วิกฤต Bybit: ยอดถอนทะลุ 350,000 ครั้ง หลังถูกแฮก ฉุดราคา ETH ดิ่ง

วิกฤต Bybit: ยอดถอนทะลุ 350,000 ครั้ง หลังถูกแฮก ฉุดราคา ETH ดิ่ง

เหตุการณ์การแฮก Exchange ขนาดใหญ่อย่าง Bybit เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2024 ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับวงการ Crypto อย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Ben Zhou CEO ของ Bybit ได้ออกมาเปิดเผยว่าบริษัทต้องเผชิญกับคำขอถอนเงินมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 350,000 ครั้งภายในเวลาเพียง 10 ชั่วโมง ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคา ETH ที่ร่วงลงถึง 4.5% ในเวลาอันรวดเร็ว

วิเคราะห์ผลกระทบต่อตลาด Crypto และราคา ETH

การโจมตีครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาด Crypto โดยเฉพาะในส่วนของระบบนิเวศของ Ethereum โดยพบว่ามีการเทขาย Lido Staked Ether (stETH) มูลค่ามหาศาลถึง 200 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 30 นาทีหลังจากข่าวถูกเผยแพร่ ส่งผลให้ราคา ETH ดิ่งลงอย่างรวดเร็วและยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 2,650 ดอลลาร์

ราคา ETH ดิ่งแรงหลังมีข่าวว่า Bybit ถูกแฮก ที่มา Cointelegraph/TradingView
ราคา ETH ดิ่งแรงหลังมีข่าวว่า Bybit ถูกแฮก ที่มา Cointelegraph/TradingView

เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของตลาด Crypto ที่ยังคงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากข่าวด้านลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดขึ้นกับ Exchange ขนาดใหญ่อย่าง Bybit ที่มีปริมาณการซื้อขายและจำนวนผู้ใช้งานจำนวนมาก การตอบสนองของตลาดที่รวดเร็วและรุนแรงนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของ Exchange ในการรักษาเสถียรภาพของราคาสินทรัพย์ดิจิทัล

รายละเอียดการแฮกและการรับมือของ Bybit

Ben Zhou ได้เปิดเผยรายละเอียดของการโจมตีว่าเกิดจากการที่แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง Ethereum multisig Cold Wallet ของ Bybit และโอนเงินไปยัง Warm Wallet โดยใช้วิธีการที่แยบยล ด้วยการแสดง UI ปลอมที่มีที่อยู่และ URL ที่ถูกต้อง แต่แท้จริงแล้วได้เปลี่ยนแปลง Smart Contract Logic ของ ETH Cold Wallet ทำให้แฮกเกอร์สามารถควบคุมและโอนเงิน ETH ทั้งหมดไปยังที่อยู่ที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้

อย่างไรก็ตาม Bybit ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรับมือกับวิกฤตครั้งนี้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถดำเนินการตามคำขอถอนเงินได้ถึง 99.994% ของคำขอทั้งหมด นอกจากนี้ Zhou ยังยืนยันว่า Cold Wallet อื่นๆ ยังคงปลอดภัยและระบบการถอนเงินยังคงทำงานได้ตามปกติ ทีมงานทั้งหมดได้ทำงานตลอดทั้งคืนเพื่อดำเนินการและตอบคำถามของลูกค้า

บทเรียนสำคัญด้านความปลอดภัยในยุค Crypto

ในปี 2024 การโจมตีทางไซเบอร์ในวงการ Crypto ได้สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาลถึง 2 พันล้านดอลลาร์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Bybit ในครั้งนี้จึงถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้เล่นในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยของ Cold Wallet และการใช้ระบบ multisig

สำหรับนักลงทุนรายย่อย การเลือกใช้ non-custodial wallet อย่างเช่น Best Wallet ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง เช่น การใช้ระบบยืนยันตัวตนแบบ 2FA การใช้ biometric authentication และการเก็บรักษา private keys อย่างปลอดภัย ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้ การกระจายความเสี่ยงโดยไม่เก็บสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดไว้ใน Exchange เพียงที่เดียวก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้ได้

By Kunlatida Piyasuk

นักเขียนและนักวิเคราะห์ในวงการคริปโตและบล็อกเชนที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในการติดตามและวิเคราะห์พัฒนาการของเทคโนโลยีดิจิทัลและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล และการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการตลาดคริปโตในเชิงกลยุทธ์ มีทักษะเฉพาะในการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อประเมินมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณในการคาดการณ์ทิศทางตลาดคริปโต ได้รับการยอมรับจากผู้อ่านและผู้เชี่ยวชาญในวงการคริปโตที่เคารพในความโปร่งใสและวิธีการนำเสนอข้อมูลที่เป็นกลางและมีความแม่นยำ มักจะเขียนบทความที่เจาะลึกเกี่ยวกับการพัฒนาของเทคโนโลยีบล็อกเชน แนวโน้มการลงทุนในคริปโต และการนำเสนอวิธีการจัดการพอร์ตการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

Leave a comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *