คาดการณ์ราคา Solana ในปี 2025-2030

เหรียญคริปโตชื่อดังอย่าง Solana ($SOL) ก้าวขึ้นมามีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 และเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ Ethereum แต่ราคาก็มีขึ้นสุดลงสุด ด้วยเหตุนี้หลายๆ คนจึงอาจสงสัยว่าอนาคตราคา Solana จะเป็นอย่างไร หรือเครือข่ายนี้ล้าสมัยแล้วกันแน่

ดังนั้นในบทความนี้ เราจะมาอธิบายคุณลักษณะสำคัญของสกุลเงินดิจิทัล SOL กัน เมื่อพิจารณาถึงโอกาสในอนาคต แนวโน้มราคาในอดีต เหตุใดจึงกล่าวได้ว่าสกุลเงินดิจิทัลนี้ล้าสมัย รวมถึงการคาดการณ์ราคาในอนาคต

และแน่นอนว่าบางครั้งเหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจก็เป็นปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จหรือล้มเหลวของราคาเหรียญ ดังนั้น เราจะพูดถึงข่าวสารล่าสุดและผลกระทบที่มีต่อราคาของโซลานาด้วย ได้แก่:

• เหรียญ Trump และเหรียญ Melania ที่ถูกสร้างบน Solana
• ปริมาณการออก USDC บนโซลานาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
• Solaxy โปรเจกต์ Presale ที่เป็นโซลูชัน Layer 2 มีความคึกคัก

เหรียญ Trump และเหรียญ Melania ที่ถูกสร้างบน Solana

ในเดือนมกราคม 2025 ประธานาธิบดี Donald Trump ได้สร้างความฮือฮาด้วยการออกสกุลเงินดิจิทัลที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาที่เรียกว่า เหรียญ Trump และพร้อมกันนี้ Melania Trump ภรรยาของเขาก็ได้ออกเหรียญ Melania ตามมาติดๆ

ทั้งสองได้รับความสนใจอย่างมากจากการออก Meme coin ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองบนบล็อกเชน Solana ร่วมกัน เหตุการณ์นี้จึงอาจมีผลกระทบต่ออนาคตของเหรียญ Solana

ประเด็นสำคัญที่ควรทราบมีดังนี้

• เหรียญ Trump มีมูลค่าตามราคาตลาดทะลุ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ใน 24 ชั่วโมงหลังจากการเปิดตัว ซึ่งช่วยเพิ่มความสนใจในระบบนิเวศของเหรียญ SOL อย่างมาก
• เหรียญ Melania ก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยที่เร่งความนิยมของเหรียญ Meme บนโซลานา แม้กระแสจะค่อยๆ หายไป แต่ก็ตอกย้ำถึงการที่โซลานาเป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับการออกเหรียญมีม

เนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของปริมาณการซื้อขายของทั้งสองเหรียญ เครือข่ายจึงประสบปัญหาความแออัดชั่วคราว ซึ่งทำให้ทีมพัฒนาต้องเร่งแก้ไขปัญหา

จากสถานการณ์นี้ ความสามารถในการประมวลผลและความสามารถในการขยายขนาดของเหรียญ Solana จึงได้รับความสนใจอีกครั้ง ในขณะที่การแก้ไขปัญหาความแออัดของเครือข่ายยังคงเป็นความท้าทาย แต่การเข้ามาของโครงการใหญ่ๆ ก็อาจนำไปสู่การนำ Solana มาใช้เพิ่มมากขึ้น

กล่าวได้ว่า การปรับปรุงความสามารถในการปรับขนาดและการรับประกันความเสถียรจะเป็นกุญแจสำคัญต่อการพัฒนาในอนาคตของเครือข่าย

ปริมาณการออก USDC บนโซลานาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ข่าวล่าสุดที่มีผลกระทบอย่างมากต่ออนาคตของเหรียญ SOL คือการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของปริมาณการออก USDC บนเครือข่าย เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2025 Circle ได้ออก USDC จำนวน 250 ล้านรายการบนโซลาน่า ทำให้ปริมาณการออกสะสมตั้งแต่ต้นปี 2025 อยู่ที่ 6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้บ่งชี้ถึงการกระตุ้นกิจกรรมการซื้อขายบนเครือข่ายนั่นเอง

สิ่งที่ควรทราบเป็นพิเศษคือปริมาณ Stablecoin ของ Solana เพิ่มขึ้น 112% ในเดือนมกราคม ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์ การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้บ่งชี้ถึงการเร่งตัวของการไหลเข้าของเงินทุนสู่ระบบนิเวศของเหรียญ Solana ซึ่งเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการเติบโตในด้าน DeFi และ NFT โดย USDC คิดเป็น 77% ของ Stablecoin บน Solana และเป็นวิธีการซื้อขายหลัก

พูดง่ายๆ ก็คือ การเติบโตของโปรเจกต์ DeFi และตลาด NFT บนเครือข่ายในอนาคต อาจส่งผลดีต่ออนาคตของเหรียญ SOL นั่นเอง

Solaxy โปรเจกต์ Presale ที่เป็นโซลูชัน Layer 2 มีความคึกคัก

Solaxy (SOLX) โปรเจกต์ presale ที่นำเสนอโซลูชันเลเยอร์ 2 ตัวแรกของ Solana กำลังเป็นไวรัล สามารถระดมทุนได้กว่า 22 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 2 เดือน ซึ่งดึงดูดความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน โดย Solaxy มีเป้าหมายที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น ความแออัดของเครือข่ายและการซื้อขายที่ล่าช้า คุณสมบัติหลักๆ มีดังนี้

• ลดภาระบนเมนเน็ต และปรับปรุงความสามารถในการปรับขนาดโดยการประมวลผลนอกเครือข่าย
• ลดต้นทุนอย่างมากโดยการรวมธุรกรรม ในขณะที่ยังคงรักษาปริมาณงานไว้ได้สูง
• ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นกับบล็อกเชนอื่น ๆ เช่น Ethereum

ปัจจุบัน Solana กำลังเผชิญกับความล่าช้าในการทำธุรกรรมอย่างรุนแรง รวมถึงมีความล้มเหลวในการทำธุรกรรมเป็นครั้งคราว เนื่องมาจากการเกิดขึ้นของเหรียญมีมจำนวนมาก หากการขายล่วงหน้าของ SOLX ประสบความสำเร็จและมีการนำเลเยอร์ 2 ไปใช้ ก็อาจเอื้อต่อการเติบโตในระยะยาวของระบบนิเวศ

ดังนั้นเมื่อพิจารณาถึงอนาคตของเหรียญ SOL ก็ต้องยอมรับว่าเราไม่สามารถละสายตาจากโปรเจกต์ Solaxy ได้

Solana (SOL) คืออะไร?

Solana คือแพลตฟอร์มบล็อกเชนยุคใหม่ที่ช่วยให้การทำธุรกรรมรวดเร็วและต้นทุนต่ำ ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 และใช้กลไกฉันทามติที่เป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า “Proof of History (PoH)” สิ่งนี้ทำให้สามารถปรับขนาดได้สูง สามารถประมวลผลธุรกรรมได้มากกว่า 65,000 รายการต่อวินาที

SOL เป็นโทเค็นประจำเครือข่าย ซึ่งใช้สำหรับการชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมและการ Stake นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Smart Contract และเหมาะสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DApps) และแพลตฟอร์ม NFT

3 คุณสมบัติของ Solana (SOL)

Solana เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ค่อนข้างใหม่ แต่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจที่เหรียญคริปโตอื่น ๆ ไม่มี ซึ่งถ้าพูดถึงคุณสมบัติหลักแล้ว 3 อย่างที่เราไม่ควรมองข้ามได้แก่:

• การประมวลผลธุรกรรมที่รวดเร็วและราคาถูกด้วย PoH
• มี DApps ที่น่าสนใจ
• การสร้างเหรียญมีมผ่าน pump.fun

การประมวลผลธุรกรรมที่รวดเร็วและราคาถูกด้วย PoH

Solana ให้ความสำคัญกับการประมวลผลธุรกรรมที่รวดเร็วและต้นทุนต่ำโดยการนำกลไกฉันทามติ Proof of History (PoH) มาใช้

PoH ปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่ายทั้งหมด โดยการประทับเวลาที่แม่นยำในการทำธุรกรรมและรับประกันลำดับของการทำธุรกรรม จึงไม่จำเป็นต้องมีการขุดคริปโตแบบเดิมๆ

สิ่งนี้ทำให้ Solana สามารถประมวลผลได้ถึง 65,000 ธุรกรรมต่อวินาที (TPS) และเวลาบล็อกเฉลี่ยเพียง 400 มิลลิวินาที นี่คือความเร็วที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดิจิทัลหลักๆ ตัวอื่น

ในตารางด้านล่าง เราจะเปรียบเทียบความเร็วในการประมวลผลของ Proof of History (PoH) กับ Proof of Work (PoW) ที่ Bitcoin ใช้ และ Proof of Stake (PoS) ที่ Ethereum ใช้

โดยความเร็วในการประมวลผลในตารางไม่ได้เป็นค่าทางทฤษฎี แต่เป็นความเร็วในการประมวลผลจริง

• ธุรกรรมที่รวดเร็ว: PoH รับประกันลำดับของแต่ละธุรกรรม ดังนั้นการประมวลผลธุรกรรมจึงทำได้อย่างรวดเร็ว
• ความสามารถในการปรับขนาด: ด้วย PoH โซลานาจึงมีความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมสูงและสามารถรองรับแอปพลิเคชันในโลกแห่งความเป็นจริงได้
• ประสิทธิภาพด้านพลังงาน: PoH ไม่ต้องการการคำนวณที่ซับซ้อนและใช้พลังงานน้อย

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ Solana จึงเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (DApps) และธุรกรรมทางการเงินขนาดใหญ่

มี DApps ที่น่าสนใจ

Solana เป็นที่รู้จักในฐานะแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ตระหนักถึงการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและต้นทุนต่ำ และมีระบบนิเวศของแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (DApps) ที่น่าสนใจซึ่งใช้ประโยชน์จากคุณสมบัตินี้

DApps ที่สร้างขึ้นบน Solana ใช้ประโยชน์จากความสามารถในการปรับขนาดที่ยืนหนึ่งและค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่ต่ำของแพลตฟอร์ม ครอบคลุมหลากหลายสาขา เช่น การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi), เกม NFT และ SNS

ตัวอย่างเฉพาะ ได้แก่ DApps สามรายการต่อไปนี้:

• STEPN: แอปฟิตเนสที่นำแนวคิด “Move-to-Earn” มาใช้ ซึ่งผู้ใช้สามารถรับโทเค็นได้จากการเดินหรือวิ่ง
• Jupiter: ตัวรวบรวมกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEX) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบน Solana ซึ่งมอบประสบการณ์การซื้อขายที่สะดวกสบายแก่ผู้ใช้งาน
• Realms: แพลตฟอร์มหลักสำหรับการสร้างและจัดการ DAO (องค์กรปกครองตนเองแบบกระจายอำนาจ) บน Solana

ระบบนิเวศ DApps เหล่านี้ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานประสิทธิภาพสูงของโซลาน่า เพื่อให้บริการที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะมีแอปพลิเคชันที่หลากหลายมากขึ้นในอนาคต

การสร้างเหรียญมีมผ่าน pump.fun

คุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของ Solana คือการสร้างเหรียญ Meme ได้ง่ายๆ โดยใช้แพลตฟอร์มที่เรียกว่า pump.fun ซึ่งเปิดตัวในเดือนมกราคม 2024 เป็นแพลตฟอร์มสุดล้ำที่ช่วยให้คุณสร้างและซื้อขายเหรียญมีมคริปโตได้ในไม่กี่ขั้นตอน
ซึ่งภายในเดือนพฤศจิกายน 2024 มีการสร้างสกุลเงินมีมมากกว่า 3.85 ล้านสกุล สร้างรายได้ไปประมาณ 355 ล้านดอลลาร์

คุณสมบัติหลักของ pump.fun มีดังนี้:

• สร้างเหรียญมีมได้ง่ายดาย: ใครๆ ก็สามารถสร้างโทเค็นได้โดยป้อนชื่อ สัญลักษณ์ คำอธิบาย และรูปภาพในราคาประมาณ 0.02 SOL
• โมเดล Bonding Curve: ราคาจะถูกปรับแบบไดนามิกตาม supply โดยมอบสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ยุติธรรม
• ค่าธรรมเนียมต่ำ: ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ 1% ทำให้เป็นดีไซน์ที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้

ตัวอย่างเฉพาะ ได้แก่ สกุลเงินมีม Dogwifhat (WIF) สกุลเงินนี้ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากภาพสุนัขสวมหมวก เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2023 และมีบันทึกการพุ่งขึ้นสูงสุดถึง 45,000 เท่า

นอกจากนี้ Fartcoin (FARTCOIN) ก็ได้รับความสนใจในฐานะโครงการทดลองที่สร้างโดย AI และมีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ชั่วคราวในเดือนมกราคม 2025

ด้วยวิธีนี้ pump.fun จึงช่วยกระตุ้นระบบนิเวศของ Solana และมอบความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้งานนั่นเอง

การเปลี่ยนแปลงราคาของ Solana (SOL)

เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพในอนาคตของ Solana สิ่งสำคัญคือต้องทราบการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ผ่านๆ มา รวมถึงเหตุผลของการที่ราคาพุ่งขึ้นและร่วงลง

ดังนั้นในส่วนนี้ เราจะอธิบายการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตของ Solana โดยอ้างอิงถึงแผนภูมิของ CoinMarketCap

• แผนภูมิระยะยาวของ SOL ตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2025
• 2020-2021: การพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากช่วงเริ่มต้นถึงช่วงฟองสบู่ crypto
• 2022-2023: เอาชนะความผิดพลาดและภาวะซบเซา ก่อนจะทยานขึ้นอีกครั้ง
• 2024-2025: สร้างแนวโน้มขาขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

แผนภูมิระยะยาวของ SOL ตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2025

เมื่อดูแผนภูมิระยะยาว ราคา SOL แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2025 โดยเริ่มต้นด้วยราคาเพียง 0.86 ดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม 2020 และเพิ่มขึ้นเป็น 231 ดอลลาร์ในเดือนมกราคม 2025 ซึ่งเติบโตขึ้นประมาณ 270 เท่า

เหตุผลหลักสำหรับการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างรวดเร็วนี้มีดังนี้:

• ความเร็วสูงของ PoH: ความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมที่รวดเร็วและต้นทุนต่ำได้รับความสนใจจากนักพัฒนาและนักลงทุนจำนวนมาก
• การแพร่หลายของ DeFi และ NFT: ระบบนิเวศของ Solana ขยายตัวเนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของโครงการ DeFi และ NFT
• การเข้าร่วมของนักลงทุนระดับสถาบัน: สถาบันการเงินและบริษัทขนาดใหญ่เริ่มลงทุนใน Solana ซึ่งช่วยผลักดันราคาให้สูงขึ้น

แม้ว่าจะบันทึกราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 263 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2024 แต่ก็ลดลงเล็กน้อยและซื้อขายกันที่ประมาณ 200 ดอลลาร์ ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2025 การเปลี่ยนแปลงของราคานี้ได้รับผลกระทบจากแนวโน้มของตลาดสกุลเงินดิจิทัลโดยรวม การเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบ และการอัปเดตทางเทคนิคที่เป็นเอกลักษณ์ของ Solana
จากนี้ไป เราจะทบทวนการเปลี่ยนแปลงของราคาในแต่ละช่วงอายุ

2020-2021: การพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากช่วงเริ่มต้นถึงช่วงฟองสบู่ Crypto

SOL ซึ่งเป็น ICO คริปโตเปิดตัว mainnet beta ในเดือนมีนาคม 2020 และเดิมซื้อขายกันในราคาประมาณ 1 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ในปี 2021 ราคาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากตลาดสกุลเงินดิจิทัลโดยรวมมีความคึกคัก

ราคาซึ่งอยู่ที่ 1.5 ดอลลาร์ในเดือนมกราคม 2021 บันทึกสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 210 ดอลลาร์ในเดือนกันยายนของปีเดียวกัน ซึ่งบรรลุอัตราการเพิ่มขึ้นที่น่าทึ่งประมาณ 10500% ในปีนั้น

เหตุผลหลักสำหรับการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วนี้มี 3 ประการ:

• Demand ที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ DeFi และ NFT บูม: โครงการ DeFi และตลาด NFT บน Solana เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
• การซื้อขายที่รวดเร็วและต้นทุนที่ต่ำได้รับความสนใจ: โดยทฤษฎีแล้ว เครือข่ายมีความสามารถในการประมวลผลธุรกรรม 65,000 รายการต่อวินาที และค่าธรรมเนียมต่ำ
• ความสนใจจากนักลงทุนระดับสถาบัน: ระดมทุนได้มากกว่า 300 ล้านดอลลาร์จาก Andreessen Horowitz, Polychain Capital และอื่นๆ

เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่และระบบนิเวศที่กำลังเติบโต ได้ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนอย่างล้นหลาม และในปลายปี 2021 ได้เข้าสู่ 10 อันดับแรกในการจัดอันดับสกุลเงินดิจิทัลตามมูลค่าราคาตลาด และเพราะการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้โซลาน่าได้ฉายาว่าเป็น “Ethereum Killer”

2022-2023: เอาชนะความผิดพลาดและภาวะซบเซา ก่อนจะทยานขึ้นอีกครั้ง

ตั้งแต่ปี 2022 ถึง 2023 เหรียญ SOL ประสบกับความผันผวนของราคาอย่างรุนแรงอีกครั้ง ราคาที่เคยซื้อขายกันที่ประมาณ 170 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2022 ได้ร่วงลงจนเกือบแตะ 10 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี

เหตุผลของการล่มสลายของ Solana ในช่วงเวลานี้มีดังนี้:

• การล่มสลายของกระดานแลกเปลี่ยน FTX: Solana มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ FTX และได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการล่มสลายของแพลตฟอร์ม
• ตลาด cryptocurrency โดยรวมซบเซา: สกุลเงินดิจิทัลโดยรวมร่วงลง รวมถึง Bitcoin
• ปัญหาการหยุดชะงักของเครือข่าย: การหยุดชะงักของเครือข่ายหลายครั้ง ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ

ในปี 2022 เครือข่ายประสบปัญหาการหยุดชะงักหลายครั้ง สาเหตุหลักคือการเพิ่มขึ้นของธุรกรรมสแปมเนื่องจากค่าธรรมเนียมต่ำ รวมถึงธุรกรรมจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับ NFT Mint และข้อบกพร่องของซอฟต์แวร์ ปัญหาเหล่านี้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความเสถียร ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาเหรียญ

อย่างไรก็ตาม ในปี 2023 เหรียญ SOL เริ่มแสดงสัญญาณของการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเพิ่มขึ้นจาก 20 ดอลลาร์ในช่วงต้นปีเป็นมากกว่า 100 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี

เบื้องหลังการฟื้นตัวนี้คือ:

• ความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นสำหรับการอนุมัติ Bitcoin Spot ETF
• การเติบโตของระบบนิเวศของ Solana เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของโครงการ DeFi และ NFT และการขยายตัวของชุมชนนักพัฒนา
• ความคาดหวังสำหรับตลาดโดยรวมก่อน Bitcoin Halving

เมื่อสิ้นสุดปี 2023 Solana ได้หลุดพ้นจากภาวะซบเซาของปีที่แล้วอย่างสมบูรณ์และกลายเป็นที่สนใจอีกครั้ง

2024-2025: สร้างแนวโน้มขาขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ตั้งแต่ปี 2024 ถึงกุมภาพันธ์ 2025 ราคาของ Solana (SOL) ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะประสบกับการขึ้นๆ ลงๆ ราคาซึ่งอยู่ที่ประมาณ 100 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2024 ได้เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 200 ดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025

ปัจจัยหลักสำหรับการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างรวดเร็วนี้ ได้แก่ :

• ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของ Trump นำไปสู่การไหลเข้าของเงินทุนไปยัง Altcoins โดยรวม รวมถึง Ripple (XRP)
• การสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับบริษัทขนาดใหญ่ (เช่น Shopify และ Visa)
• ประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ดีขึ้นเนื่องจากการอัปเกรดเครือข่าย

สิ่งที่ควรทราบเป็นพิเศษคือ SOL ได้บันทึกสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 294 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2025 โดยเบื้องหลังการพุ่งขึ้นของราคานี้คือการออกคริปโต AI Agent จำนวนมากบน Solana และการยอมรับความเหนือกว่าทางเทคนิคของเครือข่ายนี้ในตลาด

เนื่องจากหลายคนคาดหวังกับอนาคตของ Bitcoin ส่งผลให้ Altcoins จำนวนมาก รวมถึง Solana ก็มีราคาเพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของราคา SOL ในช่วงเวลานี้กล่าวได้ว่าเป็นภาพสะท้อนของประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งของตลาด Cryptocurrency โดยรวมนั่นเอง

อนาคตและความเป็นไปได้ของ Solana (SOL) คืออะไร? เป็นเรื่องจริงหรือไม่ที่มันจบแล้ว?

Solana ปรากฏตัวในปี 2020 และขึ้นเป็นผู้นำในฐานะ Ethereum Killer แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีบางคนตั้งคำถามว่า “อนาคตของโซลาน่าจบแล้วหรือยัง” ดังนั้นในส่วนนี้เราจะอธิบาย 5 ประเด็นสำคัญที่ควรพูดถึง เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพในอนาคตของโซลาน่า

• การอัปเกรด Firedancer
• ความคาดหวังต่อ Solana ETF
• สามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้หรือไม่
• การขยายตัวของระบบนิเวศและการนำระบบนิเวศไปใช้ในทางปฏิบัติ
• ต้นทุนการดำเนินงานที่สูง

การอัปเกรด Firedancer

การอัปเกรด Firedancer ได้รับความสนใจในฐานะปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบอย่างมากต่ออนาคตของ SOL โดยเหตุผลหนึ่งที่คนตั้งคำถามถึงศักยภาพเครือข่ายคือ อัตราความล้มเหลวในการทำธุรกรรมที่สูง กล่าวกันว่าการอัปเกรด Firedancer นี้จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว

การอัปเกรด Firedancer ได้รับการพัฒนาโดย Jump Crypto ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน Web3 มีศักยภาพในการปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่ายโซลานาอย่างมาก

คุณสมบัติหลักและผลกระทบที่คาดหวังของ Firedancer มีดังนี้:

• มีศักยภาพถึง 1 ล้าน TPS (จำนวนธุรกรรมต่อวินาที) ในทางทฤษฎี และอาจปรับปรุงความเร็วในการประมวลผลของเครือข่ายอย่างมาก
• ด้วยการออกแบบ Modular สามารถอัปเกรดส่วนประกอบแต่ละส่วนได้โดยไม่ต้องปิดระบบทั้งหมด
• อาจเพิ่มความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของเครือข่าย และลดต้นทุนการดำเนินงานของ Validator หรือผู้ตรวจสอบได้

การพัฒนาอยู่ในระหว่างดำเนินการโดยมีเป้าหมายที่จะเปิดตัว Mainnet ในปี 2025 และหากประสบความสำเร็จ อาจกลายเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งในการแข่งขันกับโครงสร้างพื้นฐานตลาดการเงินแบบเดิม

ความคาดหวังต่อ Solana ETF

อนาคตและความเป็นไปได้ของ Solana ขึ้นอยู่กับการอนุมัติ ETF ด้วย เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2025 กระดานแลกเปลี่ยน Cboe BZX ได้ส่งใบสมัคร Solana Spot ETF ไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (SEC) อีกครั้ง พร้อมด้วยบริษัทอีก 4 แห่ง ได้แก่ Bitwise, VanEck, 21Shares และ Canary Capital

สิ่งนี้สะท้อนถึงสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เป็นมิตรกับ crypto มากขึ้น ภายใต้การบริหารของประธานชั่วคราวคนใหม่ของ SEC อย่าง Mark Ueda

หาก Solana ETF ได้รับการอนุมัติ จะมีการคาดการณ์ถึงผลกระทบดังต่อไปนี้:

• การขยายตลาดที่เนื่องมาจากการไหลเข้าของเงินทุนจากนักลงทุนระดับสถาบัน
• การเข้าถึง Solana ที่มากขึ้นสำหรับนักลงทุนทั่วไป
• การเร่งการเติบโตและการพัฒนาของระบบนิเวศ

ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญ มีความเห็นที่แพร่หลายว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ Solana ETF จะได้รับการอนุมัติภายในปี 2025 ซึ่งเป็นผลมาจากการประสบความสำเร็จของ Bitcoin ETF และ Ethereum ETF คุณสมบัติของธุรกรรมความเร็วสูงและค่าธรรมเนียมต่ำของ Solana มีแนวโน้มที่จะดึงดูดความสนใจมากยิ่งขึ้นหลังจากการอนุมัติ ETF

สามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้หรือไม่

ความสามารถในการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งก็มีส่วนอย่างมากต่ออนาคตของโซลาน่า ซึ่งใช้ความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมที่รวดเร็วและต้นทุนต่ำเป็นอาวุธในการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอย่าง Ethereum และ Cardano

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ Ethereum แล้ว Solana สามารถประมวลผลธุรกรรมได้ 800 ถึง 2600 รายการต่อวินาที ในขณะที่ Ethereum อยู่ที่ประมาณ 15 ถึง 30 รายการเท่านั้น

ความเร็วที่ท่วมท้นและค่าธรรมเนียมต่ำนี้ เป็นตัวส่งเสริมการยอมรับในด้าน DeFi และ NFT มาตลอด อย่างไรก็ตาม คู่แข่งก็ไม่ได้ยืนอยู่เฉยๆ เพราะ Ethereum กำลังเปิดตัวเทคโนโลยี Sharding เพื่อปรับปรุงความสามารถในการปรับขนาดเช่นกัน นอกจากนี้ Cardano และ Polkadot ก็ยังมีจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองและกำลังดำเนินการแข่งขันที่ดุเดือดเช่นกัน

ถ้า Solana ต้องการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งต่อไป ต่อไปนี้จะเป็นสิ่งสำคัญ:

• ขจัดช่วงเวลาชะงักที่เคยเกิดขึ้นในอดีตและปรับปรุงเสถียรภาพของเครือข่าย
• ดึงดูด DApps และโครงการจำนวนมากโดยการขยายระบบนิเวศของนักพัฒนา
• ดึงดูดนักลงทุนระดับสถาบันและปรับปรุงความน่าเชื่อถือโดยการอนุมัติ ETF และอื่นๆ

หาก Solana สามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งในการประมวลผลที่รวดเร็วและต้นทุนต่ำ ในขณะที่ก็สามารถจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ได้ ก็จะไม่ถูกตั้งข้อสงสัยในอนาคตอีกต่อไป

การขยายตัวของระบบนิเวศและการนำระบบนิเวศไปใช้ในทางปฏิบัติ

ระบบนิเวศของโซลาน่าเติบโตอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะขยายตัวต่อไปในปี 2025 เพราะนอกจากลักษณะของเครือข่ายที่ทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วด้วยต้นทุนที่ต่ำแล้ว ยังมีการนำไปใช้ในทางปฏิบัติในหลากหลายสาขาอีกด้วย เช่น DeFi, NFT และ Gaming
ตัวอย่างของแอปพลิเคชันเชิงปฏิบัติของ Solana มีดังนี้:

• แพลตฟอร์ม DeFi เช่น Solend และ Jupiter เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ใช้ได้รับบริการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ
• ตลาด NFT เช่น Magic Eden ได้รับความนิยม สร้างโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ๆ สำหรับศิลปินและผู้สร้างสรรค์
• เกมบล็อกเชน เช่น Mini Royale และ Aurory ที่เข้ามามอบประสบการณ์การเล่นเกมใหม่ๆ และความเป็นไปได้ในการสร้างรายได้ให้กับผู้เล่น

นอกจากนี้ โปรโตคอลการชำระเงินอย่าง “Solana Pay” ได้ถูกเปิดตัวบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopify เพื่อให้ผู้ใช้สามารถช้อปปิ้งบน Solana ได้ และกำลังถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นในหลากหลายสาขา

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประยุกต์ใช้งานจริงมากนัก ดังนั้น การได้เห็นตัวอย่างการนำโซลาน่ามาใช้เพิ่มเติมในอนาคตจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ

ต้นทุนการดำเนินงานที่สูง

Solana คาดว่าจะมีความสามารถในอนาคตในฐานะบล็อกเชนประสิทธิภาพสูงที่ตระหนักถึงการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและต้นทุนต่ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้นทุนจะเกิดขึ้นในด้านต่อไปนี้:

• ต้นทุนการดำเนินงานของผู้ตรวจสอบ: การรันผู้ตรวจสอบอาจมีค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 20,000 – 40,000 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งรวมถึงค่าเช่าเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและค่าธรรมเนียมธุรกรรมรายวัน
• การระดมทุนผ่านเงินเฟ้อ: Solana มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 18% ต่อปี ซึ่งใช้เพื่อระดมทุนรางวัลให้กับผู้ตรวจสอบ อัตราเงินเฟ้อที่สูงนี้อาจนำไปสู่การลดทอนมูลค่าในระยะยาว
• การใช้พลังงาน: แม้ว่าจะยังต่ำกว่า Bitcoin และ Ethereum แต่การบำรุงรักษาเครือข่าย Solana ยังมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่เหมาะสม

โครงสร้างต้นทุนสูงเหล่านี้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความยั่งยืนของโซลานา อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการลดต้นทุนในอนาคตผ่านการพัฒนาทางเทคโนโลยีและประสิทธิภาพ เช่น การอัปเกรด Firedancer ที่กล่าวถึงไปแล้ว

ในปัจจุบัน ข้อโต้แย้งที่ว่า “โซลานาล้าสมัยแล้วเนื่องจากมีต้นทุนการดำเนินงานสูงเกินไป” ก็มีความจริงอยู่บ้าง ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่ามูลค่าที่แท้จริงของ Solana จะได้รับการทดสอบในอนาคต

การคาดการณ์ราคา Solana ในอนาคต | 2025-2030

เมื่อเรารู้จักโซลานากันไปแล้ว ทีนี้เราจะมาดูการคาดการณ์ราคาในอนาคตของ SOL จากผู้เชี่ยวชาญต่างๆ กันบ้าง โปรดทราบว่าค่าสำหรับการพยากรณ์แต่ละครั้งอาจแตกต่างกันมาก ดังนั้นโปรดใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น

ราคาในอนาคตของ Solana ในปี 2025

ผู้เชี่ยวชาญได้ประมาณการราคาในอนาคตของ SOL ในปี 2025 ไว้ที่ตั้งแต่ 1 เท่าถึง 4 เท่า

• นักวิเคราะห์จากบริษัทจัดการสินทรัพย์ VanEck คาดการณ์ว่าราคา SOL ในปี 2025 จะอยู่ในช่วง 166 – 555 ดอลลาร์
• บริษัทจัดการการลงทุน Bitwise คาดการณ์ว่า SOL จะแตะ 750 ดอลลาร์ในปี 2025
• ในการวิเคราะห์ของ CryptoMaster สื่อ Cryptocurrency มีแนวโน้มว่า SOL จะซื้อขายในช่วง 186 – 200 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2025

การคาดการณ์เหล่านี้คำนึงถึงความเหนือกว่าทางเทคนิคของ Solana ความสนใจที่เพิ่มขึ้นของผู้เล่นระดับสถาบัน และการเติบโตของตลาด DeFi และ NFT

ราคาในอนาคตของ Solana ในปี 2026

ทุกบริษัทคาดการณ์ว่าราคาในอนาคตของ Solana ในปี 2026 จะเติบโตมากกว่าในปี 2025

• กระดานแลกเปลี่ยน crypto อย่าง Changelly คาดการณ์ว่าราคา SOL ในปี 2026 จะอยู่ที่ระหว่าง 271 – 331 ดอลลาร์ โดยมีราคาเฉลี่ยที่ 280 ดอลลาร์
• เว็บไซต์ทำนายราคาด้วย AI อย่าง DigitalCoinPrice คาดการณ์ว่าราคาเฉลี่ยของ SOL ในปี 2025 จะอยู่ที่ 482 ดอลลาร์ และวิเคราะห์ว่าคาดว่าจะมีการเติบโตต่อไปในปี 2026
• สื่อ Cryptocurrency Investing Haven คาดการณ์ว่าช่วงราคาในปี 2026 จะอยู่ที่ 329 – 704 ดอลลาร์ แสดงถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่ง

ราคาในอนาคตของ Solana ในปี 2030

การคาดการณ์ราคาของ Solana ในปี 2030 ค่อนข้างเป็นไปในแง่ดีเป็นส่วนใหญ่ การคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญหลายรายแสดงให้เห็นว่าโซลานามีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมในอนาคต

• ในสถานการณ์ที่มองโลกในแง่ดีของบริษัทจัดการสินทรัพย์อย่าง VanEck คาดการณ์ว่า Solana จะอยู่ที่ 3,211 ดอลลาร์ในปี 2030 และ 981 ดอลลาร์ในสถานการณ์ที่ซบเซากว่านั้น
• เว็บไซต์ DigitalCoinPrice คาดการณ์ว่าราคาเฉลี่ยของ Solana ในปี 2030 จะอยู่ที่ 1,531 ดอลลาร์ โดยมองว่าการนำไปใช้งานในระยะยาวคือปัจจัยขับเคลื่อน
• ส่วนในการคาดการณ์ของคณะผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทวิจัยการลงทุนอย่าง Finder มองว่าราคาเฉลี่ยของ SOL ในปี 2030 น่าจะอยู่ที่ 848 ดอลลาร์ โดยมีสมมติฐานถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งและการเติบโตของระบบนิเวศของ Solana

สรุป
ในบทความนี้ เราได้อธิบายคุณสมบัติที่สำคัญ แนวโน้มราคาในอดีต ข้อกังขาด้านประสิทธิภาพ และการคาดการณ์ราคาในอนาคตของ Solana เพื่อพิจารณาศักยภาพในอนาคต

ก่อนจากกัน เราขอทบทวนอีกครั้งว่าสิ่งสำคัญที่ต้องจับตาดูต่อไป เพื่อคาดการณ์ศักยภาพในอนาคตของ Solana มีดังนี้:

• ผลกระทบของการอัปเกรด Firedancer
• การอนุมัติ Solana ETF
• การแก้ปัญหาความแออัดของเครือข่าย

นอกจากนี้ นโยบายทางเศรษฐกิจของอเมริกาก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดคริปโตโดยรวม จึงจำเป็นต้องติดตามเหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจอยู่เสมอ

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาตัวเลือกการลงทุนอื่น เรามองว่า Solaxy (SOLX) เป็นทางเลือกที่ดีในขณะนี้ เพราะมีโอกาสเข้ามาขจัดจุดอ่อนของ Solana ด้วยการเป็นโซลูชัน Layer 2

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับศักยภาพในอนาคตของ Solana