื่อว่านโยบายเศรษฐกิจและการยอมรับคริปโตของรัฐบาลเป็นปัจจัยผลักดันสำคัญ
เขายังประเมินว่า Bitcoin ในปัจจุบันมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงประมาณ 20% พร้อมทั้งชี้ว่าทุกครั้งที่ BTC ดิ่งลง 30% ก็มักจะมีการฟื้นตัวกลับมาอย่างแข็งแกร่ง
ในอดีต ปีหลังจากเหตุการณ์ halving มักจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับการเติบโตของบิทคอยน์
ยกตัวอย่างเช่น หลังจาก Bitcoin halving ในปี 2020 ราคาเหรียญได้พุ่งขึ้นจาก $8,570 สู่ $63,500 ภายในเวลา 18 เดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 640%
เมื่อเปรียบเทียบกับราคาก่อน halving ล่าสุดที่ $63,842 สถิติ ATH ก่อนหน้าคิดเป็นการเพิ่มขึ้นเพียง 70%
หากบิทคอยน์มีการเติบโต 640% เหมือนในรอบก่อน ราคาอาจทะยานไปถึง $473,000 ซึ่งทำให้เป้าหมาย $200,000 ของ Scaramucci ดูเป็นตัวเลขที่เป็นไปได้ไม่ยาก
สำหรับผู้ถือ $BTCBULL เหรียญนี้อาจให้ผลตอบแทนที่ดีหากบิทคอยน์ทะยานขึ้นตามเป้าหมาย ด้วยระบบปลดล็อกรางวัลบิทคอยน์ทุกครั้งที่ราคาถึงเป้าหมาย นั่นหมายความว่านักลงทุนสามารถสะสมบิทคอยน์ได้โดยไม่ต้องลงทุนในอุปกรณ์ขุด
BTC จะมีโอกาสแตะ $450,000 ในปีนี้ได้หรือไม่?
การถือครอง $BTCBULL ในช่วงราคาขายล่วงหน้านี้ อาจเป็นกลยุทธ์ที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสะสมรางวัล Bitcoin ซึ่งจะปลดล็อกเมื่อ BTC แตะเป้าหมายราคาที่กำหนด
โดยเป้าหมายแรกอยู่ที่ $150,000 ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง 134% จากราคาก่อน halving
เมื่อถึงเป้าหมาย นักลงทุน $BTCBULL จะได้รับรางวัล airdrop เป็นบิทคอยน์จริง ๆ โดยปริมาณรางวัลขึ้นอยู่กับจำนวนเหรียญที่ถือครอง
หลังจากนั้น จะมีเป้าหมายใหม่ทุก ๆ $50,000 เช่น $200K, $250K และต่อเนื่องไป หากราคาพุ่งขึ้นถึง $450K ภายในปีนี้ นักลงทุนอาจปลดล็อกรางวัล Bitcoin ได้ถึง 6 ครั้ง
นี่คือเหตุผลที่การสะสม $BTCBULL ในช่วงราคาขายล่วงหน้าอาจเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มผลตอบแทน Bitcoin ในอนาคต
นอกจากนี้ $BTCBULL ยังออกแบบมาเพื่อการถือครองระยะยาว โดยแตกต่างจากเหรียญมีมทั่วไปที่เน้นการเก็งกำไร
ด้วยระบบลดจำนวนเหรียญในตลาดทุกครั้งที่ Bitcoin แตะเป้าหมายราคา เริ่มจาก $125,000 และลดลงในช่วง $50,000 ต่อครั้ง สิ่งนี้อาจส่งผลให้มูลค่าเหรียญเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ช่วง ICO เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุน
จุดเริ่มต้นคือกุญแจสำคัญ
แม้ฟีเจอร์สะสมบิทคอยน์จะเป็นจุดเด่นของ $BTCBULL แต่ฟีเจอร์นี้อาจสงวนไว้สำหรับผู้ที่เข้าร่วมในช่วงขายล่วงหน้าเท่านั้น เนื่องจากทีมพัฒนาให้ความสำคัญกับผู้สนับสนุนในระยะแรกเป็นพิเศษ
ดังนั้น การซื้อ $BTCBULL ตอนนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญสำหรับผู้ที่มองหาวิธีสะสม Bitcoin แบบพิเศษนี้ โดยสามารถซื้อ $BTCBULL ได้ผ่าน ETH, USDT หรือบัตรธนาคารบนเว็บไซต์ Official
เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้ใช้ Best Wallet ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อกับระบบรางวัลของ $BTCBULL โดยตรง
เมื่อถือครอง $BTCBULL ใน Best Wallet ผู้ใช้งานจะได้รับ Bitcoin airdrop เข้ากระเป๋าบิทคอยน์ภายในแอปโดยอัตโนมัติ
ดาวน์โหลด Best Wallet ได้ทั้งบน Google Play และ Apple App Store
ติดตามข่าวสารชุมชนได้บน X และ Telegram เพื่อไม่พลาดอัปเดตล่าสุด
