วิเคราะห์ราคา BTC: จับตาแนวต้านสำคัญ $100K และโอกาสสร้างจุดสูงสุดใหม่

วิเคราะห์ราคา BTC: จับตาแนวต้านสำคัญ $100K และโอกาสสร้างจุดสูงสุดใหม่

ตลาด Bitcoin กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยราคา BTC ได้เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ระหว่าง $94,000 ถึง $100,000 มาเป็นเวลากว่า 12 วัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนว่าจะสามารถทะลุแนวต้านสำคัญเพื่อสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้หรือไม่ หรือจะเผชิญกับแรงเทขายจนราคาปรับตัวลงต่ำกว่าระดับปัจจุบัน

แนวโน้มตลาดและปัจจัยสนับสนุน ‘ราคา BTC’

การเคลื่อนไหวแบบ Sideways ในช่วงที่ผ่านมาได้สร้างความคาดหวังถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยข้อมูลจาก Axel Adler นักวิเคราะห์ของ CryptoQuant แสดงให้เห็นว่า ณ ระดับราคาปัจจุบัน จำนวนผู้ขายที่ยอมขาดทุนได้ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะถือครอง Bitcoin ไว้แทนที่จะขายทำกำไรหรือขายตัดขาดทุน ซึ่งในอดีตสภาวะเช่นนี้มักเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความผันผวนของราคาที่กำลังจะเกิดขึ้น เนื่องจากอุปทานในตลาดมีจำกัดในขณะที่คาดว่าอุปสงค์จะเพิ่มสูงขึ้น

เขาได้แสดงความเห็นผ่านทาง X (Twitter) ว่า ในช่วงนี้นักลงทุนไม่มีอะไรต้องทำนอกจากรอดูทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ซึ่งบ่งชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทะลุขึ้นไปหรือการปรับฐานลงมาก็ตาม โดยหาก BTC สามารถผ่านแนวต้านที่ $100,000 ไปได้ ก็อาจเกิดการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในโซนราคาใหม่ที่ไม่เคยมีการซื้อขายมาก่อน

การวิเคราะห์ทางเทคนิคและระดับราคาสำคัญของ Bitcoin

ปัจจุบัน Bitcoin กำลังซื้อขายที่ระดับประมาณ $95,600 โดยรักษาแนวโน้มแบบ Sideways มาเกือบ 2 สัปดาห์ โดยระดับ $95,000 ถือเป็นแนวรับที่สำคัญ ทำหน้าที่เป็นโซนอุปสงค์หลักที่มีผู้ซื้อเข้ามาสะสมอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาปรับตัวลงมากกว่านี้

กราฟราคา Bitcoin
กราฟราคา Bitcoin ที่มา: Cointelegraph/TradingView

การที่ราคายังสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ถือเป็นสัญญาณที่ดี และอาจจะสร้างโอกาสให้ BTC ทดสอบแนวต้านที่สูงขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ฝั่งขาขึ้นยังมีความท้าทายสำคัญที่จะต้องทะลุผ่านระดับ $98,000 และในที่สุดต้องผ่าน $100,000 เพื่อยืนยันการเบรกเอาท์ไปสู่จุดสูงสุดใหม่

หากราคา Bitcoin ไม่สามารถยืนเหนือแนวรับที่ $95,000 ได้ ระดับราคาถัดไปที่ต้องจับตามองคือบริเวณระหว่าง $91,130 (จุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์) และ $88,909 (จุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 13 มกราคม) โดยหาก Bitcoin สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากบริเวณนี้ จะเป็นสัญญาณที่ดีแสดงถึงแรงซื้อใหม่ที่เข้ามาที่ระดับต่ำกว่า $90,000

สัญญาณเตือนจากตัวชี้วัดและ On-chain Data

ในขณะที่หลายฝ่ายมองว่า Bitcoin มีโอกาสทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่ แต่ก็มีสัญญาณเตือนที่น่าจับตามองเช่นกัน นักวิเคราะห์ On-chain อย่าง Maartunn ได้ชี้ให้เห็นว่าตัวชี้วัด Inter-exchange Flow Pulse (IFP) ได้กลับเป็นค่าลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2024 ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ในทิศทางขาลง โดย IFP เป็นตัวชี้วัดที่วัดการไหลเวียนของ Bitcoin ระหว่างตลาด Spot และ Derivatives

ตามข้อมูลในอดีต เมื่อตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและนักเทรดมีความมั่นใจในการถือ Long Position จะมีการโอน Bitcoin จากตลาด Spot ไปยังตลาด Derivatives มากขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อราคาเริ่มอ่อนแอและก่อตัวเป็นเทรนด์ขาลง Bitcoin จะเริ่มไหลออกจากตลาด Futures กลับเข้าสู่ตลาด Spot เนื่องจากนักลงทุนเตรียมตัวรับมือกับการปรับฐานราคา

BTC Bull Token: ทางเลือกใหม่สำหรับนักลงทุนที่เชื่อมั่นในการเติบโตของ Bitcoin

ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าราคา Bitcoin จะทะลุ $100,000 ไปสู่ระดับที่สูงขึ้น นักลงทุนที่มองหาโอกาสในการทำกำไรจากการเติบโตของ Bitcoin อาจจะสนใจ BTC Bull Token ($BTCBULL) ซึ่งเป็นโทเค็นที่ออกแบบมาเพื่อให้ผลตอบแทนตามการเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin โดยมีเป้าหมายไปถึง $250,000 โทเคนนี้มีกลไกการเผาโทเคนอัตโนมัติทุกครั้งที่ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นทุก $25,000 พร้อมทั้งมีการแจก Bitcoin ฟรีให้กับผู้ถือเมื่อราคาถึงเป้าหมายสำคัญที่ $150,000 และ $200,000

นอกจากนี้ ผู้ถือ $BTCBULL ยังสามารถรับผลตอบแทนเพิ่มเติมผ่านระบบ Staking ที่ให้ APY สูงในช่วงพรีเซลและอีก 2 ปีหลังเปิดตัว ซึ่งช่วยสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนถือโทเคนในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาด Bitcoin มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นและมีโอกาสทะลุแนวต้านสำคัญที่ $100,000 เพื่อสร้างจุดสูงสุดใหม่

บทสรุป

สถานการณ์ราคา Bitcoin ในปัจจุบันกำลังอยู่ในจุดสำคัญที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยการเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง $94,000-$100,000 พร้อมกับการลดลงของจำนวนผู้ขายที่ขาดทุน บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ราคาจะทะลุแนวต้านสำคัญที่ $100,000 ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงของตัวชี้วัด Inter-exchange Flow Pulse และความเสี่ยงในการปรับฐานลงสู่ระดับ $90,000 หรือต่ำกว่า ก็เป็นปัจจัยที่นักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิด

ปัจจัยสนับสนุนจากการพัฒนาด้านกฎระเบียบ เช่น การที่รัฐ Utah และรัฐอื่นๆ ในสหรัฐฯ เริ่มพิจารณาการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล อาจจะช่วยเสริมความเชื่อมั่นในระยะยาว ขณะที่การเกิดขึ้นของนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ อย่าง BTC Bull Token ก็เปิดโอกาสให้นักลงทุนมีทางเลือกในการรับผลตอบแทนจากการเติบโตของ Bitcoin ได้หลากหลายมากขึ้น

By Kritsana Thongsuk

นักเขียนสายคริปโตที่มีประสบการณ์ในวงการบล็อกเชนและการเงินดิจิทัลมากกว่า 7 ปี เชี่ยวชาญในการนำเสนอข่าวสาร การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และให้ความรู้เกี่ยวกับ Cryptocurrency โดดเด่นในการอธิบายเนื้อหาคริปโตที่ซับซ้อนให้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้อ่านทุกระดับ ตั้งแต่นักลงทุนมือใหม่ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญในวงการคริปโต ทำให้เขาเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลคริปโตที่ได้รับความไว้วางใจในประเทศไทย

Leave a comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *