Ethereum ตกเป็นเหยื่อแฮก! Bybit สูญเสียเงินกว่า $1,400 ล้าน

https://x.com/benbybit/status/1892963530422505586

ข่าวร้ายสำหรับผู้ใช้งานคริปโต! กระดานเทรด Bybit ในสิงคโปร์ถูกแฮก

CEO ของ Bybit ยืนยันมีการแฮกเกิดขึ้นจริง

ตามรายงานจาก The Block เบ็น โจว (Ben Zhou) CEO ของ Bybit ยืนยันว่ามีการแฮกเกิดขึ้น และมีการประเมินเบื้องต้นว่า Bybit สูญเสีย Ethereum มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์รวมถึงเหรียญอื่น ๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ 

ผู้แฮกได้ทำการโอน Ethereum จากกระเป๋า Cold Wallet ของ Bybit ไปยังที่อยู่กระเป๋าที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ 

หลังจากได้ Ethereum ไปแล้ว แฮ็กเกอร์ได้ทำการแบ่งเงินที่ถูกขโมยออกเป็นกระเป๋าคริปโตจำนวนมาก รวมถึง stETH และ mETH กระจายไปยังที่อยู่ต่า งๆ โดยเริ่มต้นที่ 0x476 ซึ่งได้รับ Ethereum กว่า 400,000 ETH, stETH 90,000, cmETH 15,000 และ cETH 8,000 

จากนั้นจึงย้ายเงินส่วนใหญ่ไปยังที่อยู่อื่น (0xa4b2f) และทำการแลกเปลี่ยนผ่านแพลตฟอร์ม DEX ต่าง ๆ เช่น Uniswap, Paraswap และ KyberSwap

เขายืนยันว่า Hot และ Cold wallets อื่น ๆ ไม่ได้รับผลกระทบ มีเพียง Ethereum Wallets เท่านั้นที่โดนแฮก 

นอกจากนี้ เขายังยืนยันว่า Bybit ยังมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง และสามารถชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นได้แม้ว่าจะไม่สามารถกู้คืนเงินที่ถูกแฮกไปได้ทั้งหมดก็ตาม

ผลกระทบต่อตลาด: Ethereum และความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนจะสั่นคลอนแค่ไหน?

การสูญเสีย Ethereum จำนวนมหาศาลเช่นนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Ethereum ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับ 2 รองจาก Bitcoin 

เหตุการณ์นี้อาจทำให้เกิดแรงเทขายในระยะสั้น และนักลงทุนอาจหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า

อย่างไรก็ตาม การที่ Bybit ออกมายืนยันว่าบริษัทยังคงมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะชดเชยความเสียหาย อาจช่วยลดผลกระทบเชิงลบต่อตลาดได้บ้าง 

นอกจากนี้ การที่ Bybit เร่งดำเนินการสอบสวนและปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัย อาจช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนในระยะยาวได้

บทเรียนราคาแพง: 5 แนวทางป้องกันการโจรกรรมในโลกคริปโต

เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี และผู้ใช้งานทุกคน แนวทางป้องกันการโจรกรรมในโลกคริปโตที่ควรนำไปพิจารณา ดังนี้

  • เสริมสร้างระบบรักษาความปลอดภัย

แพลตฟอร์มซื้อขายควรลงทุนในเทคโนโลยีและบุคลากรด้านความปลอดภัย เพื่อตรวจจับและป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์

  • ตรวจสอบ Smart Contract อย่างละเอียด

ก่อนที่จะลงนามในธุรกรรมใด ๆ ผู้ใช้งานควรตรวจสอบ Smart Contract อย่างละเอียด เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงที่อาจเป็นอันตราย

  • กระจายความเสี่ยง

ไม่ควรเก็บคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ควรแบ่งเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลหลายแห่ง เช่น Best Wallet

  • ใช้ Cold Wallet

สำหรับการเก็บคริปโตเคอร์เรนซีระยะยาว ควรใช้กระเป๋าแบบ Cold Wallet ซึ่งไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และมีความปลอดภัยสูงกว่า

  • ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ และเรียนรู้วิธีป้องกันตัวเองจากกลโกงต่าง ๆ

Leave a comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *