13 เหรียญมีมน่าซื้อ พร้อมบทวิเคราะห์อัพเดท December 2024

จากการที่เหรียญมีมโครงการใหม่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างต่อเนื่องท่ามกลางตลาดขาขึ้นในปัจจุบัน ทำให้เป็นเรื่องยากที่นักลงทุนหน้าใหม่จะสามารถแยกระหว่างโครงการที่น่าเชื่อถือกับโครงการที่มีความเสี่ยงสูงที่มีโอกาสถูกหลอกลวงและสูญเสียเงินทุน ดังนั้นในบทความนี้ เราจะมาแนะนำเหรียญมีมที่น่าสนใจในปี 2024 จากการวิเคราะห์เชิงลึกและวิจัยผ่านการใช้งานจริง

รีวิว 13 เหรียญมีมที่น่าซื้อมากที่สุดใน December 2024

การมองหาเหรียญจากโครงการที่มีศักยภาพในการเติบโตที่โดดเด่น ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ของการลงทุนในเหรียญมีม โดยนักลงทุนสามารถพิจารณาความน่าเชื่อถือของโครงการแต่ละแห่งได้ผ่านปัจจัยหลายอย่าง โดยต่อไปนี้เราได้ทำการยกเอา 13 เหรียญมีมที่น่าสนใจพร้อมบทวิเคราะห์จากข้อมูลเบื้องต้น เพื่ออาจเป็นเครื่องมือและตัวเลือกให้กับผู้ที่สนใจลงทุน

1. Pepe Unchained ($PEPU) – เหรียญมีมใหม่ที่พัฒนาบน Ethereum Layer 2 พร้อมผลตอบแทนจากการ Staking ที่สูง

เหรียญ Pepe Unchained ถือเป็นเหรียญของโครงการที่ถูกต่อยอดจากเหรียญ Pepe the Frog ซึ่งเป็นเหรียญมีมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปีที่ผ่านมา

โดยโครงการมีเป้าหมายในการย้ายการทำธุรกรรมของตนเองไปยังบล็อกเชน Ethereum Layer-2 เพื่อให้ทำธุรกรรมได้เร็วขึ้นและค่าธรรมเนียมที่ถูกลง และจากความพยายามในการแก้ไขปัญหาจุดบกพร่องในข้อจำกัดต่างๆ ทำให้ทางโครงการมองว่าเหรียญ PEPU มีโอกาสที่จะทำราคาได้สูงกว่าเหรียญ Pepe

ปัจจุบันเหรียญ $PEPU ทำราคาซื้อขายอยู่ที่ 0.008 ดอลลาร์ ทั้งนี้นักลงทุนที่ซื้อเหรียญเป็นกลุ่มแรก จะสามารถทำการ Staking เหรียญเพื่อรับผลตอบแทนที่สูงถึง 17,610% ต่อปี โดยจะลดลงตามจำนวนการ Stake ที่เพิ่มขึ้น

โดย Pepe Unchained มีเป้าหมายในการคืนความยิ่งใหญ่ให้กับเหรียญมีมตระกูลกบอีกครั้ง โดยการพาโครงการให้กลายเป็นเหรียญมีมชั้นนำในตลาด จากการสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งประกอบกับการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ที่สนใจสามารถทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Pepe Unchained ได้ผ่าน whitepaper ของโครงการ หรือติดตามข่าวสารได้ผ่านทางแพลตฟอร์ม X

โทเค็นโนมิกส์ Pepe Unchained

2. Crypto All-Stars ($STARS) – เหรียญจากแพลตฟอร์มรวบรวมเหรียญมีมชั้นนำ สำหรับการ Staking ในที่เดียว

อันดับถัดไปคือ Crypto All-Stars ($STARS) ซึ่งเป็นโครงการเหรียญมีมที่บนเครือข่าย Ethereum ที่ได้รับความสนใจอย่างมากและสามารถระดมทุนไปได้แล้วกว่า 336,000 ดอลลาร์ ภายในช่วงเปิดตัวพรีเซลเพียงแค่วันเดียว จากจุดเด่นในฟีเจอร์ MemeVault ที่ช่วยดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง

โดย MemeVault เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำการ staking เหล่าเหรียญมีมชั้นนำในตลาดได้ภายในแพลตฟอร์มเดียว ไม่ว่าจะเป็น Dogecoin, Floki Inu, Pepe Coin, Based Brett และ Shiba Inu โดยจะได้รับผลตอบแทนเป็น $STARS ซึ่งเป็น Native Token ของทางโครงการ

ทั้งนี้ในปัจจุบัน Crypto All-Stars มีผลตอบแทนจากการ staking ต่อปีที่สูงถึง 5,466%  แต่จะลดลงตามจำนวนการ staking ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่เข้าซื้อเหรียญในกลุ่มแรกจะได้รับผลประโยชน์สูงสุด

จากฟีเจอร์ MemeVault ทำให้ $STARS เป็นโครงการมีมแห่งแรกที่มีการพัฒนาระบบ Staking ที่ยืดหยุ่นและเข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งยังผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน ERC-1155 ทำให้ไม่แปลกใจที่มันจะเป็นอีกหนึ่งเหรียญมีมมาใหม่ที่น่าซื้อในช่วงนี้ ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Crypto All-Stars ได้ผ่านทางแพลตฟอร์ม X หรือเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ของโครงการ

โทเค็นโนมิกส์ Crypto All-Stars

3. Flockerz ($FLOCK) – เหรียญมีมที่ให้รางวัลผ่านกลไก VotetoEarn

Flockerz ($FLOCK) เป็นเหรียญจากโครงการใหม่ ที่ให้มีเป้าหมายในการสร้างชุมชนที่แข็งแกร่ง ผ่านกลไก Vote-to-Earn ที่ให้สิทธิ์ผู้ถือครองเหรียญในการร่วมโหวตเพื่อกำหนดทิศทางภายในโครงการ โดยจะมอบรางวัลแก่ผู้ถือครองเหรียญ $FLOCK ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจภายในระบบนิเวศ

ทั้งนี้ทางโครงการได้มีการสร้าง FlockTopia ซึ่งทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มองค์กรแบบกระจายศูนย์ (DAO) ด้วยเป้าหมายในการเป็นระบบนิเวศแบบไร้ตัวกลาง เพื่อให้ผู้ใช้งานทุกคนมีในการกำหนดทิศทางในการพัฒนาโครงการ อย่างเช่นการโหวตเพื่อเผาโทเคน การขยายธุรกิจ การพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ การพัฒนาโครงการ และกลยุทธ์การตลาด โดยทุกอย่างจะถูกโหวตผ่านแพลตฟอร์ม DAO ของโครงการทั้งหมด

นอกจากนี้ Flockerz มีแผนที่จะนำตัวเองเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนทั้งในรูปแบบ CEX และ DEX ภายในทันทีหลังจากสิ้นสุดช่วงพรีเซล โดยได้สำรองเหรียญจำนวน 10% ของทั้งหมดไว้สำหรับการซื้อขายในตลาด เพื่อรองรับสภาพคล่องและความยืดหยุ่น

ทั้งนี้นอกจากจุดเด่นของกลไก Vote-to-Earn ที่มอบรางวัลให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมแล้ว Flockerz ยังได้เปิดให้ผู้เข้าซื้อเหรียญในช่วงพรีเซลสามารถทำการ Staking เหรียญได้ด้วยผลตอบแทนที่มากกว่า 60,000% ต่อปี และด้วยผลตอบแทนที่ดึงดูดใจนี่เอง ทำให้  $FLOCK สามารถระดมทุนได้มากถึง 161,000 ดอลลาร์ ภายในไม่กี่วันแรกหลังการเปิดตัวพรีเซล

ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Flockerz ได้ผ่านทางเว็บไซต์ทางการ และเข้าซื้อเหรียญได้ผ่านสกุลเงิน $ETH, $USDT, $BNB หรือ บัตรเครดิต/เดบิต

โทเค็นโนมิกส์ Flockerz

4. FreeDum Fighers ($DUM) – เหรียญมีมที่เน้นการมีส่วนร่วมในประเด็นทางการเมือง

FreeDum Fighters ($DUM) ถือเป็นอีกเหรียญโครงการใหม่ ที่มีจุดประสงค์ในการเสียดสีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งล่าสุด ผ่านการนำเสนอสถานการณ์จำลองการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยมีระบบ staking pool ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ลงคะแนนและรับผลตอบแทน

โดยเหรียญ $DUM ของโครงการนี้จะอยู่ในรูปแบบโทเคน ERC-20 ที่สามารถใช้งานได้บนหลายเชน ทั้ง Ethereum, Base, BSC และ SOL ในขณะที่ผู้ถือเหรียญจะได้เข้าร่วมกิจกรรมการเลือกตั้งผ่านตัวละครล้อเลียน ระหว่าง ‘Kamacop 9000’ และ ‘MAGATRON’ โดยล้อเลียนมาจาก 2 ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนสำคัญอย่าง Kamala Harris และ Donald Trump

ผู้ที่ถือเหรียญสามารถเข้าร่วมกิจกรรมโหวตและทำการ stake เหรียญ $DUM ได้ผ่าน staking pool ของแต่ละตัวละคร ซึ่งจะมีอัตราผลตอบแทนที่แตกต่างกันออกไปตามความห่างของคะแนนนิยม นอกจากนี้ทางโครงการยังมีกิจกรรมโต้วาทีการเมืองรายสัปดาห์ โดยผู้ชนะในแต่ละสัปดาห์จะได้รับรางวัลเป็น airdrop เหรียญ $DUM เพิ่มเติม

ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ ได้ผ่านทางเว็บไซต์ทางการของ FreeDum Fighters และเข้าซื้อเหรียญได้ผ่านสกุลเงิน $ETH, $BNB, $SOL, $USDT, หรือ $USDC

โทเค็นโนมิกส์ FreeDum Fighers

5. Sponge V2 ($SPONGEV2) – เหรียญฟองน้ำเวอร์ชันใหม่ พร้อมแผนพัฒนาเกม P2E

Sponge V2 เป็นโครงการที่ต่อยอดมาจาก “$SPONGE” โครงการเหรียญมีมที่เคยมีมูลค่าตลาดพุ่งสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ โดยในเวอร์ชันใหม่นี้ได้มีการพัฒนานำเอากลไก Stake-to-Bridge เพื่อเชื่อมผู้ถือ Sponge V1 ให้สามารถเข้ากับระบบนิเวศ V2

โดยถึงแม้ $SPONGE เวอร์ชันแรก จะทำราคาลดลงอย่างมากนับตั้งแต่ที่กระแสของเหรียญเริ่มซาลง หลังจากที่เคยทำราคาพุ่งสูงขึ้นได้ถึง 340% ภายในสัปดาห์แรกที่เปิดตัว แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันยังมีผู้ถือ $SPONGE อยู่มากกว่า 11,000 ราย อีกทั้งทางโครงการยังคงมีผู้ติดตามบนบัญชี X กว่า 23,000 คน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทีมงานได้มีการพัฒนาและเปิดตัว $SPONGEV2 ซึ่งเป็นเวอร์ชันต่อมา

โดย $SPONGEV2 จะเป็นโครงการที่ช่วยให้ผู้ถือเหรียญ $SPONGE สามารถนำเหรียญไปทำการ Staking เพื่อรับเหรียญ $SPONGEV2 ได้ ในขณะที่ผลตอบแทนผันแปรตามจำนวนโทเคนที่ stake และระยะเวลา

เรียกได้ว่า $SPONGEV2 ได้กลายเป็นอีกเหรียญที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้ชื่นชอบเหรียญมีม จากความสามารถในการทำราคาพุ่งสูงขึ้นได้ถึง 40% ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังเปิดตัวบนเครือข่าย Polygon โดยสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ที่ stake ตั้งแต่พฤษภาคมปีที่แล้วมากกว่า +3600%

นอกจากนี้ ทางโครงการมีแผนจะนำเหรียญ $SPONGEV2 เข้ากระดานเทรด Binance และ OKX ให้ได้ภายในปี 2024 โดยอาจมีการเปิดตัวเกมบล็อกเชนแบบ play-to-earn แบบใหม่ภายในเครือข่ายเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับโครงการ

6. Shiba Shootout ($SHIBASHOOT) – เหรียญโครงการเกม Metaverse ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธีม Wild West

Shiba Shootout ($SHIBASHOOT) เป็นเหรียญมีมในประเภท ERC-20 ตัวใหม่ ที่ได้มาในธีมแบบตะวันตก โดยมีจุดเด่นคือเกม Play to Earn ที่ให้ผู้เข้าร่วมทำกิจกรรมพร้อมการแจกรางวัลรวมถึงระบบลอตเตอรี่

โดยเพียงไม่กี่วันหลังจากการเปิดตัว $SHIBASHOOT สามารถระดมทุนไปได้แล้วมากกว่า 480,000 ดอลลาร์ ในขณะที่ยังคงทำราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่ล้นหลามจากนักลงทุน จากการที่เหรียญได้เสนอผลตอบแทนสำหรับการ Staking ที่สูงถึง 2,268% ต่อปี (โดยอัตราจะลดลงตามการ Staking ที่เพิ่มขึ้น)

ทั้งนี้ Shiba Shootout มีกิจกรรมมากมายให้ผู้ถือเหรียญ $SHIBASHOOT สามารถเข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม ‘campfire story sessions’ เพื่อลุ้นรางวัลในลอตเตอรี่ Lucky Lasso หรือจะทำการ staking เหรียญผ่านฟีเจอร์อย่าง cactus และ saving saddlebags นอกจากนี้ ผู้ถือครองเหรียญ $SHIBASHOOT ยังมีสิทธิ์ในการเข้าร่วมโหวต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดทิศทางของโครงการได้อีกด้วย

ทั้งนี้ผู้สนใจ สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Shiba Shootout เพิ่มเติมได้ผ่านเอกสาร whitepaper ของทางโครงการ หรือเข้าร่วมกลุ่มใน Telegram เพื่อติดตามข่าวสารสำคัญ

โทเค็นโนมิกส์ Shiba Shootout

7. TravelPETE ($PETE) – เหรียญจากโครงการบนเครือข่าย Polygon ที่นำ AI มาปรับใช้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

TravelPETE ($PETE) คือโปรเจกต์เหรียญมีมน้องใหม่ที่ถูกพัฒนาบนเครือข่าย Polygon ที่มีความโดดเด่นในการรวมเอาเทคโนโลยี Web3 เข้ากับโลกของการเดินทาง เพื่อสร้างระบบนิเวศที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่สนใจคริปโตเคอร์เรนซีและคนที่รักการท่องเที่ยว

โปรเจกต์นี้ยังมีจุดเด่นในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาผสานกับ AI เพื่อช่วยค้นหาทริปและประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้อย่างอัตโนมัติ ในขณะที่เป้าหมายหลักของ TravelPETE คือการเปลี่ยนมุมมองเชิงลบที่มักมีต่อเหรียญมีม ซึ่งมักถูกมองว่าไร้ประโยชน์ ด้วยการมุ่งเน้นให้เกิดการใช้งานจริงที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน

ปัจจุบัน $PETE อยู่ในช่วงพรีเซล โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 0.00046 ดอลลาร์เท่านั้น นอกจากนี้ โครงการยังเสนอตัวเลือกการ Staking ซึ่งมาพร้อมอัตราผลตอบแทนรายปีที่น่าสนใจ ทำให้ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนได้จำนวนมากตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของโครงการ ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Shiba Shootout เพิ่มเติมได้ผ่านทาง X และ Instagram ของทางโครงการ หรือเข้าร่วมกลุ่มใน Telegram เพื่อติดตามข่าวสารสำคัญ

โทเค็นโนมิกส์ TravelPETE

8. Doge2014 ($DOGE2014) – เหรียญตระกูล Doge ที่มอบผลตอบแทนที่สูง พร้อมสนับสนุนการเติบโตของชุมชน

Doge2014 ($DOGE2014) เป็นเหรียญคริปโตใหม่ที่มาในธีมน้องหมา ถูกสร้างขึ้นเพื่อร่วมฉลองโอกาสครบรอบ 10 ปีของ Dogecoin โดยมีจุดขายที่น่าสนใจคืออัตราผลตอบแทนต่อปี (APY) จากการ Staking สูงถึง 377,337% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดึงดูดนักลงทุนได้อย่างมาก

โทเคนนี้อยู่ในรูปแบบ ERC20 ที่ถูกออกแบบให้มีความปลอดภัยและโปร่งใส พร้อมทั้งสามารถเชื่อมต่อกับวอลเล็ตได้สะดวกสบาย โดย Doge2014 มุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศสำหรับนักลงทุนที่ตั้งใจถือเหรียญในระยะยาว โครงการนี้มีเป้าหมายดึงดูดกลุ่มแฟนคลับ DOGE ที่ต้องการมีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญของ Dogecoin และร่วมสร้างประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน

Doge2014 มีจำนวนโทเคนทั้งหมด 100 พันล้านเหรียญ โดยในจำนวนนี้ 60% ได้ถูกจัดสรรไว้สำหรับการพรีเซล เพื่อกระตุ้นการยอมรับในช่วงเริ่มต้นและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไร นอกจากนี้ ภายในเอกสารไวท์เปเปอร์ของโครงการ ยังได้ระบุถึงประโยชน์ของสภาพคล่องดังกล่าวที่จะช่วยเสริมความยืดหยุ่นในการซื้อขาย และสร้างเสถียรภาพในตลาดหลังจากเหรียญเข้าสู่การซื้อขายอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้โครงการนี้น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพ

ปัจจุบันราคาของเหรียญอยู่ที่ 0.00027 ดอลลาร์ ทั้งนี้หากใครสนใจลงทุนในโครงการ Doge2014 สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านเอกสาร whitepaper ของโครงการ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าซื้อเหรียญได้ง่าย ๆ โดยชำระผ่าน $ETH, $USDT หรือใช้บัตรเครดิตเป็นตัวเลือกในการชำระเงินก็ได้เช่นกัน

โทเค็นโนมิกส์ Doge2014

9. MemeLife ($MEMELIFE) – เหรียญมีมเปิดตัวใหม่ที่เน้นการให้รางวัลที่น่าสนใจ

MemeLife ($MEMELIFE) เป็นเหรียญจากโปรเจกต์ที่มีเป้าหมายเพื่อที่จะเป็น “ศูนย์กลางของมีมในตลาด” จากการนำตัวละครมีมที่เป็นที่รู้จักกันดี เช่น Pepe, Doge, Trollface และอีกมากมาย มาผสมผสานเข้ากับประโยชน์การใช้งานที่ทรงพลัง ประกอบกับการสนับสนุนให้ผู้คนในชุมชนมีการสร้างคอนเทนต์ใหม่ได้ภายในแพลตฟอร์มได้อีกด้วย

โดยในช่วงพรีเซลเฟสแรก $MEMELIFE สามารถระดมทุนได้มากกว่า 250,000 ดอลลาร์ โดยกำหนดราคาเริ่มต้นไว้ที่ 0.0010 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ซึ่งราคานี้จะเพิ่มขึ้นถึง 150% (เป็น 0.0025 ดอลลาร์) เมื่อพรีเซลเข้าสู่เฟสถัดไป

MemeLife มีการนำเสนอฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่าง Telegram bot ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อขายโทเคนได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด อีกทั้งยังมีฟีเจอร์สำหรับสร้างโทเคนใหม่, ระบบการ Staking และฟังก์ชัน SocialFi ที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถเชื่อมต่อกับชุมชนของพวกเขาได้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า $MEMELIFE จะทำงานอยู่บนเครือข่าย Solana แต่โปรเจกต์นี้ยังรองรับการชำระเงินด้วยคริปโตยอดนิยมอย่าง $ETH, $BNB, $MATIC, $USDC และ $USDT ในขณะที่เหรียญทั้งหมดในระบบจะมีจำนวนรวมอยู่ที่ 10 พันล้านเหรียญ ซึ่งเหรียญเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมดจะถูกจัดสรรไว้สำหรับการเพื่อดึงดูดนักลงทุนและสร้างชุมชนที่แข็งแกร่ง พร้อมกับมุ่งเน้นการเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ หลังจากสิ้นสุดพรีเซล ทางทีมงานยังมีแผนที่จะนำ $MEMELIFE เข้าสู่ตลาด CEX ชั้นนำ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับโปรเจกต์นี้ในอนาคต

10. Dogecoin ($DOGE) – เหรียญมีมชั้นนำในตลาด ที่กำลังทำราคาพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง

Dogecoin ($DOGE) ถือเป็นหนึ่งในเหรียญมีมยุคแรกๆ ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2013 โดยแม้ในช่วงเริ่มต้นเหรียญนี้จะถูกสร้างขึ้นจากแนวคิดเชิงตลกโดยไม่มีเป้าหมายหรือการใช้งานที่ชัดเจน แต่ในปัจจุบันมันได้กลายเป็นคริปโตเคอเรนซีระดับแนวหน้าที่มีมูลค่าตลาดและจำนวนผู้ถือครองสูงที่สุดเหรียญหนึ่งในโลก

โดยความสำเร็จของ $DOGE เริ่มชัดเจนขึ้นนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดคริปโตอยู่ในภาวะขาขึ้น ประกอบกับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจาก Elon Musk ผ่านการโพสต์บน Twitter โดยในต้นปี 2021 ราคา $DOGE อยู่ที่เพียง $0.005 ก่อนจะพุ่งขึ้นแตะ $0.74 ในช่วงกลางปีเดียวกัน ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 14,000%

แม้ว่าในปัจจุบันราคาของ $DOGE จะลดลงจากจุดสูงสุดตลอดกาลมากถึง 90% แต่มันยังคงเป็นหนึ่งในเหรียญมีมที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการเติบโตระยะยาว

ทั้งนี้ $DOGE นั้นมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากเหรียญคริปโตอื่นๆ เนื่องจากระบบของเหรียญไม่มีการจำกัดจำนวน ซึ่งนักขุดสามารถสร้าง $DOGE ได้ถึง 10,000 โทเคนต่อนาที ซึ่งทำให้นักลงทุนหลายคนทำให้เกิดความกังวลเรื่องความเสี่ยงของเงินเฟ้อและศักยภาพระยะยาวของเหรียญ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในปัจจุบัน Elon Musk ยังคงแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนเกี่ยวกับแผนการนำ $DOGE มาใช้เป็นวิธีการชำระเงินในแพลตฟอร์ม X ในอนาคต ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนจำนวนไม่น้อยจึงยังมองว่า $DOGE เป็นเหรียญมีมที่มีศักยภาพสูง และอาจสร้างโอกาสในการทำกำไรที่ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต

11. Shiba Inu ($SHIB) – อีกหนึ่งเหรียญที่ยังคงครองใจนักลงทุน จากพัฒนาการอย่างต่อเนื่องภายในระบบนิเวศ

Shiba Inu เป็นเหรียญที่เกิดขึ้นในปี 2020 โดยนักพัฒนานิรนามที่ใช้ชื่อว่า Ryoshi โดยมีเป้าหมายหลักในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่เทียบเคียงได้กับ Dogecoin แม้ว่าในช่วงแรก $SHIB จะไม่มีการใช้งานที่ชัดเจน แต่โครงการนี้ก็สามารถสร้างกระแสความสนใจและความต้องการได้อย่างล้นหลามจนกลายเป็นที่จับตามองในวงการคริปโต

โดยเพียงไม่ถึง 1 ปีหลังจากเปิดตัว มูลค่าตลาดรวมของ $SHIB ก็สามารถแตะระดับพันล้านดอลลาร์ และในช่วงตลาดกระทิงที่มีการเติบโตสูงสุด มูลค่าของ $SHIB พุ่งทะยานจนเกิน 40 พันล้านดอลลาร์ จนส่งผลให้นักลงทุนรายแรกได้รับผลตอบแทนมหาศาลในระดับหลายล้านเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน $SHIB มีราคาลดลงเกือบ 90% เมื่อเทียบกับระดับสูงสุด เนื่องจากตลาดคริปโตเผชิญกับสภาวะขาลง

อย่างไรก็ตาม ทางโครงการยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทางทีมพัฒนาของ Shiba Inu ได้เปิดตัว Shibarium ซึ่งเป็นบล็อกเชน layertwo ที่สร้างขึ้นบน Ethereum โดย Shibarium ช่วยลดค่าธรรมเนียมแก๊สและเปิดโอกาสให้ผู้ถือโทเคนสามารถ stake $SHIB ได้ แม้กระนั้น การพัฒนาของโครงการและราคาของ $SHIB ยังคงพึ่งพาการสนับสนุนจากชุมชนมากกว่าการใช้งานที่จับต้องได้

ทั้งนี้สิ่งที่ทำให้ $SHIB แตกต่างคือจำนวนโทเคนที่มีมหาศาลถึงหนึ่งพันล้านล้าน โดยเหรียญจำนวน 50% ของทั้งหมดจะถูกล็อกไว้ในตลาด Uniswap ในขณะที่อีก 50% ถูกโอนให้กับ Vitalik Buterin ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเรื่องการรวมศูนย์ในชุมชนคริปโต อย่างไรก็ตาม Buterin ได้เผาโทเคน $SHIB จำนวน 40% ของทั้งหมด ซึ่งช่วยลดปัญหาดังกล่าว

ปัจจุบัน $SHIB มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 14 พันล้านดอลลาร์ พร้อมปริมาณการซื้อขายภายใน 24 ชั่วโมงที่เกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และถึงแม้ราคาของเหรียญจะลดลงอย่างมาก แต่ชุมชน Shiba Inu ยังคงแสดงความเชื่อมั่นในอนาคตของเหรียญนี้อย่างต่อเนื่อง

12. RichQUACK ($QUACK) –  เหรียญมีมที่แบ่งผลตอบแทนจากค่าธรรมเนียม ให้กับผู้ถือครอง

RichQUACK เป็นหนึ่งในเหรียญมีมที่เปิดตัวสู่ตลาดในช่วงปลายปี 2021 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวละคร Scrooge McDuck ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการการ์ตูน และมีจุดเด่นในการเน้นให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมในการพัฒนาและผลักดันแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง

เป้าหมายหลักของ RichQUACK คือการดึงดูดนักลงทุนที่เน้นการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากเหรียญ $QUACK มีการกำหนดภาษีการขายไว้สูงถึง 12% ทั้งนี้ก็เพื่อลดแรงจูงใจของนักเทรดรายวันที่มุ่งเน้นการเก็งกำไรระยะสั้น โดยในจำนวนภาษีดังกล่าว 4% จะถูกแจกจ่ายคืนให้กับผู้ถือเหรียญ $QUACK อย่างเท่าเทียม พร้อมกับส่วนที่เหลือจะถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนสภาพคล่อง การตลาด และการพัฒนาโครงการ ซึ่งกลยุทธ์นี้ทำให้ผู้ถือเหรียญสามารถรับผลตอบแทนแบบ passive income เพียงแค่ถือครองเหรียญไว้ในวอลเล็ต

อย่างไรก็ตาม การเข้าร่วมชุมชนของ RichQUACK ไม่ได้จำกัดเพียงการถือเหรียญในระยะยาวเท่านั้น เพราะโครงการยังมีกิจกรรมลอตเตอรี่ที่เปิดโอกาสให้สมาชิกทุกคนได้ร่วมสนุกและชิงรางวัลเป็นโทเคน ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจและการมีส่วนร่วมในชุมชนมากยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากนี้ RichQUACK ยังมีการออกแบบระบบที่ป้องกันการเข้าควบคุมของนักลงทุนรายใหญ่หรือ ‘วาฬ’ โดยจะมีการจำกัดไม่ให้วอลเล็ตใดสามารถถือครองเหรียญ $QUACK เกิน 1% ของจำนวนที่มีอยู่ทั้งหมด นอกจากนี้ ทางโครงการยังมีการเผาโทเคนมากถึง 50% ของอุปทานเพื่อช่วยลดภาวะเงินเฟ้อในระบบ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาเหรียญในระยะยาว

ด้วยแนวทางการบริหารจัดการที่รัดกุม ทำให้เหรียญ $QUACK สามารถรักษาราคาที่มั่นคงได้อย่างต่อเนื่องในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยไม่เกิดการพุ่งขึ้นหรือตกลงอย่างรุนแรงเหมือนกับเหรียญมีมอื่น ๆ และทำให้มันโดดเด่นในกลุ่มเหรียญมีม และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาเหรียญมีมที่มีความเสี่ยงปานกลาง

13. Dogechain ($DC) – เหรียญมีมจากโครงการต่อยอดระบบนิเวศภายใน Dogecoin

Dogechain เป็นเหรียญในเครือข่ายบล็อกเชน layer 2 ของบน Polygon ที่รองรับ EVM และช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างทั้ง dApps และแพลตฟอร์ม NFT ได้อย่างสะดวก โดยใช้เหรียญ $DOGE เป็นตัวกลางในระบบเศรษฐกิจของโครงการนี้

อย่างไรก็ตาม Dogechain ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับเหรียญชื่อดังอย่าง Dogecoin แต่ทว่าโครงการนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการใช้ Dogecoin ในการชำระเงินให้แพร่หลายมากขึ้น

ทั้งนี้ทางโครงการมี $DC เป็นเหรียญ Native Token ที่เป็นส่วนสำคัญของ Dogechain โดยมีบทบาทสำคัญในระบบ ที่ผู้ถือสามารถใช้เหรียญนี้เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากการ Staking มีสิทธิ์ในการกำกับดูแลโครงการ อีกทั้งยังสามารถนำไปชำระค่าธรรมเนียมแก๊สได้

โดย Dogechain ยังถือเป็นโครงการที่ได้รับการขับเคลื่อนโดยชุมชนอย่างแท้จริง จากการมีเหรียญ $DC จำนวน 58% จากทั้งหมด 1 ล้านล้านเหรียญ ที่ถูกจัดสรรไว้สำหรับ airdrops รวมถึงการมอบรางวัลจากการ Staking และสนับสนุนเงินทุนสำหรับชุมชน โดยส่วนที่เหลือจะถูกใช้เพื่อการตลาดและการพัฒนาภายในระบบนิเวศ Dogechain

ด้วยการออกแบบที่มุ่งเน้นการสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน ทำให้หลายคนยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของ Dogechain โดยคาดว่าราคาของโทเคนนี้อาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต

เปรียบเทียบเหรียญมีมยอดนิยมประจำปี 2024

บทส่งท้าย

ในปัจจุบัน เหรียญมีมใหม่ๆ ถูกสร้างขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ทำให้การค้นหาเหรียญที่มีความน่าเชื่อถือและมีศักยภาพในการเติบโตกลายเป็นเรื่องท้าทายสำหรับนักลงทุน แม้ว่าเหรียญมีมส่วนใหญ่ในตลาดจะมาจากโครงการที่อาจไม่มีประโยชน์ชัดเจน แต่ก็ยังมีบางเหรียญ เช่น Dogecoin และ Shiba Inu ที่สามารถรักษาตำแหน่งของตัวเองในฐานะหนึ่งในเหรียญคริปโตชั้นนำของตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเหรียญมีมจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาข้อมูลด้วยตนเองอย่างลึกซึ้ง พร้อมทั้งทำความเข้าใจในความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ประเภทนี้ นักลงทุนควรตระหนักถึงความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นและลงทุนเฉพาะจำนวนที่สามารถยอมรับการสูญเสียได้ โดยไม่สร้างภาระทางการเงินที่เกินตัว

คำถามที่พบบ่อย