หลังจากการโจรกรรม Ethereum ครั้งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ Lazarus Group บนแพลตฟอร์ม Bybit ประธานเจ้าหน้าที่บริหารได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการ “Rollback” บล็อกเชน Ethereum เพื่อยกเลิกการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งจุดประกายให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางในชุมชนคริปโต
Bybit ยืนยันจะทำทุกวิถีทางเพื่อนำเงินที่ถูกขโมยกลับคืนมา
ตามรายงานจาก CoinTelegraph เบ็น โจว (Ben Zhou) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Bybit กล่าวว่าจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อนำเงินที่ถูกขโมยกลับคืนมา รวมถึงการให้รางวัลแก่ผู้ที่ช่วยเหลือ การทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และการพูดคุยกับ Ethereum Foundation เพื่อหาทางแก้ไขที่เป็นไปได้
เขายังระบุอีกว่าการตัดสินใจดังกล่าวควรมาจากการโหวตของชุมชน เพื่อให้สอดคล้องกับจิตวิญญาณของบล็อกเชน ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ DAO Hack ในปี 2016 ที่นำไปสู่การ Hard Fork ของ Ethereum
การ “Rollback” Ethereum: ทางออกสุดท้ายหรือจุดเริ่มต้นของปัญหา?
ความคิดเห็นของเบ็น โจวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการ “Rollback” บล็อกเชน Ethereum ได้สร้างความกังวลในกลุ่มผู้ที่เชื่อมั่นในหลักการกระจายอำนาจและความไม่สามารถแก้ไขได้ของบล็อกเชน
การ “Rollback” จะเป็นการเปลี่ยนแปลงประวัติการทำธุรกรรม ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของ Ethereum ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ผู้สนับสนุนแนวคิดนี้มองว่าเป็นการกระทำที่จำเป็นเพื่อปกป้องผู้ใช้งานและป้องกันไม่ให้กลุ่มอาชญากรได้รับประโยชน์จากกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
การตัดสินใจว่าจะ “Rollback” บล็อกเชนหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องพิจารณาถึงผลกระทบในหลาย ๆ ด้าน
การตัดสินใจดังกล่าวไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อ Ethereum เท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโตโดยรวมด้วย
หาก Ethereum ตัดสินใจ “Rollback” อาจเป็นสัญญาณว่าบล็อกเชนอื่น ๆ ก็อาจทำเช่นเดียวกันในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีบล็อกเชนลดลง
มูลค่าความเสียหายทะลุ 1,400 ล้านดอลลาร์
Lazarus Group ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือกำลังถือครอง Ethereum ประมาณ 489,395 ETH ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านดอลลาร์ และ 15,000 Mantle Restaked ETH (cmETH) ในกระเป๋าคริปโต 54 ใบ
การเคลื่อนย้ายเงินจำนวนมหาศาลนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการโจรกรรมและการฟอกเงินของ Lazarus Group ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
Bybit ได้ประกาศโครงการให้รางวัล 10% หรือสูงสุดถึง 140 ล้านดอลลาร์สำหรับผู้ที่สามารถช่วยในการกู้คืนเงินที่ถูกขโมยได้
ความเคลื่อนไหวนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Bybit ในการติดตามและนำเงินที่ถูกขโมยกลับคืนมา และยังเป็นการส่งสัญญาณไปยังกลุ่มแฮ็กเกอร์ว่าการโจรกรรมคริปโตจะไม่ได้รับการยอมรับ
แนวทางป้องกันการโจรกรรมสำหรับผู้ใช้งาน
เหตุการณ์การโจรกรรมครั้งใหญ่ที่ Bybit ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยในโลกคริปโต แม้ว่า Bybit จะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด แต่ก็ยังตกเป็นเป้าหมายของการโจมตี แสดงให้เห็นว่าไม่มีระบบใดที่ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบ การลงทุนในเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย และการตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกแพลตฟอร์มคริปโต
นอกจากการป้องกันความปลอดภัยของผู้ให้บริการแล้ว ผู้ใช้งานควรระมัดระวังเช่นเดียวกัน ปกป้องคริปโตเคอร์เรนซีของคุณด้วย BestWallet กระเป๋าคริปโตที่ใช้งานง่าย ระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง รองรับหลากหลายเชน และฟังก์ชันหลากหลาย
ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ดาวน์โหลดฟรีวันนี้!